ทันทีที่ฉุยอวี้ดีดนิ้วมือ เลือดหนึ่งหยดก็กระเด็นออกมาจากปลายนิ้ว และหยดลงตรงกลางรอยปานรูปผีเสื้อ
หยดเลือดแทรกซึมเข้าสู่ร่างกาย รอยปานสีแดงที่อยู่บนไหล่ของอินชิงเสวียน เกิดการเปลี่ยนแปลงที่น่าแปลกประหลาดในทันที
สายเลือดที่มีลักษณะคล้ายสัญลักษณ์โบราณหลายเส้นปรากฏออกมาจากรอยปานสีแดงอย่างรวดเร็ว แล้วหายไปในพริบตา
และทุกสิ่งเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายในพริบตาเดียว
อินชิงเสวียนรู้ถึงเพียงความเย็นเล็กน้อยบนหัวไหล่ และคิดว่าเป็นลมเย็นที่พัดเข้ามาตอนที่เปิดประตู นางรีบหยิบกระโปรงพับกลีบมาคลุมร่างกายไว้ เมื่อหันกลับมาก็พบว่าผู้ที่มาเยือนคือฉุยอวี้
“เจ้าสำนักฉุยมาที่นี่ได้อย่างไร?”
อินชิงเสวียนสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย ใบหน้าเล็กที่งดงามแสดงความไม่พอใจออกมา
แม้ว่าฉุยอวี้ก็เป็นผู้หญิงอย่างแท้จริง แต่การเข้ามาโดยไม่เคาะประตู นับว่าเสียมารยาทไปหน่อย
สายตาของฉุยอวี้กลับมองไปทั่วใบหน้าของอินชิงเสวียนอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางนัยน์ตาเกิดความรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย
ทว่าเพียงพริบตาเดียวก็กลับมาเป็นปกติเช่นเคย
นางประสานมือคำนับและพูดว่า “ขออภัยที่บังอาจมารบกวน ข้าต้องขอโทษด้วยจริงๆ ข้ามาที่นี่ก็เพื่อต้องการจะขอบคุณคุณชายเย่และแม่นางอิน”
อินชิงเสวียนรู้ว่านางพูดถึงเรื่องการตายของอาซือหลาน นางก็พอรู้เรื่องราวที่ฉุยอวี้ต้องประสบพบเจอมาจากกวนเซี่ยวเช่นกัน สีหน้าของนางจึงผ่อนคลายลงเล็กน้อย
หากว่าเป็นผู้หญิงทั่วไปที่พบเจอเรื่องราวเช่นนี้ แม้ว่าจะไม่พยายามคิดฆ่าตัวตาย แต่เกรงว่าอาจไม่กล้าปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนอีกเลย ฉุยอวี้สามารถนิ่งสงบเช่นนี้ได้ สมกับเป็นยอดคนอย่างแท้จริง
“เจ้าสำนักฉุยไม่ต้องเกรงใจ เดิมทีอาซือหลานก็เป็นศัตรูของพวกเรา แม้ไม่มีเจ้าสำนักฉุย พวกเราก็ต้องให้เขาชดใช้ด้วยชีวิต”
“บุญคุณและความแค้นของพวกท่านและอาซือหลาน ข้าเองก็ได้ฟังมาจากคุณชายกวนบ้างแล้ว ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เป็นศัตรูคนสำคัญของข้า”
ตอนที่ฉุยอวี้พูดนั้น สายตาก็จับจ้องไปที่อินชิงเสวียนตลอดเวลา จากนั้นก็หยิบจี้หยกพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวที่โปร่งใสราวกับก้อนน้ำแข็งออกมาจากด้านในเสื้อ
“หยกชิ้นนี้คือหยกเย็นพันปี มีพลังในการรวบรวมสมาธิให้ตั้งมั่น สามารถพกติดตัวเพื่อป้องกันสิ่งชั่วร้ายเข้าสู่ร่างกาย ถือว่าเป็นน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ของข้าเถอะนะ”
