“พ่ะย่ะค่ะ”
ท่านอ๋องโมริตะหมอบกราบลงบนพื้นทันที ร่างกายที่อวบอ้วนราวกับลูกบอลหนังขนาดใหญ่ น่าขันเป็นอย่างมาก
จักรพรรดิลุกขึ้นยืนด้วยใบหน้าอึมครึม และพูดเสียงเยือกเย็นว่า “นี่เป็นโอกาสครั้งสุดท้าย หากพวกเรายังทำได้ไม่ดี ข้าจะสังหารชาวตงหลิวกลุ่มแรกก่อน เพื่อลดแรงกดดันด้านอาหารที่น้อยลง ข้าจะเริ่มจากขุนนางอย่างพวกเจ้าก่อน และปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน!”
เมื่อพูดจบ จักรพรรดิก็เดินเข้าไปในห้อง
โมริตะและคนอื่นๆ ต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน ทำได้เพียงเดินออกไปจากวังหลวง
เมื่อมาถึงด้านนอก ทั้งสามก็พูดเรื่องน่าเบื่อหน่าย
“ไม่ใช่ว่าใช้ทางอ้อมไม่ได้ แต่การเดินทางทางทะเลในระยะไกล จำเป็นต้องใช้กำลังทหารจำนวนมากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”
“แต่ยังดีกว่าการที่พวกเราถูกเชือด”
ท่านอ๋องโมริตะลูบเคราบางของเขา และพูดเสียงโหดเหี้ยมว่า “ครั้งนี้ไมจำเป็นต้องใช้กองทหารขนาดใหญ่ ตามหาทหารที่เชี่ยวชาญทางน้ำ และคัดเลือกชาวตงหลิวที่มีรูปร่างคล้ายชาวดินแดนจงหยวนเพื่อลักลอบเข้าไป เป้าหมายของพวกเราคือพิณการเวก ตราบใดที่สามารถทำลายพิณนี้ได้ สงครามครั้งนี้ก็มีความเป็นไปได้อย่างมากที่จะได้รับชัยชนะ”
ขณะนั้นเอง เสียงหนุ่มแน่นก็ดังขึ้นที่ด้านหลังของทุกคน
“ข้าขอไปด้วย”
ท่านอ๋องโมริตะหันหน้าไป และถามด้วยความเป็นห่วงทันที
“เจ้าเคยไปมาครั้งหนึ่งแล้ว พวกเขาจะจำเจ้าไม่ได้หรือ?”
ผู้พูดก็คือโมริตะคาวาสึบาเมะ ลูกชายของท่านอ๋องโมริตะ
เขายิ้มที่มุมปากเล็กน้อย พูดด้วยใบหน้าที่ยากเกินคาดเดาว่า “ครั้งนี้ข้าจะเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ชั่วคราว รับรองว่าพวกเขาจำข้าไม่ได้ พวกท่านไปตามหาคนก่อนเถอะ”
ท่านอ๋องโมริตะพูดว่า “มีเจ้าเข้ามาช่วย ข้าสบายใจเป็นอย่างมาก ข้าจะไปตามหาคนเดี๋ยวนี้ ยิ่งออกเดินทางเร็วก็ยิ่งดี”
แม่ทัพอีกสองคนก็พยักหน้า พวกเขาเห็นด้วยกับโมริตะคาวาสึบาเมะ
ในขณะเดียวกันนั้น ลูกศิษย์ที่ส่งจดหมายจากสำนักเซียวเหยาก็เดินทางมาถึงเมืองหลวงแล้ว
เรือนจุ้ยหงค่อนข้างมีชื่อเสียงในเมืองหลวง ลูกศิษย์ของสำนักเซียวเหยาไม่จำเป็นต้องเปลืองแรงมากมาย ก็สามารถหาที่นี่พบ
เขาแสดงสิ่งของออกมา บริกรชายก็รีบนำทางเขามายังด้านหลังเรือน
เฟิงเอ้อร์เหนียงกำลังนั่งอาบแดดอยู่บนเก้าอี้ เมื่อเห็นคนของสำนักเซียวเหยาก็ยิ้มและพูดทันทีว่า “ช่างนี้เจ้าสำนักของพวกเจ้าสบายดีหรือไม่? สงครามเป่ยไห่มีผลเป็นอย่างไรบ้าง?”
ลูกศิษย์คนนั้นพูดด้วยความเคารพว่า “มีเรื่องเกิดขึ้นมากมายขอรับ เถ้าแก่เฟิงอ่านจดหมายก็จะรู้เอง”
เฟิงเอ้อร์เหนียงโบกมืออย่างน่าหลงใหลและมีเสน่ห์อย่างยิ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ยังอัพไม่จบเลย หลายเรื่องเลย อัพมาครึ่งทางแล้วทำไมหยุดอัพดื้อๆค่ะ...
จะอัพเมื่อไหร่คะ...
มาต่อเร็วๆนะแอด...
หยุดอีกแล้ว...
กระหม่อม หม่อมฉัน สลับมั่วไปหมด...
มาอ่านต่อกันเร็วๆ แอดกลับมาอัพต่อแล้ว ขอบคุณค่ะ...
สนุกมาก น่าติดตามมาก เขียนและแปลได้ดีจริงๆ ดีใจที่กลับมาลงต่อ อัพเดตเรื่อยๆ วันละหลายๆ ตอน นะคะ...
หยุดชะงักลงตรงบทนี้ ต่อหรือพอเพียงแค่นี้😁...
หยุดแค่นี้หรือไปต่อ😁...
อัพต่อรออยู่ค่ะ...