สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 743

“หยุดพล่าม พูดมาเลยเร็วๆ”

เย่จิ่งหลานโยนบุหรี่และไฟแช็กกันลมให้

หวังซุ่นยิ้มทันที จุดไฟ แล้วสูบอย่างเคลิบเคลิ้ม

มายืนอยู่ข้างๆ แล้วพูดว่า “นี่คือสิ่งที่อาจารย์ของข้าพูด ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ แต่ท่านอ๋องน้อยระวังไว้ก็ดี คนผู้นี้อาจไม่ใช่เด็กธรรมดา”

“บอกประเด็นสำคัญ”

เพื่อไม่ให้เป็นไข้หวัด เย่จิ่งหลานจิบน้ำพุวิญญาณหนึ่งคำ เขารู้สึกดีขึ้นมากในทันที

หวังซุ่นสูบบุหรี่อีกคำหนึ่ง แล้วพูดด้วยสีหน้าสบาย “ในตอนนั้นอาจารย์ของข้าที่มาจากจงหยวนผู้นั้นถูกตระกูลโมริตะจับตัวไป ตระกูลโมริตะอยากจะเก็บอาจารย์ของข้าไปใช้งานเองมาโดยตลอด หลังจากพยายามมาตลอดหลายปี ในที่สุดก็ล้มเหลว จึงโยนอาจารย์ของข้าไปขังไว้ในคุกอันมืดมิด ในช่วงหลายปีที่เขาอยู่ในตระกูลโมริตะ ก็ได้รู้ความลับบางอย่าง และเล่าให้ข้าพเจ้าฟังก่อนจะเสียชีวิต”

หวังซุ่นหยุดครู่หนึ่ง จู่ๆ ก็แสดงท่าทางหวาดกลัวอีกครั้ง ผ่อนเสียงให้เบาลงเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว

“อาจารย์ของข้าบอกว่า อ๋องน้อยโมริตะผู้นี้ไม่ธรรมดาเช่นกัน วิญญาณในร่างกายของเขา อาจไม่ใช่เขา”

เย่จิ่งหลานนั่งตัวตรงทันที หรือว่าเขาเดาถูก เป็นผู้ข้ามมิติมาอีกคน?

หวังซุ่นกล่าวต่อ “ในตงหลิว มีเคล็ดวิชาลับในการถ่ายโอนวิญญาณ อาจารย์ของข้าบอกว่าโมริตะคาวาสึบาเมะคนนี้ อาจจะเป็นหัวหน้าตระกูลคนแรกของตระกูลโมริตะ”

“โอ้? ถ่ายโอนวิญญาณ?”

เย่จิ่งหลานรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาเคยเห็นคำประเภทนี้ในนิยายปรัมปราเท่านั้น หากเป็นเรื่องจริง เจ้าเด็กเปรตนี่ ไม่เท่ากับเป็นปีศาจแก่งั้นหรือ

แต่ได้ยินหวังซุ่นพูดว่า “ใครๆ ก็รู้แค่ว่าท่านอ๋องโมริตะรักท่านอ๋องน้อยคนนี้มาก และท่านอ๋องน้อยก็ค่อนข้างมีความสามารถมาก อย่างไรก็ตาม ตามข้อสังเกตของข้า เขาทำตัวเหมือนเด็กที่อายุไม่กี่ขวบ อีกทั้งวรยุทธ์ก็สูงมาก ข้าเคยเห็นเขาซัดฝ่ามือใส่องครักษ์จนเละเป็นโจ๊กด้วยฝ่ามือเดียว”

เย่จิ่งหลานเงยหน้าขึ้น ถามด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “แล้วข้าล่ะ เหมือนเด็กอายุเท่าไหร่”

หวังซุ่นหัวเราะแหะๆ

“ท่านอ๋องเป็นของจริงแท้แน่นอน โมริตะนั่นเป็นของปลอม จะเทียบกับของท่านอ๋องได้อย่างไร”

เย่จิ่งหลานยิ้มและด่าว่า “ของจริงโคตรพ่อเจ้าสิ แล้วอาจารย์เจ้ารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์