เข้าสู่ระบบผ่าน

สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 881

ทันใดนั้นอ๋องโมริตะก็แสดงสีหน้ายินดี เพิ่มกำลังภายในแล้วตะโกนว่า “ตั้งค่ายกล ฆ่าให้เรียบ!”

ชาวตงหลิวต่างคุ้มกันซึ่งกันและกันทันที ทั้งหมดวิ่งไปหาอ๋องโมริตะ

เย่จิ่งอวี้เมื่อเห็นสองคนนั้นกำลังจะไป เขาก็ตะโกนลั่น รวบรวมพลังปราณไว้ในมือขวา ชักกระบี่ยาวออกมา และโจมตีที่ด้านหลังหัวใจของหนึ่งในนั้น

คนผู้นั้นร้องครวญคราง กระอักเลือดและทรุดลงกับพื้น ส่วนอีกคนเมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่ดี ก็รีบคว้าชาวตงหลิวคนนั้นไว้เป็นเกราะกำบังตัว แล้วกลืนเข้าในฝูงชน

เย่จิ่งอวี้ไม่ได้ไล่ตาม แต่มาอยู่ข้างๆ อินชิงเสวียน

“เสวียนเอ๋อร์ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”

“ข้าไม่เป็นไร พวกเขาจะทำอะไรกันน่ะ”

อินชิงเสวียนทอดสายตามองออกไป

เย่จิ่งอวี้มองตามสายตาของนาง เมื่อเห็นคนตงหลิวทั้งหมดมารวมตัวกันก็ขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้

“ดูเหมือนกำลังจะตั้งค่ายกลเลย ท่านตากับผู้อาวุโสสวีนำเจ้าสำนักไปแล้ว คงไม่ยอมให้พวกเขาประสบความสำเร็จแน่”

“อืม พวกเขาคิดจะตั้งค่ายกลในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ ย่อมไม่ธรรมดาแน่ เราต้องป้องกันไว้ก่อน”

ในขณะที่พูด อินชิงเสวียนก็เห็นศิษย์ที่ได้รับบาดเจ็บหลายคนถูกหามกลับไป จึงรีบคว้าตะกร้าขวดน้ำพุวิญญาณที่บรรจุไว้ก่อนหน้านี้ออกจากมิติทันที

“ฟางรั่ว เจ้าช่วยแจกจ่ายน้ำพุวิญญาณนี้ให้กับเหล่าศิษย์ที่ได้รับบาดเจ็บ ผู้ที่บาดเจ็บภายในให้พวกเขาดื่ม ส่วนผู้ที่บาดเจ็บภายนอกก็ใช้น้ำล้างบาดแผลได้เลย”

“ได้”

ฟางรั่วหยิบตะกร้าไม้ไผ่ใบใหญ่ขึ้นมา แล้วตรงไปหาศิษย์ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส

ในเวลานี้ เจ้าสำนักเซี่ยวพร้อมด้วยเจ้าสำนักคนอื่นตรงเข้าไปยังใจกลางของพวกตงหลิวแล้ว

เฉกเช่นพยัคฆ์ที่วิ่งเข้าไปในฝูงแกะ ชาวตงหลิวแยกออกเป็นสองฝั่งราวกับคลื่นที่ถูกแหวกกลาง เผยให้เห็นถนนทั้งสายทันที

โมริตะคาวาสึบาเมะยิ้มเยาะ

วันนี้เขากำลังอารมณ์ไม่ดี พอดีล่ะจะได้จัดการกับตาเฒ่าพวกนี้เพื่อเป็นการระบายอารมณ์ซะ

ก่อนหน้านี้จิตวิญญาณและร่างกายยังไม่หลอมรวมเป็นหนึ่งโดยสมบูรณ์ มีความสามารถไม่เพียงพอที่จะเป็นหัวใจค่ายกลของค่ายกลเทวะสังหารได้

แม้ว่าค่ายกลนี้จะผ่านการฝึกฝนในตงหลิวมาแล้วหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ไม่เคยสามารถสำแดงอานุภาพที่มันควรมีได้เลย

