อินชิงเสวียนนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ
“หรือว่าฝ่าบาทจะแต่งตั้งข้า?”
เย่จิ่งอวี้ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย แล้วพูดกระเซ้า “แล้วเจ้าชอบผู้ดูแลฝ่ายใน หรือผู้ตรวจการสำนักซ่างหลินมากกว่าล่ะ?”
อินชิงเสวียนถ่มน้ำลาย แล้วพูดอย่างงอนๆ “ตอนนี้ข้าไม่ใช่ขันทีสักหน่อย จะอยากได้ตำแหน่งบ้าๆ พวกนั้นไปทำไม”
เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น อย่างไรก็ต้องปฏิบัติตัวอย่างมีมารยาท
ตอนนี้มีแค่พวกเขาสองคน ซึ่งไม่ต่างจากคู่รักหนุ่มสาวทั่วไป จะมีการหยอกล้อสัพยอก กระเซ้าเย้าแหย่กันบ้างก็ไม่ถือว่าเสียมารยาทนัก
เย่จิ่งอวี้จับมืออันอ่อนนุ่มขาวเนียนของนาง แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ดังนั้น ข้าต้องการแต่งตั้งตำแหน่งดีๆ ให้เสวียนเอ๋อร์ เช่น สี่ฮุ่ยฮองเฮา ต่วนเสียนฮองเฮา ซุ่นหว่านฮองเฮา ข้าคิดเรื่องนี้มาสักพักแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเสวียนเอ๋อร์ชอบชื่อไหน”
อินชิงเสวียนรู้มานานแล้วว่าตัวเองจะถูกแต่งตั้งเป็นฮองเฮา แต่ไม่คาดคิดว่าจะเร็วขนาดนี้ นี่เพิ่งกลับถึงวังเอง เย่จิ่งอวี้ก็แทบรอไม่ไหวแล้ว
“เอ่อ...ไม่ต้องรออีกหน่อยหรือ”
เย่จิ่งอวี้จากไปนาน คงมีเรื่องให้สะสางมากมายกระมัง!
“ไม่จำเป็น ข้าตั้งตารอวันนี้มานานแล้ว ข้าแจ้งให้โหราจารย์หาฤกษ์มงคลเร็วๆ นี้แล้ว เครื่องแต่งกายที่ใช้ในพิธีแต่งตั้งฮองเฮาก็สั่งให้คนทำไว้แล้ว ส่วนคนอื่นๆ ที่เหลือในวังหลัง ก็จะจัดแจงไปพร้อมกันเลย”
เมื่อฟังคำพูดที่เด็ดเดี่ยวของเย่จิ่งอวี้ อินชิงเสวียนก็รู้สึกซาบซึ้งใจ ชาตินี้ได้เจอกับคนที่ปฏิบัติต่อตัวเองถึงเพียงนี้ ก็เพียงพอแล้ว!
นางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงพูดว่า “ถ้างั้นก็เลือกชื่อ...สี่ฮุ่ยสองคำนี้เถอะ ฟังดูน่าปีติยินดี ดูเป็นสิริมงคลด้วย”
“ดี จากนี้ไปเสวียนเอ๋อร์ก็จะเป็นสี่ฮุ่ยฮองเฮาของข้าแล้ว”
เย่จิ่งอวี้เอื้อมมือไปกอดอินชิงเสวียน แล้วเหวี่ยงตัวหมุนตัวไปรอบๆ แสดงถึงความสุขในใจ
อินชิงเสวียนตบไหล่เขาเบาๆ
พูดอย่างงอนๆ “ปล่อยเถอะ อย่าให้จ้าวเอ๋อร์เห็นเชียว”
เย่จิ่งอวี้จูบกลีบปากสีชมพูนั้นเบาๆ แล้วจึงวางนางลงบนเก้าอี้
“เจ้าหมอนั่นไม่ได้กลับวังนาน คงเห็นเป็นอะไรก็รู้สึกแปลกใหม่ไปหมด ยังเล่นไม่หนำใจคงไม่กลับมาหรอก”
อินชิงเสวียนมองออกไปข้างนอก แล้วก็เห็นว่าเจ้าเด็กอ้วนกำลังวิ่งเล่นอยู่กลางลานกับไป๋เสวี่ยอย่างสนุกสนาน
“แล้วพวกนายหญิงน้อยคนอื่นๆ ล่ะ ฝ่าบาทจะบอกว่าอย่างไร”
ไม่ว่าเย่จิ่งอวี้จะได้ค้างแรมกับพวกนางหรือไม่ก็ตาม แต่ในนามแล้ว พวกนางล้วนเป็นสตรีของฮ่องเต้ หากถูกส่งออกจากวังโดยตรง เกรงว่าจะทำลายชื่อเสียงของพวกนาง และทำให้ชั่วชีวิตนี้แต่งงานใหม่ได้ยาก
คนเหล่านี้ล้วนอยู่ในช่วงวันเบ่งบานที่ดี อินชิงเสวียนย่อมไม่สามารถทนเห็นพวกนางเหี่ยวเฉาในช่วงเวลาที่สวยงามที่สุดของพวกนางได้
เย่จิ่งอวี้เข้าใจว่าอินชิงเสวียนหมายถึงอะไร เรื่องนี้จำเป็นต้องได้รับการจัดการอย่างถูกต้อง เดิมทีจะให้โหราจารย์บอกว่าวันเดือนปีเกิดของพวกนางขัดแย้ง แต่ต่อมาก็รู้สึกว่าไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...
คนที่แสดงตัวเป็นพี่ใหญ่ไม่น่าจะเป็นตัวจริงเพราะมีพฤติกรรมลับลมคมในเรื่องต่างๆและทำให้เรื่องต่างๆแย่ลง เหมือนว่าจะหลงรักน้องสาวตัวเองเลยไม่รู้ว่าเป็นน้องแท้ๆหรือเปล่า...
มีคนเล่นตุกติกกับชุดของเด็กแล้วอยู่ในวังต้องระมัดระวังก็รู้อยู่นะคราวนี้ผ่านมาทางคนที่สนิท...
ดีจริงแทนที่จะเสียคะแนนได้คะแนนมาเพิ่มอีก...
ทางด้านกลยุทธ์น่าจะได้แต่ทางด้านวรยุทธหรือพละกำลังน่าจะไม่ไหวดังนั้นต้องพิสูจน์ตัวเอง...
อายุยังไม่ทันถึง 6 เดือนเลยละมั้งทำไมพูดคุยได้แล้วเก่งจริง...
โกหกครั้งหนึ่งก็ต้องโกหกต่อๆไป...
ความแตกแล้วมั้งเนี่ย...
เกือบไปแล้ว...