สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 780

เมื่อเห็นสีหน้าของเจ้าสำนักเซี่ยว อินชิงเสวียนก็รู้ว่าการเดินทางครั้งนี้ไม่มีประโยชน์อะไรเลย

“อาอวี้ ท่านกลับไปก่อนเถอะ”

เย่จิ่งอวี้รู้ว่าอินชิงเสวียนอยากถามเรื่องเมื่อคืนนี้ จึงพยักหน้ารับ

“ข้าจะรอเจ้า”

อินชิงเสวียนตอบรับ และเดินมากลางห้องโถง

เจ้าสำนักเซี่ยวนั่งลงบนเก้าอี้ ยกน้ำชาที่ชงด้วยน้ำพุวิญญาณขึ้นมาดื่ม และรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นไม่น้อย

“ผู้เยาว์ขอพบผู้อาวุโสเซี่ยว ให้ผู้เฒ่าเช่นท่านออกไปลำบากตลอดค่ำคืนเพื่อพวกข้า ข้ารู้สึกไม่สบายใจอย่างแท้จริง”

อายุของท่านผู้เฒ่าแก่ชรายิ่งกว่าคุณย่าในยุคปัจจุบันของอินชิงเสวียนเสียอีก เมื่อมองหนวดเคราที่เต็มไปด้วยหงอก แต่กลับยังต้องทำงานอย่างหนักเพื่อเรื่องนี้ อินชิงเสวียนไม่รู้ว่าควรแสดงความขอบคุณอย่างไรดี

เมื่อได้ยินเสียงของอินชิงเสวียน สีหน้าของเจ้าสำนักเซี่ยวก็ผ่อนคลายลงทันที

“ชีวิตของข้ามีไว้เพื่อความลำบาก เจ้าไม่จำเป็นต้องคิดมาก เพียงแต่น่าเสียดายที่คืนนี้ไม่ประสบผลสำเร็จ ข้านำสุนัขออกตามหาโดยรอบ แต่กลับไม่พบร่องรอยของคนคนนั้นเลย สถานการณ์ทางด้านพวกเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”

เจ้าสำนักเซี่ยวถาม แต่ก็รู้สึกว่าไม่มีประโยชน์

หากเด็กทั้งสองหาพบแล้ว จะต้องรายงานเขาทันทีที่เดินเข้ามา

“ทางด้านของผู้เยาว์ก็ไม่พบชายคนนั้น ปล่อยให้ผู้อาวุโสเฮ่อและผู้อาวุโสสวีตากลมทะเลทั้งคืนโดยเปล่าประโยชน์”

อินชิงเสวียนก้มหน้าลงด้วยความรู้สึกผิดในใจ

เจ้าสำนักเซี่ยวโบกมือแล้วพูดว่า “ข้าเดาไว้แล้วว่าต้องเป็นเช่นนี้ เจ้าไม่ต้องคิดมาก หากเรื่องแค่นี้เขายังไม่มีหัวคิด เขาจะฝังโลหิตให้แก่อวี้เอ๋อร์อีกภายใต้ความลี้ลับได้อย่างไรกัน”

เขาชะงักไปแล้วพูดอีกว่า “เขานิ่งเฉยมานานหลายปีขนาดนี้ แต่จู่ๆ กลับตามหาอวี้เอ๋อร์พบที่นี่ คงเป็นเพราะร่างกายของเขาฝืนทนต่อไปไม่ไหวแล้ว แม้พวกเราจะไม่ตามหาเขา เขาก็ต้องมาเองแน่นอน”

อินชิงเสวียนขมวดคิ้วเล็กน้อย

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องออกไปตามหาเขาแล้ว สู้เฝ้ารออยู่ที่นี่ดีกว่า แล้วรอให้เขาติดกับของเราเอง”

เจ้าสำนักเซี่ยวครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “เมื่อเทียบกับการลอบโจมตีข้าในครั้งก่อน วรยุทธ์ของคนผู้นี้ดูเหมือนจะแย่ลงมาก ด้วยความสามารถของเขาในตอนนี้ แทบไม่กล้าบุกเข้ามาในหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ หากต้องการล่อให้เขามาติดกับโดยไว ยังจำเป็นต้องออกโจมตีก่อน ต้องจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยก่อนที่ชาวตงหลิวจะหวนกลับคืนมาอีก”

อินชิงเสวียนโน้มตัวเล็กน้อยแล้วพูดว่า “เจ้าค่ะ เช่นนั้นพรุ่งนี้พวกเราค่อยออกตามหารอบๆ กันใหม่ ต่อจากนี้ต้องรบกวนท่านผู้อาวุโสด้วยนะเจ้าคะ”

เจ้าสำนักเซี่ยวยืนขึ้นแล้วพูดว่า “เรื่องต่อจากนี้ เจ้าไม่ต้องเป็นกังวล ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว เจ้ารีบไปพักผ่อนก่อนเถอะ!”

