เหตุคำพูดถึงได้ดูพิกลเช่นนี้
ราวกับว่านางกำลังจะไปตายอย่างนั้นแหละ จู่ๆ ก็พูดไม่ออก
นางเหลือบมองที่จังเถี่ยแล้วพูดว่า “ขุนพลจัง เจ้าจะต้องรับผิดชอบในการวิ่งรอบสนาม ถือโอกาออกกำลังกายในขณะที่อากาศยังเย็นอยู่ แล้วจึงฝึกทักษะการขี่ม้า”
จังเถี่ยผู้เป็นเหมือนลาที่คล้อยตามยามถูกลูบขน เมื่อได้ยินอินชิงเสวียนเรียกเขาว่าขุนพลจัง ในใจก็รู้สึกยินดีขึ้นทันที
“กงกงน้อยไม่ต้องห่วง ข้าจะพาพวกเขาออกไปวิ่งเดี๋ยวนี้”
อินชิงเสวียนพยักหน้า พาฉินเทียนออกจากบริเวณสนาม แล้วบังเอิญได้พบกับกวนเซี่ยวพอดี
เมื่อวานนี้อินชิงเสวียนถามฉินเทียนแล้ว และได้ทราบว่าเขาเป็นหลานชายของจอมพลเฒ่ากวน จึงรีบเดินไปกล่าวทักทายทันทีและพูดว่า “ยินดีที่ได้พบคุณชายกวน”
“กงกงน้อย”
เมื่อเห็นว่าอินชิงเสวียนมีใบหน้างดงาม ทั้งยังมีมารยาทที่ดี กวนเซี่ยวจึงรู้สึกประทับใจขึ้นหลายส่วน
อินชิงเสวียนถามอีกครั้ง “จอมพลเฒ่าไม่มาหรือขอรับ”
จุดประสงค์หลักที่นางมาฝึกทหารก็เพื่อพบกับกวนฮั่นหลิน
กวนเซี่ยวกล่าวว่า “เมื่อวานท่านปู่มีอาการปวดศีรษะมาก ตอนนี้จึงพักผ่อนที่บ้าน”
“อ้อ ได้ไปหาหมอหรือยัง”
จอมพลเฒ่ากวนเป็นคนตรงไปตรงมา อินชิงเสวียนรู้สึกชื่นชมเขามาก นอกจากนี้เขายังเป็นอาจารย์ของพ่อของเจ้าของร่างเดิม ดังนั้นจึงอดไม่ได้ที่จะถามไถ่อย่างเป็นห่วง
กวนเซี่ยวถอนหายใจ “หาแล้ว ไปกี่ครั้งก็ใช้ยาตัวเดิมซ้ำแล้วซ้ำอีก ไม่ดีขึ้นเลย นี่ก็เป็นโรคเก่าที่เกิดจากการสู้รบหลายปี ข้า นอนไม่หลับทุกวัน ไม่แปลกที่จะปวดศีรษะ”
ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ เมื่อนึกถึงขาที่พิการข้างหนึ่งของจอมพลเฒ่า อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
“ข้ามียาบางอย่างที่อาจช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะและปัญหาการนอนไม่หลับของจอมพลเฒ่าได้ หากคุณชายเชื่อข้า โปรดรอข้าตรงนี้สักครู่”
ขณะที่กวนเซี่ยวตกตะลึงอยู่นั้น อินชิงเสวียนก็ได้พาฉินเทียนออกไปแล้ว
ทั้งสองขี่ม้ามาถึงบ้านของเหล่าหลิวไท่ไท่ เด็กสามคนกำลังเล่นอยู่ในสนาม เมื่อพวกเขาเห็นอินชิงเสวียน พวกเขาก็ตะโกนทันที “ท่านพ่อ ท่านกลับมาแล้ว”
อินชิงเสวียนพูดด้วยรอยยิ้มว่า “อืม กลับมาเยี่ยมน่ะ ท่ายย่าอยู่ที่ใดรึ”
