ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน นิยาย บท 256

บทที่256 ร้านโดนพังแล้ว

“รองผู้อำนวยการถาง คุณก็นะ รองผู้อำนวยการหลินเขาก็อุตส่าห์มีความสุขทั้งที คุณก็อย่าไปกระทบเธอเลย เป้าหมายใหญ่ขนาดนั้น แม้แต่ท่านประธานก็ยากที่จะบรรลุได้ นับประสาอะไรกับรองผู้อำนวยการหลินล่ะ!”

ผู้หญิงคนหนึ่งที่ใกล้ชิดสนิทสนมกับถังหรานพูดขึ้นด้วยท่าทีหัวเราะเยาะในขณะนี้

ถังหรานพูดอย่างภาคภูมิใจ:“นั่นแหละ ฉันว่ารองผู้อำนวยการหลินก็คงไม่มีทักษะที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้!”

หลินเสี่ยวเฟิงเพียงแค่ยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไรสักคำ

ทันใดนั้นเอง

“ท่านประธาน!”

“ท่านประธาน!”

ก็เห็นชายวัยกลางคนหนึ่งวิ่งจ็อกกิ้งตลอดทางเข้าไปที่ห้องสำนักงานด้วยเหงื่อที่ท่วมตัว

พนักงานทุกคนต่างลุกขึ้นยืนและตะโกนว่า

“ท่านประธานจู มีเรื่องอะไรหรอ?ดูสิทำให้คุณร้อนซะ!”

เนื่องจากเหตุผลของสามีถังหราน ดังนั้นเธออยู่ที่ท่านประธานนี้ก็ถือว่ามีหน้ามีตาเช่นกัน

ไม่คิดว่า ท่าประธานจูที่สุภาพกับเธอมาตลอด ตอนนี้ไม่ได้มองเธอเลย และยังทำเหมือนกับว่าไม่ได้ยินคำพูดของเธอ

และเดินตรงเข้าไปที่ตรงหน้าของหลินเสี่ยวเฟิง

“เสี่ยวหลิน ครั้งนี้คุณได้ทำงานอันใหญ่หลวงให้กับธนาคารของพวกเราด้วย และฉันก็ไม่รู้เลยว่าจะขอบคุณคุณอย่างไรดี!”

เห็นได้ชัดว่าท่านประธานจูรู้สึกตื่นเต้นมาก

“ท่านประธานจู เป็นอะไรหรอ?” หลินเสี่ยวเฟิงนึกอะไรออกแล้ว แต่ก็ยังถาม

“ฮ่าฮ่า เมื่อก่อนบริษัทการค้าจินหลิงกรุ๊ป ไม่สิ ตอนนี้เป็นกลุ่มธุรกิจดรีมเมอร์ ฉันใฝ่ฝันที่อยากดึงและได้รับความร่วมมือจากพวกเขา แต่ว่า ระดับของฉันไม่สามารถที่จะดึงความร่วมมือมาได้เลย หรือแม้แต่บริษัทเล็ก ๆภายใต้การควบคุมของพวกเขาก็ไม่สามารถที่จะดึงความร่วมมือมาได้ !”

“แต่ผลลัพธ์ก็คือ คุณใช้เพียงแค่ลมหายใจเดียวก็ได้รับความร่วมมือจากบริษัทย่อยกว่าสามสิบแห่งที่อยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเขา และความร่วมมือจากบริษัทอีกหกสิบกว่าแห่งที่พวกเขาจัดหาด้านเงินทุน และจำนวนนี้ก็ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ฉัน……ฉันไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรดีแล้ว?”

ความตื่นเต้นของประธานจูสามารถจินตนาการได้เลย

อย่าว่าแต่ประธานจูเลย แม้แต่หลินเสี่ยวเฟิงเองก็ตกใจเช่นกันในขณะนี้

เธอนึกว่าด้วยใบหน้าของเฉินเกอ จะมีเพียงแค่หนึ่งหรือสองบริษัทเท่านั้น แต่กว่าสามสิบบริษัทที่เกี่ยวข้องกันโดยตรง และบริษัทที่จัดหาเงินทุนมากกว่าหกสิบบริษัท?

พระเจ้า!

ครั้งนี้ ตัวเองคงไม่ใช่แค่ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการง่ายแบบนี้แล้วมั้ง?

