สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 870

เมื่อสบตากัน เย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกเวียนหัวทันที

ดูเหมือนว่าทั้งคนจะตกอยู่ในมโนภาพอีกครั้ง ฉากนองเลือดนับไม่ถ้วนแวบออกมา หัวใจเต้นแรงอย่างคุมไม่ได้

อินชิงเสวียนกะพริบตายิ้ม

“อาอวี้ มีอะไรหรือ”

เย่จิ่งอวี้รู้สึกตัวขึ้นมาทันที

“ม่ะ ไม่มีอะไร”

อินชิงเสวียนเอียงคอมองเขา ด้วยสายตาขี้เล่นคู่นั้นของหญิงสาว

“หรือว่าข้าโคจรลมปราณไม่ถูกต้อง?”

เย่จิ่งอวี้วางนิ้วลงบนชีพจรของอินชิงเสวียน เส้นลมปราณของหญิงสาวนั้นราบรื่น ไม่มีอะไรผิดปกติ

“ไม่มี เสวียนเอ๋อร์ทำถูกแล้ว”

เย่จิ่งอวี้ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วถามว่า “เสวียนเอ๋อร์เคยฝึกฝนวรยุทธ์แบบอื่นหรือไม่”

อินชิงเสวียนส่ายหัว

“ไม่มีนะ ทำไมอาอวี้ถามแบบนั้น”

“เมื่อครู่ข้าเห็นแสงสีม่วงลอยวนอยู่บนฝ่ามือของเจ้า มันไม่ใช่วิทยายุทธ์ของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ถึงได้ถามเช่นนั้น”

สำหรับดวงตาของอินชิงเสวียนนั้น เย่จิ่งอวี้ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรดี

ความรู้สึกนั้นคล้ายกับตอนที่มองตาของเถียนเซินหลินมาก แต่ก็แน่ใจว่าเป็นไปไม่ได้ที่หญิงสาวจะเรียนรู้วรยุทธ์ของเขา

อินชิงเสวียนพูดด้วยรอยยิ้ม “ข้าแค่เรียนเพลงยุทธ์ของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ที่อาอวี้สอนข้าเท่านั้น ไม่เคยคบค้าสมาคมกับคนอื่นเลย”

แต่ในใจกลับรู้สึกประหลาดใจและมีความสุข

หากนางเดาถูก นี่น่าจะเป็นทักษะที่ได้จากช่วงชิงโชคลาภ

ไม่คาดคิดว่าจะสามารถรับเอาวรยุทธ์และทักษะความสามารถของคู่ต่อสู้ได้จริงๆ

ก่อนหน้านี้ตอนที่ใช้ทักษะช่วงชิงโชคลาภ อินชิงเสวียนก็มีความรู้สึกนั้นแล้ว แต่ยังคิดไม่ออก คิดไม่ถึงว่าการนั่งสมาธิในวันนี้ จะสามารถแสดงทักษะเหล่านี้ได้ทั้งหมด

สิ่งที่นางต้องทำตอนนี้คือใช้เวลาตรวจสอบทักษะเหล่านี้ทั้งหมด ด้วยวิธีนี้เท่านั้น ถึงจะสามารถใช้ประโยชน์เพื่อตัวเองได้อย่างแท้จริง

“พลังภายในของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์และทำนองเพลงส่งเสริมกัน หากเสวียนเอ๋อร์สามารถฝึกฝนวิทยายุทธ์ได้ดี วันหน้าเมื่อบรรเลงพิณการเวกต้องได้ผลคุ้มค่าแน่นอน”

เสียงของเย่จิ่งอวี้ดึงอินชิงเสวียนออกจากห้วงความคิดของนาง นางพยักหน้าอย่างจริงจัง

“ข้าจะตั้งใจฝึกฝนให้หนัก”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์