เมื่อเห็นเก่อหงยวนยื้อยุดไม่ยอมเลิก ชายชุดดำก็อดโกรธไม่ได้
เขาพูดเสียงอ้างว้างเย็นชา “ในเมื่อเจ้ารนหาที่ตายเอง ข้าจะช่วยเจ้า”
ทันใดนั้นเขาก็ลงมา ซัดฝ่ามือใส่กระหม่อมของเก่อหงยวน
เมื่อเห็นว่าเก่อหงยวนกำลังจะตายด้วยน้ำมือของศัตรู เหล่าศิษย์ทั้งหมดก็ตื่นจากภวังค์ ต่างวิ่งไปปกป้องเก่อหงยวน
ศิษย์คนหนึ่งที่แอบชอบเก่อหงยวนรวบรวมความกล้ามายืนอยู่ตรงหน้านาง แต่กลับถูกโจมตีอย่างแรงจนสมองระเบิด และตายไปโดยที่ไม่ทันได้ร้องด้วยความเจ็บปวดด้วยซ้ำ
เก่อหงยวนอดไม่ได้ที่จะกรีดร้อง
“ศิษย์น้องหลิว!”
ชายคนนั้นจับอินชิงเสวียนด้วยมือข้างเดียว มองด้วยสายตาราวกับมองฝูงมด
“วันนี้ พวกเจ้าทุกคนต้องตาย!”
เขาโบกมือขวา ลูกพลังงานที่ไร้ร่างก็โผล่ออกมาจากฝ่ามือของเขา เหมือนแผ่นเหล็กขนาดใหญ่ ที่ซัดใส่ทุกคนอย่างแรง
ทุกคนตกตะลึง ใช้วิชาตัวเบาเหาะหลบไปข้างๆ ทันที ในไม่ช้าพวกเขาก็พบว่า เท้าของตัวเองเหมือนจะถูกตอกตะปูติดกับพื้น จนขยับไม่ได้เลย
ดวงตาของทุกคนฉายแววสิ้นหวังอย่างลึกซึ้ง
เจ้าสำนักและผู้อาวุโสก็กำลังเผชิญหน้ากับคนระดับแม่ทัพ ไม่มีเวลามาช่วยพวกเขาด้วยซ้ำ คราวนี้พวกเขาต้องตายแล้วจริงๆ
ในขณะนี้ ก็ได้ยินเสียงดังปังๆ ชายชุดดำก็ยั้งมือทันที บนแขนพลันปรากฏรูเลือด
เขามองตามเสียงนั้น ก็มีเด็กชายอายุเจ็ดแปดขวบสะท้อนสู่สายตา
เด็กชายมีใบหน้าประณีต กำลังมองเขาอย่างเย็นชาด้วยดวงตาสีเข้ม ยังถือวัตถุสีดำอยู่ในมือ มีควันสีเงินจางๆ ลอยอ้อยอิ่งขึ้นท่อเหล็ก
“ปล่อยอินชิงเสวียนเดี๋ยวนี้”
เด็กชายยิงออกไปอีกสองนัด
ชายชุดดำโบกแขนเสื้อ กระสุนก็ลอยไปทันที ชายคนนั้นรู้สึกหงุดหงิดอย่างมากกับความเจ็บปวดที่แขน
“เจ้าเด็กเปรต ข้าจะส่งเจ้าไปพบยมบาลเดี๋ยวนี้”
ซึ่งเด็กชายคนนี้คือเย่จิ่งหลานที่ต่อสู้แบบกองโจรมาโดยตลอด ถ้าเจอหลายคน เขาจะซ่อนตัวอยู่ในมิติ เมื่อมีคนน้อย เขาจะออกมายิงอีกสองนัด
ระหว่างทางเขาฆ่าไปแล้วหกเจ็ดคน ซึ่งทำให้เย่จิ่งหลานมีความมั่นใจมากขึ้นในทันที และไม่รู้สึกกังวลใดๆ
เขาเดินมาจนสุดทาง ตนมาถึงในเมือง ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงกรีดร้อง จึงซ่อนตัวอยู่มุมหนึ่งทันที เมื่อเห็นอินชิงเสวียนคอตก ถูกใครบางคนจับไว้ ก็รีบออกไปโดยไม่ได้คิดอะไร
เมื่อเห็นว่าการยิงนัดนั้นสำเร็จ เย่จิ่งหลานก็ดีใจ อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทันที่เขาจะแสดงความดีใจได้ ก็เห็นกระสุนพุ่งออกมาจากร่างของชายชุดดำ
สีหน้าของเย่จิ่งหลานเปลี่ยนไปพลัน ระหว่างทางล้วนราบรื่นทุกอย่าง แต่ทันใดนั้นเรือก็พลิกคว่ำอย่างไม่คาดคิด
เมื่อเขาตกใจ ชายคนนั้นก็อยู่ตรงหน้าเขาแล้ว เย่จิ่งหลานรู้ว่าตัวเองได้เผชิญหน้ากับคนที่ร้ายกาจ เขาจึงใช้ความคิด หมายจะกลับเข้าไปในมิติ
แต่ครั้งนี้เขาล้มเหลว
รู้สึกว่ามิติถูกห่อหุ้มด้วยลมปราณที่แข็งกร้าวไร้เหตุผล ไม่สามารถเปิดได้
เมื่อก่อนคิดว่าอินชิงเสวียนขู่ให้กลัวไปอย่างนั้นเอง แต่ตอนนี้เย่จิ่งหลานก็เชื่ออย่างนั้นจริงๆ
ด้วยความสิ้นหวัง เขาจึงยิงออกไปอีกหลายนัด แต่ก็ถูกชายในชุดดำแขนกว้างสะบัดปลิวว่อน
เมื่อถูกขัดขวางครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้ความอดทนของชายชุดดำหมดลง นิ้วมือทั้งห้าจิกไปที่หัวของ เย่จิ่งหลาน
ในช่วงเวลาวิกฤติ เสียงดนตรีเร็วถี่ๆ ก็ดังมาแต่ไกล ในไม่ช้าร่างที่คล่องแคล่วแข็งแรงก็ปรากฏขึ้นในคลองสายตาของเย่จิ่งหลาน
เมื่อเห็นคนผู้นี้ เย่จิ่งหลานก็ยินดีปรีดาอย่างอดไม่ได้ ตะโกนเสียงดัง “ผู้คุมตราเซี่ยว ช่วยอินชิงเสวียนก่อนเร็ว!”
เมื่อได้ยินสามคำว่าผู้คุมตราเซี่ยว ชายชุดดำก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ก็กระโดดขึ้นไปในอากาศทันที และหายตัวไปในพริบตา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ยังอัพไม่จบเลย หลายเรื่องเลย อัพมาครึ่งทางแล้วทำไมหยุดอัพดื้อๆค่ะ...
จะอัพเมื่อไหร่คะ...
มาต่อเร็วๆนะแอด...
หยุดอีกแล้ว...
กระหม่อม หม่อมฉัน สลับมั่วไปหมด...
มาอ่านต่อกันเร็วๆ แอดกลับมาอัพต่อแล้ว ขอบคุณค่ะ...
สนุกมาก น่าติดตามมาก เขียนและแปลได้ดีจริงๆ ดีใจที่กลับมาลงต่อ อัพเดตเรื่อยๆ วันละหลายๆ ตอน นะคะ...
หยุดชะงักลงตรงบทนี้ ต่อหรือพอเพียงแค่นี้😁...
หยุดแค่นี้หรือไปต่อ😁...
อัพต่อรออยู่ค่ะ...