ทันใดนั้นอ๋องโมริตะก็แสดงสีหน้ายินดี เพิ่มกำลังภายในแล้วตะโกนว่า “ตั้งค่ายกล ฆ่าให้เรียบ!”
ชาวตงหลิวต่างคุ้มกันซึ่งกันและกันทันที ทั้งหมดวิ่งไปหาอ๋องโมริตะ
เย่จิ่งอวี้เมื่อเห็นสองคนนั้นกำลังจะไป เขาก็ตะโกนลั่น รวบรวมพลังปราณไว้ในมือขวา ชักกระบี่ยาวออกมา และโจมตีที่ด้านหลังหัวใจของหนึ่งในนั้น
คนผู้นั้นร้องครวญคราง กระอักเลือดและทรุดลงกับพื้น ส่วนอีกคนเมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่ดี ก็รีบคว้าชาวตงหลิวคนนั้นไว้เป็นเกราะกำบังตัว แล้วกลืนเข้าในฝูงชน
เย่จิ่งอวี้ไม่ได้ไล่ตาม แต่มาอยู่ข้างๆ อินชิงเสวียน
“เสวียนเอ๋อร์ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”
“ข้าไม่เป็นไร พวกเขาจะทำอะไรกันน่ะ”
อินชิงเสวียนทอดสายตามองออกไป
เย่จิ่งอวี้มองตามสายตาของนาง เมื่อเห็นคนตงหลิวทั้งหมดมารวมตัวกันก็ขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้
“ดูเหมือนกำลังจะตั้งค่ายกลเลย ท่านตากับผู้อาวุโสสวีนำเจ้าสำนักไปแล้ว คงไม่ยอมให้พวกเขาประสบความสำเร็จแน่”
“อืม พวกเขาคิดจะตั้งค่ายกลในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ ย่อมไม่ธรรมดาแน่ เราต้องป้องกันไว้ก่อน”
ในขณะที่พูด อินชิงเสวียนก็เห็นศิษย์ที่ได้รับบาดเจ็บหลายคนถูกหามกลับไป จึงรีบคว้าตะกร้าขวดน้ำพุวิญญาณที่บรรจุไว้ก่อนหน้านี้ออกจากมิติทันที
“ฟางรั่ว เจ้าช่วยแจกจ่ายน้ำพุวิญญาณนี้ให้กับเหล่าศิษย์ที่ได้รับบาดเจ็บ ผู้ที่บาดเจ็บภายในให้พวกเขาดื่ม ส่วนผู้ที่บาดเจ็บภายนอกก็ใช้น้ำล้างบาดแผลได้เลย”
“ได้”
ฟางรั่วหยิบตะกร้าไม้ไผ่ใบใหญ่ขึ้นมา แล้วตรงไปหาศิษย์ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส
ในเวลานี้ เจ้าสำนักเซี่ยวพร้อมด้วยเจ้าสำนักคนอื่นตรงเข้าไปยังใจกลางของพวกตงหลิวแล้ว
เฉกเช่นพยัคฆ์ที่วิ่งเข้าไปในฝูงแกะ ชาวตงหลิวแยกออกเป็นสองฝั่งราวกับคลื่นที่ถูกแหวกกลาง เผยให้เห็นถนนทั้งสายทันที
โมริตะคาวาสึบาเมะยิ้มเยาะ
วันนี้เขากำลังอารมณ์ไม่ดี พอดีล่ะจะได้จัดการกับตาเฒ่าพวกนี้เพื่อเป็นการระบายอารมณ์ซะ
ก่อนหน้านี้จิตวิญญาณและร่างกายยังไม่หลอมรวมเป็นหนึ่งโดยสมบูรณ์ มีความสามารถไม่เพียงพอที่จะเป็นหัวใจค่ายกลของค่ายกลเทวะสังหารได้
แม้ว่าค่ายกลนี้จะผ่านการฝึกฝนในตงหลิวมาแล้วหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ไม่เคยสามารถสำแดงอานุภาพที่มันควรมีได้เลย
แต่วันนี้ ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิม
เขาไม่เพียงต้องการยึดเป่ยไห่เท่านั้น แต่ยังต้องการฆ่าตาเฒ่าต่ำช้าที่เนรเทศเขาไปยังตงหลิวด้วย
เมื่อนึกถึงอดีตที่ผ่านมา โมริตะคาวาสึบาเมะก็ฉายแววเกลียดชังในดวงตา ตะโกนเสียงดังทันที “ถอยไปที่มุมตะวันออกเฉียงเหนือ ขวางตาเฒ่าพวกนั้นไว้ อย่าให้พวกเขาทำลายค่ายกลได้”
ชาวตงหลิวเริ่มล่าถอยอย่างเชื่อฟังทันที ในขณะที่ผู้ที่เดินออกมาข้างหน้าก็เริ่มต่อสู้จนตัวตาย
เจ้าสำนักดาบเดือดเห็นเช่นนั้นก็แสดงสีหน้ายินดี
“หัวกะทิของพวกเขาทั้งหมดอยู่ด้านหลัง นอกจากพวกสุนัขตงหลิวที่ไม่สามารถล่าถอยได้ คนที่อยู่ข้างหน้าล้วนมีแต่ขยะ เราสามารถใช้โอกาสนี้จัดการสังหารได้ ตราบใดที่โมริตะถูกฆ่า ทั้งกลุ่มก็จะไร้ผู้นำ”
ผู้อาวุโสสวีก็คิดเช่นเดียวกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...
คนที่แสดงตัวเป็นพี่ใหญ่ไม่น่าจะเป็นตัวจริงเพราะมีพฤติกรรมลับลมคมในเรื่องต่างๆและทำให้เรื่องต่างๆแย่ลง เหมือนว่าจะหลงรักน้องสาวตัวเองเลยไม่รู้ว่าเป็นน้องแท้ๆหรือเปล่า...