ดวงตาของเย่จิ่งอวี้แปรเปลี่ยนเป็นความเย็นชา
“เขามีชีวิตมานานพอแล้ว ครั้งนี้ต้องตัดหัวสุนัขของเขาให้ได้ ดูว่าจะงอกขึ้นมาใหม่ได้อย่างไร”
อินชิงเสวียนตอบอืม พูดว่า “คนเลวทรามเช่นเขา แม้ว่าจะถูกหั่นเป็นชิ้นๆ นับพันครั้งก็ไม่เกินไป หากไม่มีเขา ทหารจำนวนมากในด่านถงกู่ก็ไม่ต้องตายเปล่ามากมายเพียงนั้น”
พรุ่งนี้นางสามารถใช้ทักษะช่วงชิงโชคลาภได้อีก แต่นางไม่รู้ว่าทักษะนี้สามารถซ้อนทับได้หรือไม่ หากทำได้ หากได้เจอชายชุดดำอีก นางจะใช้ทักษะนี้ทั้งหมดกับเขา แม้ว่าเขาจะเป็นเทพเซียนผู้ยิ่งใหญ่แค่ไหนก็ตาม ก็ไม่สามารถต้านทานอานุภาพของเทคโนโลยีชั้นสูงได้
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ อินชิงเสวียนก็กระตุกริมฝีปากขึ้น
เสี่ยวหนานเฟิงปีนลงมาจากบ้านลมปราสาท วิ่งดุ๊กดิ๊กเข้ามาเหมือนนกเพนกวินตัวน้อย
“สวยแม่ เล่น เล่น”
เด็กเล่นอยู่คนเดียวออกจะน่าเบื่อไปหน่อย เสียดายก็แต่ไป๋เสวี่ยที่ไม่สามารถเข้ามาในมิติได้ ถ้าทำได้ นางก็จะพาเข้ามาเล่นกับเสี่ยวหนานเฟิงแล้ว
เมื่อคิดถึงไป๋เสวี่ย อินชิงเสวียนก็คิดถึงความสามารถที่ยอดเยี่ยมในการค้นหาคน
“เราอาจใช้ไป๋เสวี่ยค้นหาชายชุดดำที่ไม่ทราบตัวตนคนนั้นได้”
เย่จิ่งอวี้ไม่ได้คัดค้านเรื่องนี้ แต่เขาไม่มีเสื้อผ้าของชายชุดดำอยู่ในมือ หากไม่มีกลิ่นของเขา แม้จะเป็นสุนัข ก็ไม่สามารถหาเจอได้
“ถ้าอยากหาที่ซ่อนของเขา ก็ต้องมีเสื้อผ้าของเขาก่อน ถ้าเป้าหมายของเขาคือข้า ข้าก็จะล่อให้เขาปรากฏตัวเอง”
อินชิงเสวียนไม่ต้องการให้เย่จิ่งอวี้ตกอยู่ในอันตราย แต่ไม่มีวิธีใดดีไปกว่านี้แล้ว เจ้าสำนักเซี่ยวรับปากว่าจะช่วยเย่จิ่งอวี้แก้ปัญหานี้ มีผู้อาวุโสเช่นเขาอยู่ ก็สามารถรับรองความปลอดภัยของเย่จิ่งอวี้ได้
เย่จิ่งอวี้กล่าวเสริมว่า “แต่จัดการกับอาซือหลานก่อนดีกว่า ถ้าเขาไม่ตาย จะสร้างปัญหาอีกครั้งแน่นอน”
ทั้งสองต้องการบรรลุจุดหมายเดียวกัน แล้วจึงหันไปเล่นกับเสี่ยวหนานเฟิง
ตั้งแต่มาที่เป่ยไห่ ลูกก็อยู่กับอวิ๋นฉ่าย จังอวี้จิ่น และไป๋เสวี่ยเจ้าสุนัขตัวใหญ่ตัวนี้อยู่ตลอด พวกเขาสองคนทำหน้าที่พ่อแม่ได้ไม่ดีจริงๆ
