ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน นิยาย บท 1027

"ไม่ทราบครับ" หัวหน้าส่ายหัว

"เพราะว่าแกฉลาดมากพอ ฉันตั้งใจจะฝึกนายไว้ อย่าพลาดโอกาสนี้ละ" เฉินหมิงหย่งยิ้มเย็นชา

"ขอบคุณครับรองผู้รักษาการ" เมื่อได้ยินอย่างนี้ ใบหน้าของหัวหน้าก็มีรอยยิ้มปรากฏทันที เขาเข้าไปทุบไหล่ให้กับเฉินหมิงหย่ง "รองผู้รักษาการคุณวางใจได้เลยครับ ผมไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอนครับ!"

ด้านนอกป่าช้า

เฉินเกอพาไป๋เสี่ยวเฟยเดินหน้าระยะหนึ่ง ในขณะที่ไม่รู้ถึงสถานการณ์ด้านใน และไม่รู้ว่าด้านหน้ามีกล้องวงจรปิดหรือไม่ เฉินเกอไม่กล้าเข้าไปอย่างเร่งรีบ

"ที่นั่นมีบ้านหลังหนึ่งครับ" ไป๋เสี่ยวเฟยมองไปด้านหน้า ตรงกลางป่าช้า มีบ้านอยู่ แต่ก็เห็นเพียงแค่รูปร่างเท่านั้น ถึงขั้นไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นบ้านหรือเป็นอย่างอื่น

"นายว่าเฉินหมิงหย่งพาคนพวกนี้มาที่นี่ แล้วยังระแวดระวังขนาดนี้ มันอยากจะทำอะไร?" เฉินเกอนั่งอยู่บนก้อนหินก้อนหนึ่ง ถามเสียงเบา

"ซ่อนศพ?" ไป๋เสี่ยวเฟยตอบ นี่คือความคิดแรกที่อยู่ในใจเขา

"จากตำแหน่งของเขาแล้ว ถ้าอยากจะซ่อนศพละก็ ไม่จำเป็นต้องมาจัดการด้วยตัวเอง แต่สั่งลูกน้องสักคนก็จัดการได้แล้ว" เฉินเกอส่ายหัว

"งั้นคืออะไรครับ?" ไป๋เสี่ยวเฟยนึกคิด

"ในป่านี้น่าจะซ่อนความลับที่คนอื่นไม่รู้ไว้ อีกอย่างยังสำคัญกับเฉินหมิงหย่งมากด้วย" เฉินเกอหรี่ตามองไปด้านหน้า ใช้ความสามารถในการมองที่ดีกว่าคนทั่วไป เขาสามารถมองเห็นบ้านที่โดดเดี่ยวนั่น แต่มันก็แค่เพียงเท่านี้

"เหลียงลู่?!" ไป๋เสี่ยวเฟยพูด

"นี่ก็ไม่รู้นะ" เฉินเกอส่ายหัว

"จะค่อยๆเข้าไปอย่างระวัง หรือว่ารออยู่ที่นี่ครับ?" ไป๋เสี่ยวเฟยกำดาบปลายปืนไว้แน่น เพียงแค่ฉินเกอพูดมา งั้นเขาก็จะทะลุรอบป่าเข้าไปด้านใน"

"รอก่อน" เฉินเกอนั่งไขว่ห้าง

ในตอนที่กำลังรอ มีรถคันหนึ่งขับออกมาจากด้านใน ยังดีที่เฉินเกอจอดรถไว้หลังต้นไม้ใหญ่หลายต้น และยังมีความมืดของท้องฟ้าช่วยบัง ก็จะไม่ถูกพบเจอ

ผ่านไปอีกช่วงเวลาหนึ่ง ประมาณสามสี่ชั่วโมง รถอีกสามคันก็ค่อยๆขับตามกันออกมา

"ไม่ถูกสิ" ไป๋เสี่ยวเฟยมองดูรถที่ขับออกไปผ่านหน้า แล้วพูดออกมาเสียงเบา

"ไม่ถูกยังไง?" เฉินเกอแปลกใจเล็กน้อย

"พี่เฉิน ฝนตกอยู่ตลอดใช่มั้ยครับ?" ไป๋เสี่ยวเฟยมองดูท้ายรถ

"ตกมาสามวันแล้วนี่ นายอยากจะพูดอะไร?" เฉินเกอคิดไม่ถึงว่าไป๋เสี่ยวเฟยจะถามคำถามแบบนี้ออกมา