อินชิงเสวียนเพิ่งเคยเห็นหยกที่มีสีแบบนี้เป็นครั้งแรก ซึ่งคล้ายกับก้อนน้ำแข็งที่แช่แข็งอยู่ข้างนอกจริงๆ สิ่งที่แตกต่างกันก็คือ ด้านในหยกโปร่งใสอย่างมาก ไม่มีตำหนิเลยแม้แต่น้อย
ด้วยความสงสัย นางจึงยื่นมือออกไปโดยไม่ตั้งใจ
ความรู้สึกเย็นยะเยือกไหลลงมาตามนิ้ว และตรงไปที่แขนขา จากนั้นหัวสมองก็รู้สึกแจ่มแจ้งในทันที
ปรากฏว่าเป็นของดีอย่างแท้จริง ของชิ้นนี้มีค่ามากสำหรับผู้ฝึกวิชาการต่อสู้ หากมีมันอยู่ก็จะสามารถปลุกสมองและจิตใจให้แจ่มใส ไม่ปล่อยให้ธาตุไฟเข้าแทรก
อินชิงเสวียนชักนิ้วมือกลับมาเล็กน้อย ทว่าเมื่อนึกถึงเย่จิ่งอวี้ที่ถูกฝังโลหิตไว้ในร่างกาย เมื่อมองเห็นเลือดก็จะเสียสติ อินชิงเสวียนจึงอยากได้เป็นพิเศษ
ฉุยอวี้มองเห็นความเคลือบแคลงใจของนาง จึงดึงมือของนางเข้ามาและนำหยกวางไว้บนฝ่ามือของนาง
“หยกชิ้นนี้ท่านต้องพกไว้ด้วยตัวเอง...”
นางพูดครึ่งประโยค จากนั้นก็ยิ้มแล้วพูดอีกว่า “ของชิ้นนี้ไม่เพียงสามารถรวบรวมสมาธิและสงบจิตใจเท่านั้น แต่ยังมีผลในด้านของความงามไม่เสื่อมคลาย”
“ในเมื่อเป็นของล้ำค่าเช่นนี้ ข้าว่า...”
ไม่รอให้อินชิงเสวียนพูดจบ ฉุยอวี้ก็ยิ้มแล้วพูดว่า “ท่านและข้ามาพบกันที่นี่ได้ ก็นับว่ามีวาสนาต่อกัน ทว่าสถานที่ที่วุ่นวายอย่างเป่ยไห่ ท่านอย่าได้อยู่พำนักอยู่นานจะดีกว่า ในเมื่อล้างแค้นได้แล้ว ท่านก็ควรไปจากที่นี่พร้อมกับคุณชายน้อยสกุลเย่ และกลับไปใช้ชีวิตคู่สามีภรรยาของท่าน!”
อินชิงเสวียนเงยหน้าขึ้น และเห็นความสนิทสนมในสายตาของฉุยอวี้
ความรู้สึกเช่นนี้แปลกประหลาดอย่างมาก เพราะทั้งสองเพิ่งพบกันได้ไม่นานด้วยซ้ำ
หลังจากที่อาซือหลานตาย เย่จิ่งอวี้ก็เปลี่ยนไปอย่างน่าประหลาด เจ้าสำนักเซี่ยวพาเขาออกไปด้วยความร้อนใจ อินชิงเสวียนก็ตามกลับมาด้วย จึงได้เพียงเหลือบมองฉุยอวี้ที่หน้าประตู ในตอนนั้น นางไม่รู้เลยว่าผู้หญิงคนนี้คือเจ้าสำนักตัวจริงของสำนักเซียวเหยา
“ขอบคุณเจ้าสำนักที่แจ้งให้ทราบ พวกข้ายังมีเรื่องที่ต้องจัดการ อาจจะต้องอยู่ต่ออีกสักพัก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ยังอัพไม่จบเลย หลายเรื่องเลย อัพมาครึ่งทางแล้วทำไมหยุดอัพดื้อๆค่ะ...
จะอัพเมื่อไหร่คะ...
มาต่อเร็วๆนะแอด...
หยุดอีกแล้ว...
กระหม่อม หม่อมฉัน สลับมั่วไปหมด...
มาอ่านต่อกันเร็วๆ แอดกลับมาอัพต่อแล้ว ขอบคุณค่ะ...
สนุกมาก น่าติดตามมาก เขียนและแปลได้ดีจริงๆ ดีใจที่กลับมาลงต่อ อัพเดตเรื่อยๆ วันละหลายๆ ตอน นะคะ...
หยุดชะงักลงตรงบทนี้ ต่อหรือพอเพียงแค่นี้😁...
หยุดแค่นี้หรือไปต่อ😁...
อัพต่อรออยู่ค่ะ...