ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน นิยาย บท 136

“คุณป้า ขอโทษจริงๆค่ะ ที่หนูมาสาย!”

หลินยียีสางผมเล็กน้อย แล้วว่าขึ้นยิ้มๆ

“ไม่สายๆ เด็กคนนี้นี่เกรงใจอะไรขนาดนั้นกัน!”

หลินหงจู๋วยิ้ม แต่ในขณะเดียวกันก็ใช้แววตาเกลียดชังมองมาที่เฉินเกอตั้งตาหัวจรดเท้า

“คุณป้า พี่สาว แล้วก็น้องสาวทั้งสองคนสวัสดีครับ!”

แต่เฉินเกอกลับทักทายขึ้นด้วยความใจกว้าง

“เธอก็คือคนที่ชื่อเฉินเกอคนนั้นสินะ?”

หลินหงจู๋วกอดอก

มองเฉินเกออีกครั้ง ในใจก็รู้สึกคิดเล็กคิดน้อยขึ้นมา

แต่งตัวบ้านๆธรรมดา แต่หน้าตาก็ดูสะอาดสะอ้านใช้ได้ แต่ว่าทำให้คนที่เห็นรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่มาจากบ้านนอก ไม่มีแฟชั่นเลยแม้แต่น้อย!

หลินหงจู๋วถึงกับส่ายหน้าด้วยความเหนื่อยใจ

ถ้าเกิดว่าคนแบบนี้จะต้องมาเป็นลูกเขยของตัวเอง เพี๊ยะๆ!

ตัวเองก็ควรเลิกเหน็บแนมเขาได้แล้ว ตบแก้มหน้าตัวเองเบาๆสองครั้งเพื่อให้เขาหายไป!

“อืมๆ”

ดังนั้น เสียงของหลินหงจู๋วดังขึ้นอย่างไม่แยแส!

“เหอะๆ ไม่นึกเลยนะว่าไม่เจอกันมาตั้งนานแล้วก็ยังคงไม่มีมารยาทแบบนี้!”

ไม่ต้องพูดถึงหลินหงเซียะเลย เธอยิ้มเยาะแล้วก็ว่าขึ้นมาตรงๆ

ส่วนพวกพี่สาวน้องสาวทั้งสามคนน่ะเหรอ ล้วนแต่เบะปากกันทั้งนั้น แล้วก็หันไปส่ายหน้าใส่แฟนของตัวเอง

ความหมายก็คือ ทำไมพี่สาวจะต้องหาคนแบบนี้มาเป็นแฟนด้วย

การแต่งตัวแบบนี้นี่มันก็ชักจะล้าหลังไปหน่อยไหม?

ทั้งหมดนั่นเลย!

เฉินเกอแค่ยิ้มเบาๆตอบรับกลับไป

ดูแล้วครั้งก่อนที่พวกซูเหมยกลับไป พวกเธอคงไม่ได้พูดเรื่องนี้กับครอบครัวเลยล่ะสิ

บางทีคิดๆไปแล้วก็จริงๆเลย ไม่สู้บอกไปเลยดีกว่า!

เห้อ!

“คุณป้า เตรียมรถไว้เรียบร้อยแล้วครับ พวกเราขึ้นไปบนรถก่อนดีกว่า แล้วค่อยพาทั้งสี่คนไปเที่ยวรอบๆ!”

เฉินเกออดทน แล้วพูดขึ้น

“เตรียมไว้เรียบร้อยแล้วก็เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว รถคนนี้ก็เหมือนกับบ้านเธอนั่นแหละ! เชอะ!”

หลินหงเซียะมองหลิ่นยียีแล้วจับมือของเฉินเกอเอาไว้

ตอนนี้รู้สึกหงุดหงิด แล้วก็กระชากมือหลินยียีแล้วลากเธอออกห่าง หมุนตัวแล้วก็กระชากหลินยียีเดินไป

มีรถมินิแวนคันหรูจอดอยู่สองคัน ยังไงทุกคนก็ยอมขึ้นรถ แล้วก็ไปเที่ยวที่จุดชมวิวของจินหลิงก่อน

“เฉินเกอ หลังจากที่เรียนจบมหาวิทยาลัยแล้วเธอมีแผนอะไร?