"เมื่อกี้ที่รถขับผ่านตรงหน้าของผม ผมเห็นรอยโคลนของล้อรถมันยกสูงขึ้น นี่แสดงว่าตอนที่พวกเขามาในรถใส่ของไว้ไม่น้อย และเมื่อเอาออกแล้วก็ค่อยจากไป ทำให้ตัวรถน้ำหนักลดลงแล้วยกสูงขึ้น แล้วทำให้รอยโคลนบนรถยกสูงขึ้นถามไปด้วย" ไป๋เสี่ยวเฟยพูดวิเคราะห์

"แกนี่ไม่เลวเลยนะเนี่ย!" เฉินเกอตกใจเล็กน้อย เขาไม่เคยคิดถึงด้านนี้เลย ดังนั้นจึงตบหลังของไป๋เสี่ยวเฟย แล้วพูด

"ฮิๆ นี่ล้วนเป็นการสังเกตการณ์ขั้นพื้นฐานทั้งนั้นครับ" ถูกเฉินเกอพูดชม ไป๋เสี่ยวเฟยดูเขินอาย เกาหัวแล้วพูด

"งั้นฉันดูแล้ว ก็เข้าไปไม่ได้แล้วละ แต่ว่าครั้งนี้จดจำที่นี่ไว้ ก็ถือว่าไม่เลว" เฉินเกอมองไปด้านหลัง

"ทำไมครับ?" ไป๋เสี่ยวเฟยไม่เข้าใจ

"เมื่อกี้นายก็พูดมาแล้วว่าเอาของออกไม่น้อย ถ้าหากว่าเป็นเพียงแค่สิ่งของละก็ เอาออกก็จากไปได้เลย ไม่จำเป็นต้องใช้เวลานานขนาดนี้ แต่พวกเขาอยู่ที่นี่นานถึงสี่ชั่วโมงเต็ม อีกอย่างฉันยังเห็นว่าพวกมันแยกย้ายกันในป่า ดูแล้วคงจะวางกับดักไว้แล้ว" เฉินเกอลุกขึ้น เดินไปทางรถยนต์ "ขึ้นรถเถอะ ฉันค่อยบอกกับนายระหว่างทาง"

"เฮ้อ ก็ได้ครับ" ไป๋เสี่ยวเฟยรู้สึกว่าเหลียงลู่น่าจะอยู่ในนี้แหละ แต่เฉินเกอไม่อนุญาต เขาก็ไม่สามารถเข้าไปโดยพลการได้ ทำได้เพียงถอนหายใจแล้วเดินตามไป

เมื่อขึ้นรถแล้ว เฉินเกอรีบกลับรถ ไล่ตามออกไป

"พวกเขาน่าจะวางกับดักไว้แล้ว แล้วจะต้องทิ้งคนไว้เฝ้าดูด้านในแน่นอน ถ้าหากเข้าไปในเวลานี้ละก็ ยังไม่พูดถึงว่าจะโดนกับดักมั้ย แต่จะต้องถูกจับได้แน่นอน ถ้าหากเป็นอย่างนั้น ถ้าอยากจะไปช่วยเหลียงลู่อีกครั้งก็จะยากแล้วละ" เฉินเกอเหยียบคันเร่ง เมื่อเห็นรถออฟโรดด้านหน้าแล้วถึงจะลดความเร็วลง

"ตอนนี้สามารถมั่นใจได้ว่าเหลียงลู่ถูกขังไว้ด้านใน" ไป๋เสี่ยวเฟยค่อยๆใจเย็นลง

"การกระทำต่างๆของเฉินหมิงหย่ง ประมาณเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ละ" เฉินเกอพยักหน้า

ตามติดรถของเฉินหมิงหย่งกลับทั้งทาง เฉินเกอเห็นพวกเขาขับรถกลับหน่วยรบเองกับตา ไม่จอดเลยสักนิด ก็ขับรถพาไป๋เสี่ยวเฟยมุ่งหน้าตรงกลับบ้านตระกูลโกว

เวลาใกล้ตีสอง ทั้งสองคนถึงจะเข้าบ้าน

"อย่าใส่ใจเรื่องนี้ รีบพักผ่อน" เมื่อเดินถึงหน้าห้องพักแขก เฉินเกอเรียกไป๋เสี่ยวเฟย พูดสั่ง

