สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 913

เมื่อเห็นทั้งสองไม่อาจพรากจากกันได้ อินชิงเสวียนก็ค่อนข้างรู้สึกเสียใจ

เย่จิ่งอวี้เล่าเรื่องในเด็กของเขาให้นางฟังน้อยมาก แต่อินชิงเสวียนยังพอสืบความได้อยู่บ้าง

แต่ไหนแต่ไรมาองค์ชายในวังมักจะได้ดีเพราะมารดา หากตระกูลมารดามีความสามารถน้อย องค์ชายก็จะเป็นที่โปรดปรานได้ยาก

แม้ว่าหวนไท่เฟยจะเป็นยอดฝีมือที่มีชื่อเสียงโด่งดังในยุทธภพ แต่ไม่มีรากเหง้าในวัง ต่อมาก็แกล้งตายจากไป ทิ้งเย่จิ่งอวี้ไว้เพียงลำพัง ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าชีวิตนั้นคงยากลำบากอย่างไร

อินชิงเสวียนถึงขั้นสามารถจินตนาการว่าเขาถูกองค์ชายคนอื่นเยาะเย้ยอย่างไร ไม่ได้รับความสนใจจากฮ่องเต้ผู้ล่วงลับไปแล้วอย่างไร

ในเวลาเดียวกันก็รู้สึกว่าโชคดีมาก ที่เย่จิ่งอวี้ไม่ยอมแพ้ต่อตัวเอง หากแต่พึ่งพาความสามารถของเขาเองในการครองบัลลังก์

ไม่ว่าจะก่อกบฏก็ดี หรือวางแผนแย่งชิงบัลลังก์ก็ช่าง อินชิงเสวียนไม่คิดว่ามีเย่จิ่งอวี้จะผิดอะไร ยิ่งไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์เขาด้วยมุมมองของเทพสตรี

ถ้าตัวเองเติบโตขึ้นมาในสภาพแวดล้อมแบบนั้น คงจะใช้ทุกวิถีทางที่จำเป็นเพื่อเหยียบย่ำคนที่รังแกนางและทำให้นางอับอายแน่นอน

ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เย่จิ่งอวี้ที่มีความคิดก้าวหน้า รู้จักใช้คน ต้าโจวได้มีฮ่องเต้องค์ใหม่เช่นนี้ นับเป็นวาสนาของราษฎรแล้ว

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ นางก็ถอนหายใจอย่างเงียบๆ ลุกขึ้นพูดว่า “อาอวี้ ท่านคุยกับท่านแม่ก่อน ข้าจะไปหาจ้าวเอ๋อร์”

ใกล้จะถึงวันแยกทางแล้ว สองแม่ลูกคงมีเรื่องต้องพูดกันมากมาย นางอยู่ที่นั่นคงไม่สะดวก จึงหาข้ออ้างออกไปข้างนอก

อินชิงเสวียนเปิดประตูห้องของเย่จิ่งหลาน แต่ไม่เห็นใครเลย อินชิงเสวียนก็ค่อนข้างงุนงง

“คุณชายน้อยเย่ล่ะ”

ศิษย์หญิงคนหนึ่งกล่าวด้วยความเคารพว่า “คุณชายน้อยบอกว่าจะไปพักผ่อนที่ชายทะเล ประเดี๋ยวคงกลับมาเจ้าค่ะ”

อินชิงเสวียนตอบว่าอ๋อ เมื่อมองซ้ายมองขวาแล้วไม่มีเรื่องอะไร นางจึงไปหาเขาที่ชายทะเล

สิบห้านาทีต่อมา บนก้อนหินขนาดใหญ่ เห็นเย่จิ่งหลานในมือถือก้อนหินอยู่ แล้วโยนลงทะเล

อินชิงเสวียนก้าวเบาๆ และตบไหล่เขาอย่างแรง

“เจ้าคิดอะไรอยู่น่ะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์