สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 934

เสี่ยวหนานเฟิงลืมไปแล้วว่าเสด็จอาเป็นใคร ดวงตาโตราวกับองุ่นสีดำเบิกตากว้าง มองที่อินชิงเสวียนด้วยสีหน้างุนงง

“เสด็จอาคือใครน่ะ”

อินชิงเสวียนหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “เป็นน้องสาวของเสด็จพ่อเจ้าอย่างไรล่ะ”

เสี่ยวหนานเฟิงยังคงไม่เข้าใจ เขาก้มหน้าเล่นมือเล็กจ้อยของตัวเองเสียดื้อๆ

อินจื่อลั่วดึงชายเสื้อของอินชิงเสวียนอย่างไม่เต็มใจ

“พี่หญิงอยู่ต่ออีกสองวันไม่ได้หรือเจ้าคะ”

อินปู้อวี่ก็มองดูน้องสาวเช่นกัน เมื่อวานกลัวนางจะเหนื่อยเกิน จึงไม่ได้มารบกวน พวกเขาพี่น้องยังไม่ค่อยได้พูดคุยกันเลย อินชิงเสวียนกลับจะไปแล้ว

ครั้นได้เห็นลูกๆ สามัคคีปรองดองกันเช่นนี้ อินจ้งก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง

“พี่หญิงเจ้าออกจากวังมานานแล้ว จึงต้องมีเรื่องมากมายต้องจัดการ ห้ามก่อเรื่อง”

เมื่อผู้เป็นบิดาเอ่ยปาก สองพี่น้องก็หุบปากทันที

เย่จิ่งอวี้เอื้อมมือออกไปรับลูกชาย แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “รบกวนท่านขุนนางให้ดูแลเสวียนเอ๋อร์แล้ว วันหน้าเมื่อมีเวลาว่าง ข้าจะพาเสวียนเอ๋อร์ออกจากวังมาร่วงสังสรรค์กับทุกคนอีก”

อินจ้งรีบโค้งคำนับและกล่าวว่า “ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงเมตตาพ่ะย่ะค่ะ”

เย่จิ่งอวี้ได้จับมือน้อยของอินชิงเสวียนแล้ว

“เสวียนเอ๋อร์ ไปกันเถอะ”

พวกเขาทั้งครอบครัวขึ้นรถม้า และสามสิบนาทีต่อมา รถม้าก็หยุดอย่างมั่นคงที่ประตูพระราชวัง

เมื่อมองดูพระราชวังหลังจากห่างหายไปหลายวัน อินชิงเสวียนก็ทอดถอนใจอย่างลึกซึ้ง

วันนั้นนางคิดว่าตัวเองต้องตายอย่างแน่นอน ไม่เคยคิดว่าจะสามารถกลับมายังสถานที่แห่งนี้ได้

เย่จิ่งอวี้ที่อยู่ข้างๆ พูดสัพยอก “อะไร จำไม่ได้แล้วรึ”

อินชิงเสวียนถอนหายใจเบาๆ

“แค่รู้สึกแปลกนิดหน่อย”

เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงแล้วถามว่า “หรือเสวียนเอ๋อร์ยังคิดถึงวันเวลาที่อยู่ในเป่ยไห่?”

อินชิงเสวียนพูดอย่างผวาทันที “ช่างมันเถอะ จู่ๆ ข้าก็รู้สึกว่าตัวเองชอบตำหนักจินหวูมากกว่า”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์