ทั้งสองต้องการใช้เวลากับลูก จึงอยู่ในมิติ ในขณะที่สองพ่อลูกกำลังเล่นกันอยู่ อินชิงเสวียนก็เข้าไปในร้านค้าสะสมคะแนนในมิตินั้น
แลกกับหนังสือเกี่ยวกับการสร้างเรือมาเล่มหนึ่ง แล้วแลกเปลี่ยนไก่เคเอฟซีและเครื่องดื่มเป็นจำนวนมาก สำหรับลูกยิ่งไม่ควรปล่อยปละละเลย อินชิงเสวียนใช้หม้อจุดไฟแอลกอฮอล์มาปรุงโจ๊กใส่เนื้อและผักให้เสี่ยวหนานเฟิง เมื่อได้กลิ่นหอมเท้าเล็กๆ มีเริ่มอยู่ไม่นิ่ง กระโดดโลดเต้นด้วยท่าทางน่ารักน่าเอ็นดู
นี่เป็นครั้งแรกที่เย่จิ่งอวี้ได้กินไก่ทอดเคเอฟซี รู้สึกว่าแผ่นแป้งที่มีไก่ชิ้นโตวางซ้อนข้างในนั้นอร่อยจริงๆ ยังมีข้าวโพดหอมหวาน รวมถึงเครื่องดื่มอร่อยๆ นั่นอีก เปิดโลกทัศน์ให้ตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า
มีสถานที่ดีๆ เช่นนี้ แม่จะอยู่ที่นี่ไปตลอดชีวิตก็ไม่มีวันเบื่อ
ครั้นแล้วสามคนพ่อแม่ลูกก็เล่นกันจนมืด จึงนอนพักอยู่ในมิติเสียเลย
เตียงที่อินชิงเสวียนแลกมานั้นใหญ่พอสำหรับสามคน คนหนึ่งอยู่ทางซ้ายและอีกคนหนึ่งอยู่ทางขวา จับมือเล็กๆ ทั้งสองข้างของเสี่ยวหนานเฟิง และสบตาส่งยิ้มให้กันเป็นครั้งคราว เต็มไปด้วยความสุขแม้ไม่ได้พูดออกไป
อินชิงเสวียนไม่อยากคิดถึงเรื่องยุ่งยากเหล่านั้นในช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ จึงทำใจให้ปลอดโปร่งและนอนหลับอย่างสบาย เมื่อลืมตาขึ้นมาก็เป็นเวลาแปดโมงเช้าแล้ว
เย่จิ่งอวี้กำลังเล่นกับเสี่ยวหนานเฟิงบนบ้านลมปราสาท เมื่อเห็นสองพ่อลูกกระโดดขึ้นลงบนนั้น อินชิงเสวียนก็อดหัวเราะไม่ได้
หากเหล่าขุนนางราชสำนักเห็นเย่จิ่งอวี้ที่เล่นเหมือนเด็ก ไม่รู้ว่าพวกเขาจะคิดเช่นไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ยังอัพไม่จบเลย หลายเรื่องเลย อัพมาครึ่งทางแล้วทำไมหยุดอัพดื้อๆค่ะ...
จะอัพเมื่อไหร่คะ...
มาต่อเร็วๆนะแอด...
หยุดอีกแล้ว...
กระหม่อม หม่อมฉัน สลับมั่วไปหมด...
มาอ่านต่อกันเร็วๆ แอดกลับมาอัพต่อแล้ว ขอบคุณค่ะ...
สนุกมาก น่าติดตามมาก เขียนและแปลได้ดีจริงๆ ดีใจที่กลับมาลงต่อ อัพเดตเรื่อยๆ วันละหลายๆ ตอน นะคะ...
หยุดชะงักลงตรงบทนี้ ต่อหรือพอเพียงแค่นี้😁...
หยุดแค่นี้หรือไปต่อ😁...
อัพต่อรออยู่ค่ะ...