เวลาว่าง ทุกๆคนก็มานั่งรวมตัวแล้วพูดคุยกัน หัวข้อสนทนาก็หมุนมาถึงเฉินเกอ

หลินหงจู๋วถามขึ้นแล้วพยายามยกยิ้มร้ายกาจ

“ถ้าถามเรื่องคิดว่าจะทำอะไรต่อ ผมวางแผนไว้ว่าต่อไปจะเปิดกิจการเล็กๆน้อยๆครับ”

ครั้งนี้เฉินเกอเรียนรู้แล้ว ไม่ได้ตอบอะไรที่ไม่ชัดเจนอีก

“พรู่ด!”

แต่ว่าคิดไม่ถึงว่า หลังจากที่เฉินเกอพูดประโยคนั้นเสร็จ พวกสามสาวพี่น้องที่กำลังนั่งดื่มชานมกันอยู่ก็หัวเราะขึ้น

ส่วนแฟนหนุ่มของพวกเธอ ก็ยิ้มฝื่นๆแล้วส่ายหน้า

ตอนแรก

ได้ยินว่าพวกพี่ๆน้องๆคุยกันว่า ยียีคนสวยมีแฟน

พอดีกับพวกเธอสามคนก็พาแฟนมาด้วย

พี่น้องกันใช่ไหมล่ะ ก็ต้องมีเปรียบเทียบกันบ้าง

ตอนแรกพี่น้องทั้งสามคนก็กังวลอยู่เล็กน้อย กลัวว่าต่อหน้าพี่ยียี แฟนของตัวเองจะไม่ดีพอ สู้ไม่ได้อะไรประมาณนี้

แต่ตอนนี้นะเหรอ ก็แค่นั้นแหละ!

ทุกๆคนไม่มีความกดดันเลยแม้แต่น้อย แถมไม่มีใครมองว่าเฉินเกอเป็นคู่แข่งอีกต่อไป

“ฉันไม่ได้ฟังผิดใช่ไหม เธอนะเหรอ? อยากจะทำธุรกิจเล็กๆของตัวเอง? เธอมองโลกใบนี้ง่ายไปหน่อยแล้วมั้ง?”

หลินหงจู๋วส่ายหน้าด้วยความหมดคำจะพูด พูดจาไม่ดูความสามารถตัวเองบ้างเลย ไม่ดูตัวเองหน่อยหรือว่าเป็นยังไง?

“คุณน้า คุณน้าก็อย่าไปพูดอย่างนั้นสิครับ เฉินเกอมีความคิดแบบนี้ก็ดีแล้วครับ แต่ว่าความคิดก็เรื่องความคิด แต่ว่านะครับ พวกเราๆที่เพิ่งจะจบมหาวิทยาลัยกัน ไม่ว่ายังไงก็ต้องลองเข้าไปเรียนรู้ว่าเป็นยังไง แล้วค่อยคิดเรื่องทำกิจการของตัวเองอีกที!”

แฟนหนุ่มของน้องสาวคนที่สามวางแก้วชานมไข่มุกลง เสร็จแล้วก็เย้ยหยันขึ้น

เขาไม่ได้เรียกพี่ แต่กลับเรียกชื่อของเฉินเกอขึ้นมาเฉยๆ

สามารถรู้ได้ว่ากำลังดูถูก

“ใช่ หวางเผิงพูดได้มีเหตุผล นี่ถึงจะเป็นคำพูดของคนที่คิดจะทำการใหญ่! เธอคงไปหาประสบการณ์ที่บริษัทของพ่อใช่ไหม?”

“ก็มีความคิดนี้ครับ!”

“ผมไม่มีความคิดที่จะไปหาประสบการณ์ที่บริษัทของพ่อครับ เตรียมจะออกไปเจอโลกด้วยตัวเอง!”

ในตอนนี้ แฟนของน้องสาวคนที่สองก็พูดขึ้น

“ฮ่าๆ ความคิดนี้ของหลี่เฟยก็ใช้ได้!”

หลินหงเซียะว่าขึ้น “พี่ ครอบครัวพี่หลานสาวทั้งสองคนมีที่ให้พึ่งพิงแล้ว ฉันนี่เป็นห่วงเสี่ยวเหมยกับยียีจัง พี่ว่าเมื่อไหร่ทั้งสองคนจะหาแฟนที่เหมือนกับหลี่เฟย และหวางเผิงได้กันนะ”

“แค่กๆ คุณน้า คุณน้าพูดอะไรระวังๆหน่อยสิครับ เฉินเกอยังอยู่ตรงนี้นะครับ?”

น้องสาวคนที่สองเอามือขึ้นมาปิดปากและหัวเราะ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน