สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 861

วันถัดไป

เสียงหัวเราะของเสี่ยวหนานเฟิงปลุกอินชิงเสวียนให้ตื่น

เมื่อลุกขึ้นจากเตียง ก็เห็นสองพ่อลูกกระโดดเล่นบนเตียงทันที

เย่จิ่งอวี้ก็กระโดดขึ้นลงบนเตียงเหมือนเด็กตัวใหญ่ เสี่ยวหนานเฟิงถูกเขย่าจนล้มหงายหลัง อ้าปากหัวเราะไม่หยุด

อินชิงเสวียนยกมุมปากยิ้มอย่างอดไม่ได้ ไม่คาดคิดว่าฮ่องเต้หนุ่มจะมีด้านที่เป็นเด็กเช่นนี้ ผู้ชายเป็นเด็กเสมอ คำพูดนี้ว่าไว้ไม่มีผิดเลย”

นางแปรงผม สวมรองเท้า แล้วเดินลงพื้น

“พวกเจ้าตื่นนานแล้วหรือ”

เย่จิ่งอวี้หยุดทันที

“พวกเราปลุกเสวียนเอ๋อร์หรือเปล่า”

อินชิงเสวียนเหลือบมองนาฬิกาเรือนใหญ่ที่แขวนอยู่บนร้านค้าสะสมคะแนน ตอนนี้เป็นเวลาเก้าโมงแล้ว

“เปล่า สายป่านนี้แล้ว ถ้าข้ายังไม่ตื่น คงกลายเป็นหมู”

เย่จิ่งอวี้ก้มลงอุ้มเสี่ยวหนานเฟิงขึ้นมา ทันทีที่ดีดปลายเท้า คนก็มาอยู่ตรงหน้าอินชิงเสวียนแล้ว

“ในโลกนี้มีหมูที่น่ารักเหมือนเสวียนเอ๋อร์ด้วยหรือ ถ้ามี ข้าอยากจะเลี้ยงไว้สักตัว”

“เชอะ ไม่สนใจท่านแล้ว”

อินชิงเสวียนร้องเชอะ แล้วนึกในใจ จากนั้นทั้งหมดก็ออกมาอยู่ในห้อง

บนโต๊ะมีกับข้าวสี่อย่างและโจ๊กสองชาม

ตอนนี้ยังร้อนๆ อยู่ ดูเหมือนว่าเพิ่งถูกส่งมาไม่นานนี้เอง

“อาอวี้กินก่อนสิ ข้าจะไปหาอะไรให้จ้าวเอ๋อร์กิน”

“ข้ายังไม่หิว เราไปด้วยกันเถอะ”

เย่จิ่งอวี้รับเสี่ยวหนานเฟิง มองดูอินชิงเสวียนที่ต้มไข่ ลวกเส้น และค่อยๆ เป่าให้เย็นลง ทั้งหมดล้วนทำอย่างคล่องแคล่ว เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงความสงบสุขของชีวิต

เมื่ออินชิงเสวียนเงยหน้าขึ้น ก็เห็นเย่จิ่งอวี้มองตัวเองด้วยรอยยิ้มมุมปาก จึงแหวอย่างอดไม่ได้ “มองข้าแบบนั้นทำไมรึ”

เย่จิ่งอวี้โอบแขนรอบเอวของนาง กดใบหน้าแนบกับหน้าท้องอันอ่อนนุ่มของนาง

“การได้รู้จักกับเสวียนเอ๋อร์ในวันนี้ ถือเป็นความสุขที่สุดในชีวิตของข้า”

เสี่ยวหนานเฟิงเลียนแบบท่าทางของเขาทันที อ้าแขนโอบกอดอินชิงเสวียน

พูดเสียงเจื้อยแจ้ว “ลูกก็สุขๆ”

เมื่อมองดูคนตัวเล็กคนตัวโต อินชิงเสวียนก็อดยิ้มไม่ได้

นางยื่นมือออกมาลูบหัวกลมๆ ของเสี่ยวหนานเฟิง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เอาล่ะ เรามามีความสุขด้วยกัน ตอนนี้ถึงเวลากินข้าวแล้ว จ้าวเอ๋อร์นั่งลงเร็ว”

เสี่ยวหนานเฟิงพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง นั่งห้อยขาบนเก้าอี้ผ้า

“กินข้าวข้าว”

เจ้าเด็กอ้วนพึมพำอะไรบางอย่างเบาๆ แล้วอ้าปากเล็กๆ เหมือนนกรออาหาร

อินชิงเสวียนเป่าอย่างระมัดระวัง แล้วป้อนให้เขา

เสี่ยวหนานเฟิงกินทีละคำ หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็กินข้าวบดใส่ไข่แดงหมดไปชามหนึ่ง

นี่เป็นครั้งแรกที่เย่จิ่งอวี้เห็นเสี่ยวหนานเฟิงกินข้าว

“จ้าวเอ๋อกินเก่งจริงๆ จะไม่แน่นท้องแย่หรือ”

อินชิงเสวียนพูดด้วยรอยยิ้ม “จ้าวเอ๋อร์กินข้าวหมดชามได้นานแล้ว ครึ่งชั่วยามหลังจากนี้ยังจะกินผลไม้เพิ่มอีก”

เย่จิ่งอวี้ตกใจมาก แต่เมื่อเห็นท่าทางแข็งแรงของลูกชาย ก็รู้สึกโล่งใจ

อินชิงเสวียนลูบหน้าอกเล็กๆ ที่อวบอ้วนของเสี่ยวหนานเฟิงเบาๆ เพื่อช่วยย่อย จากนั้นก็อุ้มเจ้าเด็กน้อยไปที่เตียง แล้วส่งรถของเล่นให้เล่นคนเดียว

ทั้งสองกินอาหารเช้าแบบเรียบง่าย จากนั้นพาเสี่ยวหนานเฟิงออกไปเดินเล่น เมื่อมาถึงลานบ้าน ก็เห็นเป่าเล่อเอ่อร์นั่งอยู่ในศาลาทันที

สีหน้าของนางดูดีขึ้นมาก แต่ท่าทางยังดูหดหู่อยู่บ้าง

อินสิงอวิ๋นยืนอยู่ข้างหลังนาง อยู่ข้างๆ อย่างเงียบงัน หนุ่มหล่อหญิงสวยอยู่ในฉากเดียวกันนั้น งดงามราวกับภาพวาดที่ไม่มีใครตัดใจทำลายได้

เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า เป่าเล่อเอ่อร์ก็มองมาทางนี้ทันที

“ชิงเสวียน!”

นางรู้ว่าอยู่ที่นี่เรียกกุ้ยเฟยไม่ได้ ต้องเรียกตามชื่อของนาง

เสี่ยวหนานเฟิงวิ่งไปหาอินสิงอวิ๋น แล้วตะโกนเสียงนุ่มนิ่ม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์