“ชิงเสวียนขอลาเจ้าค่ะ”

อินชิงเสวียนเดินมาหน้าประตู และชะงักฝีเท้าลง

นางลังเลครู่หนึ่งแล้วหันกลับมาพูดว่า “อาอวี้มีนิสัยหยิ่งยโส หากพูดสิ่งใดที่ไม่เหมาะไม่ควร ขอท่านผู้อาวุโสอย่าได้ใส่ใจเลยนะเจ้าคะ”

เจ้าสำนักเซี่ยวได้ยินดังนั้นก็ยิ้มแล้วพูดว่า “ข้าจะคิดเล็กคิดน้อยกับเด็กๆ ไปทำไมกัน อย่าได้คิดฟุ้งซ่านอะไรอีกเลย รีบกลับไปเถอะ”

พูดจบก็เดินออกไปจากกลางห้องโถง และไปยังเรือนด้านหลัง

อินชิงเสวียนถอนหายใจเบาๆ และกลับไปยังห้องพักของตัวเอง

เย่จิ่งอวี้ถอดหยกคาดเอวออกแล้ว ชายปกเสื้อขนาดกว้างห้อยลงมาที่หน้าอกของเขาและร่วงลงบนพื้น ภายใต้แสงสลัวของท้องฟ้า สามารถมองเห็นลักษณะของกล้ามเนื้อหน้าท้องของเขาได้อย่างคลุมเครือ

จู่ๆ อินชิงเสวียนก็นึกถึงตอนที่ตัวเองปลอมตัวเป็นขันที และเย่จิ่งอวี้ให้ตัวเองปรนนิบัติรับใช้เขาตอนอาบน้ำ

ตอนนั้นนางแทบไม่กล้าเลิกสายตามองแม้แต่น้อย วันนี้กลับต้องมาเป็นสามีภรรยาที่แท้จริงกับเขา การพัฒนาความสัมพันธ์ถึงระดับนี้ ไม่ว่าอย่างไรนางก็ไม่อาจเฝ้าฝันถึงได้

เมื่อเห็นว่าสาวน้อยต้องมองแผงอกของตัวเอง เย่จิ่งอวี้จึงเลิกคิ้วถามว่า “เสวียนเอ๋อร์กำลังคิดอะไรอยู่งั้นหรือ?”

อินชิงเสวียนกระแอมไอแล้วพูดว่า “ข้ากำลังคิดถึงเรื่องที่เจ้าสำนักเซี่ยวพูดเมื่อครู่เพคะ”

เย่จิ่งอวี้ถามเสียงเรียบ “เขาพูดอะไรอีกงั้นหรือ?”

อินชิงเสวียนนั่งลงหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ถอดดอกไม้มุกที่ทัดไว้บนศีรษะ พร้อมกับเล่าความต้องการของเจ้าสำนักเซี่ยวให้แก่เย่จิ่งอวี้ได้รับรู้

นอกจากวิธีการเหล่านี้ ความจริงก็ไม่มีวิธีที่ดีกว่าอีกแล้ว

“ทำตามความต้องการของเขาไปเถอะ”

เมื่อวานเย่จิ่งอวี้เพิ่งรู้ว่าร่างกายของตัวเองผิดปกติ สิ่งนี้เป็นวิชาอาคมที่เรียกว่าการฝังโลหิต วิชานี้ใช้เลือดในการเลี้ยงร่างกาย เมื่ออีกฝ่ายเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ ก็จะสามารถใช้ประโยชน์จากความอ่อนแอทางจิตใจของเขา เพื่อนำร่างกายนี้ไปยืดอายุของตัวเองได้

บทที่ 780 ฉุยอวี้มาเยี่ยมเยียน 1

บทที่ 780 ฉุยอวี้มาเยี่ยมเยียน 2

บทที่ 780 ฉุยอวี้มาเยี่ยมเยียน 3

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์