แต่วันนี้ ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิม

เขาไม่เพียงต้องการยึดเป่ยไห่เท่านั้น แต่ยังต้องการฆ่าตาเฒ่าต่ำช้าที่เนรเทศเขาไปยังตงหลิวด้วย

เมื่อนึกถึงอดีตที่ผ่านมา โมริตะคาวาสึบาเมะก็ฉายแววเกลียดชังในดวงตา ตะโกนเสียงดังทันที “ถอยไปที่มุมตะวันออกเฉียงเหนือ ขวางตาเฒ่าพวกนั้นไว้ อย่าให้พวกเขาทำลายค่ายกลได้”

ชาวตงหลิวเริ่มล่าถอยอย่างเชื่อฟังทันที ในขณะที่ผู้ที่เดินออกมาข้างหน้าก็เริ่มต่อสู้จนตัวตาย

เจ้าสำนักดาบเดือดเห็นเช่นนั้นก็แสดงสีหน้ายินดี

“หัวกะทิของพวกเขาทั้งหมดอยู่ด้านหลัง นอกจากพวกสุนัขตงหลิวที่ไม่สามารถล่าถอยได้ คนที่อยู่ข้างหน้าล้วนมีแต่ขยะ เราสามารถใช้โอกาสนี้จัดการสังหารได้ ตราบใดที่โมริตะถูกฆ่า ทั้งกลุ่มก็จะไร้ผู้นำ”

ผู้อาวุโสสวีก็คิดเช่นเดียวกัน

ยังพูดไม่ทันขาดคำ เพลงพิณของอินชิงเสวียนก็ติดตามมาถึงที่นี่แล้ว คนตงหลิวที่รายล้อมจำนวนมากก็เสียชีวิตภายใต้เพลงพิณที่ถูกเปลี่ยนเป็นปราณกระบี่

เมื่อเห็นว่าคนเหล่านี้อ่อนแอเพียงใด เจ้าสำนักที่อยู่ข้างหลังทำหน้าระรื่น

“ไม่จำเป็นต้องรออีกแล้ว เราสามารถร่วมมือกับเสียงพิณ โจมตีทั้งภายในและภายนอก”

หลังจากพูดจบทั้งหมดก็ปรี่เข้าสนามรบอย่างอดรนทนไม่ได้ และภายใต้เงากระบี่ดาบ คนตงหลิวจำนวนมากก็ล้มลงอีกครั้ง

เมื่อเห็นสถานการณ์นี้ ผู้อาวุโสสวีก็ไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป

“ตาเฒ่าเซี่ยว ไม่ต้องรอแล้ว หากพวกเขาแยกย้ายกันไป หากต้องการซุ่มโจมตีเช่นนี้อีก ก็ไม่ง่ายขนาดนั้นแล้ว”

หลังจากพูดจบเขาก็พุ่งตรงเข้าสู่ใจกลางพวกตงหลิว

“ตาเฒ่าสวี!”

เจ้าสำนักเซี่ยวขวางทาง แต่ก็สายเกินไปแล้ว การเคลื่อนไหวของผู้อาวุโสสวีนั้นเร็วราวสายฟ้าแลบ เพียงกระโดดขึ้นลงสองครั้ง ก็เขาสู่ใจกลางฝูงชนทันที

ศิษย์คนสนิทที่ติดตามอยู่เบื้องหลังของเขาก็ชักกระบี่ออกจากฝักและรีบบุกตามเข้าไป ส่วนเก่อหงยวนยิ่งแสดงความตื่นเต้นออกทางสายตาชัดเจน

นางต้องฆ่าผีแคระตงหลิวเยอะๆ จะยอมให้อินชิงเสวียนเกินหน้าเกินตาตัวเองไม่ได้

โมริตะคาวาสึบาเมะกำลังนั่งอยู่บนคอของคนผู้หนึ่ง มองดูคนเหล่านี้ที่เป็นเหมือนปลาไนแย่งกันข้ามแม่น้ำ รอยยิ้มบนริมฝีปากเยียบเย็นขึ้นเรื่อยๆ

จากนั้นก็ค่อยๆ พ่นออกมา

“เริ่มค่ายกล!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์