กวนเซี่ยววิ่งออกจากโรงเตี๊ยม พูดอย่างตื่นเต้น “ยังมีห้องว่างอยู่ สามารถเข้าพักได้”
แต่เห็นว่าฟางรั่วตัวสั่นไปทั้งร่าง เหมือนจะยืนโงนเงน
เขารีบถามว่า “เกิดอะไรขึ้น”
“ข้าเริ่มเหนื่อยแล้ว เข้าไปพักก่อนเถอะ!”
ฝ่ามือของฟางรั่วเต็มไปด้วยเหงื่อ
กวนเซี่ยวไม่กล้าชักช้า รีบประคองนางเข้าไปในห้องพัก
“เจ้านอนพักสักครู่ ข้าจะไปตามหมอมา”
“ไม่ต้อง ข้าอยากนอนสักพัก เจ้าออกไปก่อน!”
ฟางรั่วพูดจบก็หลับตา
กวนเซี่ยวไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปิดประตู ปล่อยให้นางพักผ่อนอยู่ในห้อง
ฟางรั่วรออยู่ครู่หนึ่งแล้วค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง
นางติดตามอาซือหลานมาตั้งแต่อายุไม่กี่ขวบ ทุกอย่างเกี่ยวกับเขา นางคุ้นเคยดีที่สุด
ทุกอากัปกิริยาการเคลื่อนไหวของเขา เหมือนจะประทับอยู่ในหัวใจของฟางรั่ว
แม้ว่าเขาจะเปลี่ยนกลิ่นอายของตัวเองด้วยเครื่องเทศพิเศษ แต่ฟางรั่วก็ยังคงจำการก้าวย่างของเขาได้
นางสามารถเอาหัวเป็นประกันได้ ว่าชายที่สวมหมวกสานใบใหญ่ คืออาซือหลานแน่ๆ
ความตื่นเต้นและความโกรธค่อยๆ จางหายไป ฟางรั่วก็ค่อยๆ กลับคืนสู่ความสงบก่อนหน้านี้
แน่นอนว่าการเดาของนางนั้นถูกต้อง ไม่เพียงแต่อาซือหลานจะยังไม่ตาย แต่เขายังเปลี่ยนตัวตนของเขาด้วย แต่ไม่รู้ว่าตัวตนปัจจุบันของเขาคือใคร และความสัมพันธ์ระหว่างเขากับสำนักต่างๆ เป็นอย่างไร
จำเป็นต้องค้นหาตัวตนปัจจุบันของอาซือหลานให้ได้ก่อน รวมถึงเครือข่ายความสัมพันธ์ของเขาในเป่ยไห่ จากนั้นจึงหาคนที่สามารถช่วยนางแก้แค้นได้
ในเวลาเดียวกัน ตัวนางเองก็ต้องปกปิดร่องรอยให้มากที่สุด
ในเมื่อนางจำอาซือหลานได้ อาซือหลานก็ต้องจำนางได้ วันนี้นางอาจจะปฏิบัติต่อนางเหมือนคนสัญจรไปมาธรรมดาๆ แต่ถ้าพบกันอีกครั้ง ตัวตนจะถูกเปิดเผยอย่างแน่นอน
ตอนนี้นาสูญเสียวรยุทธ์แล้ว วรยุทธ์ของกวนเซี่ยวก็แค่พอถูไถ สามารถจัดการกับโจรธรรมดาๆ ได้เท่านั้น เมื่ออยู่ต่อหน้ายอดฝีมือจากสำนักต่างๆ ในเป่ยไห่ ก็ไม่ต่างจากเด็กหัดเดิน สู้หน้าใครไม่ได้เลย
เพิ่งมาถึงที่นี่ ฟางรั่วก็ถอนหายใจอย่างหนัก
นางกับอาซือหลานต้องตายกันไปข้างหนึ่ง ไม่ต้องการทำให้กวนเซี่ยวลำบากอีก เมื่อมองย้อนกลับไปในการเดินทางครั้งนี้ เขาห่วงใยนางมาก จนแม้แต่คนใจหินยังต้องละลาย ยิ่งกว่านั้น ความเยือกเย็นของฟางรั่วล้วนเป็นของปลอม
ฟางรั่วกระตุกมุมปากขึ้นยิ้มอย่างขมขื่น
นี่คือที่เรียกว่ามีบุพเพแต่ไร้วาสนากระมัง นางกับกวนเซี่ยวไม่ใช่คนบนเส้นทางเดียวกันมาแต่แรก
เมื่อมองขึ้นไป ก็เห็นร่างสูงยืนอยู่ที่ประตู ขอบตาของฟางรั่วแดงเล็กน้อย
นางถือรองเท้าปักเดินเท้าเปล่ามาที่หน้าต่าง
ฤดูหนาวในเป่ยไห่ไม่หนาว หน้าต่างเปิดอยู่ทั้งหมด ด้านนอกเป็นทางด้านหลังโรงเตี๊ยม มีทางเดินเล็กๆ เงียบสงบและมีกองหญ้าเหี่ยวๆ อยู่ข้างๆ เมื่อเดินไปอีกหน่อย ก็จะเป็นชายฝั่งทะเล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ยังอัพไม่จบเลย หลายเรื่องเลย อัพมาครึ่งทางแล้วทำไมหยุดอัพดื้อๆค่ะ...
จะอัพเมื่อไหร่คะ...
มาต่อเร็วๆนะแอด...
หยุดอีกแล้ว...
กระหม่อม หม่อมฉัน สลับมั่วไปหมด...
มาอ่านต่อกันเร็วๆ แอดกลับมาอัพต่อแล้ว ขอบคุณค่ะ...
สนุกมาก น่าติดตามมาก เขียนและแปลได้ดีจริงๆ ดีใจที่กลับมาลงต่อ อัพเดตเรื่อยๆ วันละหลายๆ ตอน นะคะ...
หยุดชะงักลงตรงบทนี้ ต่อหรือพอเพียงแค่นี้😁...
หยุดแค่นี้หรือไปต่อ😁...
อัพต่อรออยู่ค่ะ...