บทที่255 เฉินเกอผู้ลึกลับ
เห็นท่าทีที่จินเปียวแสดงความเคารพต่อเฉินเกอ ทำให้ทุกคนตกตะลึงมาก
โดยเฉพาะเจียงเฉว่ฉิง สายตาที่เธอมองเฉินเกอก็เปลี่ยนไป
เมื่อก่อนแค่รู้สึกว่ามนุษยสัมพันธ์ของเฉินเกอนั้นธรรมดา แต่ตอนนี้ไม่คิดเลยว่า เฉินเกอจะรู้จักกับคนทุกประเภทจริง ๆ!
ยิ่งไปกว่านั้นคือคนที่ทรงพลังอย่างจินเปียว เมื่อได้ยินว่ามีคนจะตีเฉินเกอ เขาก็ออกมือสั่งสอน และก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องเห็นแก่หน้าเลย
“วันนี้ช่างบังเอิญจริง ๆเลย จะว่าไปถ้าเสี่ยวจินคุณไม่มา ฉันต้องถูกทุบตีนะ!”
เฉินเกอทำอะไรไม่ถูกและยิ้มอย่างขมขื่น
จนถึงตอนนี้ เรื่องของหยางเหวินหลงเรื่องนี้เขาก็มองออก ไม่แน่ต้องเป็นลี่เหวินหยางกำลังเล่นผีอยู่แน่ และเฉินเกอก็พูดอยู่ในใจของเขาว่าถึงว่าทำไมเมื่อกี้เห็นพวกเขาสองคนหัวเราะอยู่ตลอดเวลา!
“คุณพูดล้อเล่นไป!”
จินเปียวโค้งคำนับ
อาหารมื้อนี้ทานกันค่อนข้างอึดอัด แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเฉินเกอก็ทานอิ่มอยู่ดี
ส่วนหลินเสี่ยวเฟิงนั้น เห็นว่าลี่เหวินหยางถูกทุบตีจนเป็นเช่นนี้ ก็ไม่มีกะจิตกะใจทานอาหารต่อ
จึงจ่ายเงินไปแต่แรกแล้ว
“คุณจินเย๋ท่านนี้ คุณรู้จักกับเฉินเกอ และยังสนิทกันขนาดนี้ อีกทั้งคุณยังมีความสามารถมากขนาดนี้ ฉันเป็นรองผู้อำนวยการของธนาคาร** หากกลุ่มของคุณมีเงินกองทุนส่วนไหนที่ต้องใช้ธนาคารของพวกเรา ก็รบกวนคุณดูแลด้วยนะคะ!”
หลินเสี่ยวเฟิงไม่ลืมที่จะผูกมิตรกับเขา
สำหรับจินเปียวนั้น เขามีความสามารถที่จะให้เงินของบริษัทเล็ก ๆบางแห่งของลูกน้อง หมุนเวียนกับธนาคาร**ได้
แต่ในขณะนี้ สายตาของเขามองไปที่เฉินเกอ ราวกับหมายความว่าถามความเห็นจากเฉินเกอ
เฉินเกอก็พยักหน้าอย่างไร้ร่องรอย
วันนี้ถ้าหากหลินเสี่ยวเฟิงไม่เชิญตนเองทานข้าวล่ะก็ ไม่แน่ธุรกิจของเธอก็อาจจะเจรจาสำเร็จลุล่วงแล้ว และตอนนี้ ถือว่าเป็นเพราะเขาสถานการณ์นี้จึงถูกขัดจังหวะ ดังนั้นเฉินเกอจะช่วยเหลือสักหน่อยจะเป็นอะไรไป
เลยตอบตกลงไป
และในขณะนี้ ก็ได้ยินพวกของหยางเหวินหลงเริ่มต่อสู้กันอีกครั้ง
แต่ว่าครั้งนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นกลุ่มคนพวกหนึ่งกำลังรุมล้อมตีลี่เหวินหยางอยู่
เดิมทีคิดไว้ว่าอยากผูกมิตรกับจินเปียวผ่านมือของลี่เหวินหยาง แต่ผลลัพธ์ที่ได้ กลับกลายเป็นว่าทำให้เขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก
จะไม่ให้หยางเหวินหลงโกรธได้อย่างไรล่ะ!
ความโกรธของคนกลุ่มนี้ถูกนำไปลงที่ตัวของลี่เหวินหยางหมด
เมื่อเฉินเกอได้ยินเสียงกรีดร้องของลี่เหวินหยางเขาก็แค่หัวเราะอย่างเย็นชา และคิดในใจของเขาว่า แค่นี้ยังโดนเบาไป!
ส่วนเจียงเฉว่ฉิงนั้น เธอมองไปที่เฉินเกอตลอดด้วยสายตาที่ซับซ้อน
และเห็นแค่เฉินเกอพูดคุยกับสวี่ซินเพียงคนเดียว ราวกับว่าไม่เห็นตัวเอง และไม่ค่อยสนใจตัวเองยังไงอย่างนั้น ในใจของเธอก็รู้สึกอึดอัดใจอยู่ไม่น้อย
อาหารมื้อนี้ก็จบลงเท่านี้
และเห็นว่าจินเปียวกำลังขับรถอยู่พอดี ดังนั้นจึงให้จินเปียวส่งตนเองกลับไปที่โรงแรม
“สวี่ซิน ไม่แปลกใจเลยที่คุณปู่ของคุณบอกว่าตัวตนของชายหนุ่มคนนี้ไม่ธรรมดา และวันนี้ฉันก็ได้เห็นมันแล้วจริง ๆ!”
หลินเสี่ยวเฟิงเพิ่งจะตระหนักขึ้นได้ในตอนนี้ว่า เมื่อคืนตอนที่ทานอาหารเย็น คุณปู่ของสวี่ซินมักจะพูดอยู่ตลอดว่าเด็กคนนี้ไม่ธรรมดา และตอนนั้นเธอก็ไม่ได้คิดอะไรมากนัก แต่ตอนนี้เธอก็เข้าใจแล้ว
“ใช่ ฉันก็ไม่คิดว่าเฉินเกอเขาจะมีความสามารถขนาดนี้ และเขาก็รู้จักกับผู้คนมากมายขนาดนี้ด้วย เอ๊ะ?คุณแม่ คุณพูดเช่นนี้ขึ้นมาฉันก็นึกขึ้นได้เรื่องหนึ่ง นั้นก็คือเรื่องที่ฉันอยู่ที่KTVครั้งก่อน ตอนนี้ฉันเหมือนกับว่าจะเข้าใจอะไรบางอย่างแล้ว!”
สวี่ซินใช้ปลายนิ้วมือตบไปที่หน้าผากของเธอแล้วพูด
ส่วนเจียงเฉว่ฉิง เธอคิดว่าจะรอให้ด้านในตีคนให้เสร็จก่อนแล้วค่อยช่วยชีวิตผู้คน แต่เธอก็ไม่กล้าเข้าไป และก็ไม่กล้ายืนอยู่คนเดียว กลัวว่าหยางเหวินหลงพวกเขาจะแก้แค้นเธอด้วย
ดังนั้นตอนที่ลงมา เจียงเฉว่ฉิงก็เดินตามหลังของเฉินเกอลงมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...