สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 961

ความเร็วของฮั่วเทียนเฉิงว่องไวมาก เรียกขานว่าสายฟ้าก็ไม่เกินจริง

เวลาเพียงชั่วพริบตา ความคิดนานาประการผุดขึ้นมาในหัวของเย่จิ่งหลาน

กำบังกาย? ยิงปืน? เลื่อนตัวหนีไป?

แต่ล้วนเป็นไปไม่ได้

ดังนั้น...

ฮั่วเทียนเฉิงไม่คิดว่าตัวเองจะพลาดท่า เขาจับตัวเย่จิ่งหลานได้แล้วจริงๆ แต่กลับเกิดเรื่องที่ทำให้เขาคาดคิดไม่ถึง ทัศนียภาพตรงหน้าเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

จู่ๆ ริมทะเลเป่ยไห่ก็เปลี่ยนเป็นห้องสีขาวรอบด้าน ด้านในมีสามเตียง และผ้าห่มก็เป็นสีขาวสะอาดสะอ้าน หัวและปลายเตียงทำจากโลหะหายาก

เขามองสำรวจทัศนียภาพรอบด้านด้วยใบหน้าที่ตื่นตกใจ โจวหนิงและต้วนจื่อฉู่ที่อยู่ด้านหลังก็มีสีหน้ามึนงงเช่นกัน

สรุปว่าคือความฝัน หรือตาลายกันแน่?

โจวหนิงยื่นมือออกมาหยิกที่ต้นขาของตัวเอง ต้วนจื่อฉู่ก็ออกแรงขยี้ตา เมื่อพวกเขาได้สติกลับมา ภาพตรงหน้ายังคงเป็นเช่นเดิมเหมือนเมื่อครู่

“ที่นี่คือที่ใดกัน?”

ฮั่วเทียนเฉิงปล่อยมือลงโดยไม่รู้ตัว

ครั้งนี้ เย่จิ่งหลานไม่ได้ถอยหลังออกไป

สามวันก่อนหน้านี้ เขารักษาชาวบ้านคนหนึ่งที่มีเนื้องอกในสมองจนหายดี และได้รับคะแนนการผ่าตัดระดับสุดยอด มิติจึงได้รับการแจ้งเตือนให้อัปเกรดอีกด้วย

การอัปเกรดครั้งนี้มาพร้อมกับทักษะมิติที่ยอดเยี่ยม ซึ่งก็คือเขาไม่กลัวการโจมตีใดๆ ภายในมิติ และสามารถเคลื่อนย้ายวัตถุในมิติได้ตามต้องการ รวมถึงผู้คนด้วย

ดังนั้น เย่จิ่งหลานในตอนนี้จึงแน่นิ่งอย่างมาก ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร

“ที่นี่คือสถานที่ที่เป็นของข้า”

เย่จิ่งหลานแอบสวมไมโครโฟน เสียงจึงสะท้อนไปรอบทิศทางผ่านลำโพงที่อยู่ในมุม

ฮั่วเทียนเฉิงจึงต้องถอยหลังไปหนึ่งก้าว ยืนประกบกันเป็นรูปสามเหลี่ยมพร้อมกับโจวหนิงและต้วนจื่อฉู่ สายตาแสดงความหวาดกลัวออกมา

ดูท่าทางว่าเขาคาดเดาได้อย่างถูกต้อง คุณชายเย่น้องผู้นี้ไม่ธรรมดาจริงๆ ด้วย เกรงว่าจะเก่งกาจเสียยิ่งกว่าเย่จิ่งอวี้ด้วยซ้ำ

ต้วนจื่อฉู่ถามอย่างอดไม่ได้ว่า “ท่านคิดจะทำอะไรกันแน่?”

เย่จิ่งหลานยักไหล่ เขาดึงเก้าอี้ออกมาตัวหนึ่งและนั่งลง จากนั้นก็ยกขานั่งไขว่ห้าง และจุดบุหรี่อย่างไม่รีบร้อน

เขาพ่นควันออกมาอย่างสง่างาม จึงพูดขึ้นว่า “ข้าจะพาพวกท่านไปยังเกาะตงหลิว ท่านฮั่วเป็นบุคคลผู้ชอบธรรม หรือว่าไม่อยากช่วยออกแรงเพื่อประเทศชาติของตัวเอง?”

ความจริงแล้วด้วยความสามารถของเย่จิ่งหลานในตอนนี้ เขาไปฆ่าล้างเกาะตงหลิวด้วยตัวเองได้โดยสิ้นเชิง เพียงนำพวกเขาเข้ามาด้านในมิติและฆ่าตายทีละคน น่าเสียดายที่เขาไม่ต้องการให้สิ่งสกปรกเหล่านั้นมาแปดเปื้อนดินแดนศักดิ์ศิทธิ์ของตัวเอง

อีกอย่าง การเดินเรือจำเป็นต้องใช้คน เขาไม่สามารถขับเรือสำราญได้เพียงลำพัง

ฮั่วเทียนเฉิงรู้สึกร้อนใจเล็กน้อย

“ข้ามีเรื่องที่สำคัญกว่าการโจมตีเกาะตงหลิว ขอเพียงท่านช่วยพวกข้าเปิดวิถีแห่งสวรรค์ อย่าว่าแต่เกาะตงหลิวเลย ต่อให้เป็นทั้งต้าโจว ตำหนักเทพหอทองคำของพวกข้าก็สามารถกำราบได้”

เย่จิ่งหลานแค่นเสียงหัวเราะและพูดอย่างนิ่งเฉยว่า “ด้านในวิถีแห่งสวรรค์มีสิ่งใดกัน เกรงว่าพวกท่านก็ยังไม่แน่ใจเช่นกัน เหตุใดต้องเสียเวลาให้แก่จุดหมายที่เป็นเพียงเรื่องเพ้อฝัน การสร้างความสุขสงบแก่ประชาชนเป็นสิ่งที่พวกเราควรทำ”

ฮั่วเทียนเฉิงรีบพูดว่า “นั่นไม่เหมือนกัน เกาะตงหลิวไม่หนีไปไหน จะโจมตีเวลาใดก็ย่อมได้ แต่วิถีแห่งสวรรค์ทำเช่นนั้นไม่ได้ หากพวกเราไม่สามารถชนะได้ในครั้งนี้ วิถีแห่งสวรรค์จะต้องตกอยู่ในมือของพวกไร้ประโยชน์อย่างอิ๋นเฉิง หากต้องการประลองอีกครั้ง ก็ต้องรออีกห้าสิบปี”

“อิ๋นเฉิงที่ท่านพูดถึงคือที่ใดกัน?”

เย่จิ่งหลานไม่ได้รีบร้อน เพราะเขากินอิ่มแล้ว กำลังเบื่อหน่ายไม่มีอะไรทำ

อุปกรณ์โดยรวมของเรือได้รับการติดตั้งแล้ว มีเพียงรายละเอียดบางส่วนที่ขาดหายไป และช่างฝีมือเหล่านั้นสามารถทำหน้าที่ได้อย่างดี

สายตาของฮั่วเทียนเฉิงมองไปที่ประตู ทันใดนั้นก็ตะโกนร้องขึ้นมาเสียงดัง

“รีบวิ่ง!”

ทันทีที่สิ้นเสียง เขาก็ใช้วิชาตัวเบาโฉบบินไปที่หน้าประตูห้อง วินาทีถัดมาก็กลับมายังตำแหน่งเดิม แม้แต่ตำแน่งที่ทั้งสามคนยืนก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์