ต้าฮัวตอบอย่างฉะฉาน “ออกไปขายบะหมี่ ยังไม่กลับมาเลย”
“อ้อ เช่นนั้นพวกเจ้าก็ไปเล่นกันเถอะ พ่อกลับมาเอาของหน่อย”
หลังจากที่อินชิงเสวียนพูดจบ นางก็หันไปพูดกับฉินเทียน “พี่ฉินออกไปหารถม้าคันใหญ่ได้หรือไม่ พวกเราจะได้ขนแป้งสาลีไปด้วย”
“ไม่มีปัญหา ข้าจะไปหามาเดี๋ยวนี้”
ได้ตามอินชิงเสวียนออกมาเตร่อยู่นอกวัง ทั้งยังได้กินของอร่อยๆ ฉินเทียนย่อมเต็มใจอยู่แล้ว
หลังจากที่เขาไปแล้ว อินชิงเสวียนรีบเข้าไปในมิติ แลกลูกกวาดให้กับเด็กทั้งสามคน แล้วหยิบแป้งหมี่ทั้งหมดออกมา ระหว่างนั้นนางได้นำผักบางอย่างออกมาด้วย เช่น มะเขือยาว มะเขือเทศ ต้นหอม ถั่ว ทั้งนี้ยังได้หยิบองุ่นและแตงโมลูกใหญ่มาอีกหลายลูก
ในเมื่อคนเหล่านี้เต็มใจติดตามนาง นางจะไม่ทำให้พวกเขาขาดทุนแน่นอน
หลังจากที่นางเคลื่อนย้ายเสร็จแล้ว นางก็แลกยานอนหลับและยาแก้ปวดอย่างละหนึ่งขวด และตอนนี้ฉินเทียนก็กลับมาพร้อมกับรถม้าแล้ว
หลังจากที่เจ้าของรถม้าข้นย้ายของเสร็จแล้ว อินชิงเสวียนก็ถามอีกครั้ง “ร้านตีเหล็กอยู่ที่ใด”
ฉินเทียนกล่าว “มีร้านหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่ เจ้าอยากซื้ออาวุธรึ”
“ไม่ใช่ ข้าอยากจะสร้างอะไรบางอย่าง”
“ได้ ข้าจะพาเจ้าไปเอง”
หลังจากเดินไปประมาณห้าสิบเมตรก็พบร้านตีเหล็กแห่งหนึ่ง อินชิงเสวียนหยิบภาพวาดที่นางวาดในมิติออกมา แล้วมอบให้ช่างตีเหล็ก
“ข้าต้องการทำสิ่งนี้หนึ่งร้อยเล่ม จะใช้เวลากี่วันจึงจะเสร็จสมบูรณ์”
หลังจากมองดูเจ้าสิ่งประหลาดที่อินชิงเสวียนส่งให้ดู ช่างตีเหล็กก็มึนงงไปพักหนึ่ง
“ขอถามคุณชาย สิ่งนี้มีไว้เพื่ออะไร”
“เรื่องนี้ท่านไม่ต้องสนใจ บอกเวลาที่แน่นอนกับข้า ยิ่งเร็วเท่าใดก็ยิ่งดี เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ยังอัพไม่จบเลย หลายเรื่องเลย อัพมาครึ่งทางแล้วทำไมหยุดอัพดื้อๆค่ะ...
จะอัพเมื่อไหร่คะ...
มาต่อเร็วๆนะแอด...
หยุดอีกแล้ว...
กระหม่อม หม่อมฉัน สลับมั่วไปหมด...
มาอ่านต่อกันเร็วๆ แอดกลับมาอัพต่อแล้ว ขอบคุณค่ะ...
สนุกมาก น่าติดตามมาก เขียนและแปลได้ดีจริงๆ ดีใจที่กลับมาลงต่อ อัพเดตเรื่อยๆ วันละหลายๆ ตอน นะคะ...
หยุดชะงักลงตรงบทนี้ ต่อหรือพอเพียงแค่นี้😁...
หยุดแค่นี้หรือไปต่อ😁...
อัพต่อรออยู่ค่ะ...