"วางใจเถอะครับพี่เฉิน ผมไม่มีทางไร้สติแน่นอนครับ" ไป๋เสี่ยวเฟยพยักหน้าอย่างหนักแน่น

"คุณเฉินเกอครับ ผู้นำตระกูลเรียกคุณไปหาครับ บอกว่ามีเรื่องสำคัญจะบอกกับพวกคุณ" ไม่ทันรอเฉินเกอเปิดประตูห้อง พ่อบ้านก็วิ่งมาอย่างรีบร้อน

"เรื่องอะไร? รีบร้อนขนาดนี้เลย?" เฉินเกอหันหลัง

"เรื่องอะไรผมเองก็ไม่ทราบครับ เพียงแค่เมื่อกี้ผู้นำตระกูลรับสายหนึ่ง สีหน้าก็เปลี่ยนไป แล้วให้ผมสังเกตกล้องวงจรไว้ บอกว่าถ้าหากคุณกลับมาแล้วให้เรียกคุณไปหาทันทีครับ" พ่อบ้านส่ายหัว

"ไปดูกัน" เฉินเกอขมวดคิ้ว

ตามพ่อบ้านมาที่พักผ่อนของโกวหลินเทียนพร้อมกับไป๋เสี่ยวเฟย

เพิ่งเข้าห้อง ก็เห็นโกวหลินเทียนสูบบุหรี่อยู่ด้านใน ที่รองบุหรี่ตรงหน้ามีกองบุหรี่อยู่เต็มไปหมดแล้ว และทั้งห้องก็เต็มไปด้วยควัน

"ลุงโกวครับ มีเรื่องเร่งด่วนอะไรรึเปล่าครับ?" เพิ่งเข้าห้อง ไป๋เสี่ยวเฟยก็รีบถาม เขากังวลว่าจะเป็นข่าวร้ายเกี่ยวกับเหลียงลู่

"สองชั่วโมงก่อน ฉันได้รับโทรศัพท์สายหนึ่ง เฉินหมิงหย่งเป็นคนโทรมา" โกวหลินเทียนสูบบุหรี่และพูด

"เฉินหมิงหย่ง? สองชั่วโมงก่อนเขาอยู่ที่ป่าช้าแห่งหนึ่งไกลออกจากหน่วยรบระยะทางเวลาประมาณสองชั่วโมง" เฉินเกอขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม

"เขาพูดอะไรครับ?" ไป๋เสี่ยวเฟยเดินไปตรงหน้าของเขา

"เขาบอกว่าพรุ่งนี้เตรียมจะเชิญตระกูลใหญ่อย่างพวกเรากินข้าวด้วยกัน ปรึกษาแผนการพัฒนาของแต่ละตระกูล แล้วยังบอกว่าจะใช้โอกาสงานเลี้ยงนี้ ให้ตระกูลของพวกเราทั้งหลายร่วมมือกัน แบบนี้จะช่วยยกระดับเศรษฐกิจเมืองหนานเยว่ของพวกเราได้"

โกวหลินเทียนนึกคิด พูดว่า

"เขาผู้รับผิดชอบกองทหารทางน้ำยังมายุ่งเรื่องพวกนี้?" ได้ยินอย่างนี้ เฉินเกอก็หัวเราะออกมา

"ใช่สิ ที่ผ่านมาล้วนเป็นแผนกการเงินและธุรกิจที่มาพูดคุยกับพวกเรา แต่ตอนนี้กลับเป็นเฉินหมิงหย่งโทรมา ผมสงสัยว่าเขาคิดไม่ดี อยากจะใช้เรื่องในครั้งนี้ มาเคลื่อนไหวในการทำเรื่องเลวร้าย" โกวหลินเทียนพยักหน้า พูดอธิบาย

"นี่ยังต้องถามอีกหรอครับ ต้องคิดไม่ดีอยู่แน่นอนเลย" เฉินเกอดึงบุหรี่ออกมาม้วนหนึ่ง จุดไฟ "ในเมื่อเขาอยากจะจัดงานเลี้ยงละก็ งั้นพวกเราก็ไปด้วยกันเถอะครับ"

"นายก็จะไป?" โกวหลินเทียนตะลึงเล็กน้อย

"แน่นอนครับ เขาอยากฆ่าผมขนาดนี้ ก็น่าจะอยากเจอผมมาก" ใบหน้าของเฉินเกอก็ยังมีรอยยิ้มอยู่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน