สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 912

ทั้งสองผลัดถ้วยแลกจอกร่ำสุรากัน จากนั้นไม่นาน สุราไหนั้นก็หมดถึงก้นไห

แม้ว่าสุราในสมัยโบราณจะมีดีกรีไม่สูงมาก แต่ทุกคนต่างยังเมามายอยู่บ้าง

หยวนเป่าอดไม่ได้ที่จะเตือนด้วยเสียงแผ่วต่ำ “คุณชาย ท่านดื่มน้อยๆ เถอะขอรับ!”

ดวงตาของเฮ่อฉางเฟิงหรี่ลง

“ยุ่งน่า”

แววตาในตอนนี้ ทำให้อินชิงเสวียนอึ้งไปเล็กน้อย

พลังอันเฉียบคมนิ่งขึงขนาดนี้ ไม่เหมือนแววตาที่คนเรียนหนังสือพึงมี

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เฮ่อฉางเฟิงก็กลับมามีใบหน้ายิ้มแย้มอีกครั้ง

เมื่อเห็นว่าแก้มของเขาเริ่มแดงแล้ว เย่จิ่งอวี้ก็ยิ้มแล้วพูดว่า “เจ้ากับข้าก็ดื่มกันไปไม่น้อยแล้ว วันนี้พอเท่านี้เถอะ ใต้หล้าไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกรา ถ้ามีชะตาต้องกัน สักวันคงได้พบกันอย่างแน่นอน”

เฮ่อฉางเฟิงยังอารมณ์ค้างอยู่ แต่ก็ยังพยักหน้า

“เอาเถิด ถึงเราจะนั่งดื่มที่นี่ทั้งคืน อย่างไรก็ต้องแยกจากกันอยู่วันยังค่ำ มิสู้ทิ้งไว้ให้หลงเหลือความคิดถึง เฝ้ารอวันที่จะได้พบกันใหม่”

ทันใดนั้นความโศกเศร้าพลันท่วมท้นหัวใจ

การกลับเพียวเมี่ยวอิ๋นเฉิง ก็เหมือนกับการเข้าคุก เขากับพวกเขา...เกรงว่าจะไม่มีวันได้พบกันอีก...

พวกเขาทั้งสามแยกกันที่หน้าประตูเหลาสุรา เมื่อเย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนกลับไปถึงหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ก็เป็นเวลายามสามแล้ว

กลิ่นไหม้ในอากาศยังไม่จางหายไป อินชิงเสวียนปิดจมูกตลอดทาง เมื่อกลับถึงห้อง นางก็รีบเข้าไปในมิติทันที ถึงได้รู้สึกหายใจสะดวกขึ้น

“ข้าเกรงว่าจะใช้เวลาสามถึงห้าวันกว่ากลิ่นเหม็นไหม้รุนแรงนี้จะหายไปอย่างสมบูรณ์ หากเสวียนเอ๋อร์ไม่ชอบ ก็พักอยู่ในนั้นสักหลายๆ วัน รอให้ประชาชนกลับภูมิลำเนากันทั้งหมดก่อน เราก็จะเดินทางกลับทันที”

เมื่อเห็นท่าทางย่นจมูกของหญิงสาว เย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกปวดใจอยู่มิวาย

“ไม่เป็นไร ข้าก็ไม่ได้บอบบางขนาดนั้น”

อินชิงเสวียนนอนลงบนเตียงอย่างสบายใจ สูดอากาศจากมิติ คนทั้งคนรู้สึกดีขึ้นมาก

“แต่ข้าทนไม่ได้!”

เย่จิ่งอวี้นั่งลงข้างเตียง จับมือน้อยนุ่มนิ่มของนางขึ้นมา แล้วจรดริมฝีปากจูบอย่างอ่อนโยน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์