สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 920

เก่อหงยวนกัดข้าวโพด แล้วพูดขณะที่เคี้ยวอาหาร “ดีจัง สามารถทำธุรกิจเองได้ เจ้าก็เก่งกาจไม่เบาเลย”

“ที่ไหนกัน เจ้าต่างหากเป็นจอมยุทธ์หญิงเหาะเหินเดินอากาศได้ ถึงเรียกว่าเก่งกาจจริงๆ”

อินชิงเสวียนรู้ว่าหญิงสาวคนนี้ไม่มีเจตนาชั่วร้าย แค่มีนิสัยแข็งกร้าวไปหน่อยเท่านั้น

หลังจากได้ยินคำพูดของอินชิงเสวียน เก่อหงยวนก็เชิดหน้าชูคออย่างภาคภูมิใจทันที เอามือไพล่หลัง เงยหน้ามองท้องฟ้าในมุม 45 องศา แสดงท่าทางประหนึ่งยอดฝีมือ

“อะแฮ่ม เป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องลงโทษผู้ขืนใจและกำจัดความชั่วร้าย ข้าจะตวัดกระบี่ในมือนี้ เพื่อชำระสะสางความสกปรกให้กับโลกนี้อย่างแน่นอน”

“สมแล้วที่เป็นจอมยุทธ์หญิง ดูการสำนึกรู้ของนางสิ สูงส่งเทียมเมฆาจริงๆ”

เย่จิ่งหลานถือปูเดินเข้ามา พออ้าปากพูดก็อวยไม่หยุด

มุมปากของเก่อหงยวนแทบจะกระดกขึ้นสู่ท้องฟ้าแล้ว

“ไม่ต้องห่วง ข้าจะรับรองความปลอดภัยของเจ้าเอง”

เย่จิ่งหลานโค้งคำนับด้วยท่าทางเรียบร้อยทันที

“เช่นนั้นต้องรบกวนแล้ว”

เมื่อมีเขามาเข้าร่วมวงสนทนา บรรยากาศก็มีชีวิตชีวาขึ้นมาทันใด

ทั้งหมดคุยกันสักพัก ท้องฟ้าก็มืดแล้ว

อินชิงเสวียนลุกขึ้นยืน ถึงเวลาต้องกลับไปอยู่กับลูกแล้ว

แต่เห็นฟางรั่วยืนอยู่ไกลๆ มองทะเลด้วยสายตาสงบ แผ่นหลังดูเหงาเศร้าซึมอย่างอธิบายไม่ได้

อินชิงเสวียนเดินไปหาฟางรั่ว ถามอย่างเงียบๆ “เจ้าไม่อยากกลับเมืองหลวงหรือ”

ฟางรั่วไม่ได้หันกลับมามอง

“ไม่ค่อยอยากกลับไปจริงๆ”

แม้ว่านางจะติดตามอินชิงเสวียน แต่ก็ยังคงความหัวแข็งของตัวเองอยู่ ไม่เหมือนกับอวิ๋นฉ่ายหรือจังอวี้จิ่น ซึ่งอินชิงเสวียนก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องมารยาทเหล่านั้นเช่นกัน

จากนั้นก็ถามว่า “กลัวจะเจอกวนเซี่ยวงั้นหรือ”

ฟางรั่วไม่ได้พูดอะไร แต่ถามว่า “ข้าติดตามเย่จิ่งหลานไปได้หรือไม่”

“ถ้าเจ้าอยากไปสั่งสมประสบการณ์ ข้าก็จะสนับสนุนเจ้า แต่ถ้าแค่อยากหนี งั้นก็ไม่มีความจำเป็นจริงๆ ในเมื่อเจ้าตั้งใจจะติดตามแล้ว อย่างไรก็ต้องกลับเมืองหลวงอยู่วันยังค่ำ ยิ่งกว่านั้น การหลบหนีก็ไม่มีทางแก้ปัญหาได้”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์