เย่จิ่งหลานแสร้งตีหน้าร้อนอกร้อนใจ กลิ้งตัวคลานลงไปในทะเล
โมริตะคาวาสึบาเมะหายใจเข้าลึกๆ สองครั้ง และความรู้สึกเจ็บปวดก็หายไปในที่สุด
เมื่อมองดูผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งสอง พวกเขาแน่นิ่งราวกับปลาที่ตายแล้ว สันนิษฐานว่าตายไปแล้ว
โมริตะคาวาสึบาเมะอดไม่ได้ที่จะก่นด่าในใจ
โคตรพ่อโคตรแม่มันเถอะ เมื่อครู่มันคืออะไร
เย่จิ่งหลานมาถึงตรงหน้าเขา ใช้กำลังทั้งหมดเพื่อช่วยพยุงโมริตะคาวาสึบาเมะให้ลุกขึ้น
ทั้งสองคนมีร่างกายที่อายุไม่กี่ขวบ ทันทีที่คลื่นยักษ์ซัดมา ก็หอบร่างพวกเขาทั้งสองกลับลงไปในน้ำ
“สหาย เจ้าเป็นไรหรือไม่”
เย่จิ่งหลานเช็ดน้ำทะเลออกจากหน้า แล้วดึงโมริตะคาวาสึบาเมะอีกครั้ง
เมื่อเห็นเจ้าเด็กเปรตนี่เสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยตัวเอง โมริตะคาวาสึบาเมะก็รู้สึกซาบซึ้งใจเล็กน้อย
“ไม่เป็นไร”
โมริตะคาวาสึบาเมะคลานขึ้นจากน้ำ และคว้าเย่จิ่งหลานไว้ หวังซุ่นก็วิ่งมาแต่ไกลเช่นกัน
“คุณชาย พวกท่านเป็นอะไรหรือไม่”
เดิมทีคิดว่าเย่จิ่งหลานต้องการฆ่าโมริตะคาวาสึบาเมะ แต่จู่ๆ เขาก็ปิดสวิตช์ไฟฟ้า หวังซุ่นก็ต้องยื่นมือออกไปดึงทั้งสองคน แล้วยกทั้งสองขึ้นฝั่ง
โมริตะคาวาสึบาเมะนั่งลงบนพื้น ความรู้สึกของการรอดชีวิตจากภัยพิบัตินี้ช่างดีเหลือเกิน
น่าเสียดายที่องครักษ์ทั้งสองของเขา พอเงยหน้าขึ้นมอง ร่างของพวกเขาจมอยู่ใต้น้ำทะเลแล้ว
“ขอโทษด้วย เมื่อครู่ข้ากำลังเก็บปูอยู่ ไม่เห็นพวกเจ้าจมน้ำ ต้องขอโทษจริงๆ เฮ้อ ผู้ติดตามสองคนของเจ้า อาจจะไม่รอดแล้ว”
เย่จิ่งหลานแกล้งทำเป็นรู้สึกผิด แต่ในใจกลับรู้สึกเสียใจภายหลัง
ด้วยแรงดันไฟฟ้าที่แข็งแกร่งเช่นนี้ เจ้าเด็กเปรตนี่ยังสามารถอยู่รอดได้ เกรงว่าวรยุทธ์ของเขาคงไม่ด้อยกว่าเย่จิ่งอวี้ ไม่รู้จริงๆ ว่าความคิดชั่วๆ ของตัวเองนี้ จะถูกหรือผิด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ยังอัพไม่จบเลย หลายเรื่องเลย อัพมาครึ่งทางแล้วทำไมหยุดอัพดื้อๆค่ะ...
จะอัพเมื่อไหร่คะ...
มาต่อเร็วๆนะแอด...
หยุดอีกแล้ว...
กระหม่อม หม่อมฉัน สลับมั่วไปหมด...
มาอ่านต่อกันเร็วๆ แอดกลับมาอัพต่อแล้ว ขอบคุณค่ะ...
สนุกมาก น่าติดตามมาก เขียนและแปลได้ดีจริงๆ ดีใจที่กลับมาลงต่อ อัพเดตเรื่อยๆ วันละหลายๆ ตอน นะคะ...
หยุดชะงักลงตรงบทนี้ ต่อหรือพอเพียงแค่นี้😁...
หยุดแค่นี้หรือไปต่อ😁...
อัพต่อรออยู่ค่ะ...