“ฮ่าฮ่า วันนี้ที่ฉันมาที่นี่ก็เพื่อที่จะบอกกับคุณว่า พรุ่งนี้พวกเราก็จะเซ็นสัญญากับพวกเขาอย่างเป็นทางการแล้ว ดังนั้นคุณต้องไปพร้อมกับฉัน แต่ว่า ตำแหน่งรองผู้อำนวยการนี้ของคุณก็ไม่ค่อยเหมาะสมมากนัก และฉันได้รายงานให้เบื้องบนแล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เลื่อนขั้นให้คุณเตรียมเป็นรองประธาน เดือนหน้าเหล่าหลินก็จะเกษียณจากงานแล้ว คุณเติมเต็มแทน!ส่วนตำแหน่งของผู้อำนวยการ เดือนหน้าก็ว่างออกมาแล้ว เอาอย่างนี้ คุณทำงานพาร์ทไทม์ทั้งสองตำแหน่งไปก่อน ค่อนข้างเหนื่อยหน่อยนะ!”

ประธานจูพูดขึ้นอีกครั้ง“เอาล่ะ คุณไปเขียนใบเลื่อนตำแหน่งเถอะ ใบเลื่อนตำแหน่งของรองประธานและผู้อำนวยการ เดี๋ยวสักครู่ฉันจะเซ็นอนุมัติให้คุณ!”

“ฉัน……ฉันรับทราบแล้วประธานจู ขอบคุณที่คุณไว้วางใจฉัน!” หลินเสี่ยวเฟิงตื่นเต้นจนร้องไห้ออกมา

หลังจากที่ประธานจูเดินจากไปแล้ว หลินเสี่ยวเฟิงก็ไม่รู้แล้วว่าตัวเองนั้นควรจะทำอะไร

ปัง!

ในเวลานี้เอง แก้วน้ำของถังหรานก็ตกลงไปที่พื้นโดยตรงและแตกเป็นเสี่ยงๆ

เธออึ้งไปแล้ว

“เป็นไปได้ไง?นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?”

เธอพึมพำด้วยความไม่เชื่อ

คุณลองคิดสิ คู่ต่อสู้ในวาระของคุณคนหนึ่ง ที่คุณเหนือกว่าเขาทุกประการ

แต่สุดท้ายหลังจากที่ต่อสู้กันมานาน เขาไม่ใช่แค่เลื่อนขั้น แต่เลื่อนแบบทะยานขึ้นโดยตรง และจู่ ๆเขาก็ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งเดียวกันกับคุณแล้ว ในใจของคุณมีความรู้สึกอย่างไร!

“ยินดีด้วยผู้อำนวยการหลิน อุ๊ยไม่สิ ยินดีด้วยรองประธานหลิน!”

ผู้คนในสำนักงาน ทุกคนต่างก็ยกมือขึ้นมาปรบมือดังๆให้เธอ

ส่วนหลินเสี่ยวเฟิง ก็มองไปที่การแสดงของถังหรานแล้วยิ้มอย่างมีชัยชนะ

หลังจากนั้นก็ได้หมายเลขโทรศัพท์หมายเลขหนึ่งในเวลาต่อมาและโทรออกไปโดยเร็วที่สุด:

“เฉินเกอ เรื่องนี้ต้องขอบคุณคุณมากจริง ๆ เพื่อนของคุณจินเย๋คนนั้นช่างยอดเยี่ยมมากเหลือเกิน!ตอนนี้ฉันได้เลื่อนขั้นเป็นรองประธานแล้ว เฉินเกอ รอให้คุณมีเวลาว่างแล้ว ฉันกับสวี่ซินเชิญชวนคุณทานข้าวอีกมื้อหนึ่ง!คุณต้องมาให้ได้นะเฉินเกอ!”

หลินเสี่ยวเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงที่ดังมาก เพื่อที่จะให้ใครบางคนได้ยิน

“ได้ครับคุณน้าหลิน!”

เฉินเกอที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์พยักหน้าตอบรับ

หลังจากพูดได้ไม่กี่คำ หลินเสี่ยวเฟิงก็วางสายโทรศัพท์

“คุณ……คุณโทรศัพท์หาใคร?คุณบอกว่าใครช่วยคุณ?”

ถังหรานถามด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว

“เฉินเกอไง คุณคุ้นเคยมากกว่าฉันนิ ทุกคนรู้ไหมว่าเฉินเกอคือใคร?ก็คือชายหนุ่มคนที่พวกเราพูดถึงเมื่อวันคนที่ถอนเงินสด600,000หยวน เขาคนนั้นแหละ ตอนนี้เป็นเพื่อนที่ดีของลูกสาวฉัน และเขาก็ดีกับลูกสาวฉันมาก!”

ทุกคนในสำนักงานต่างก็คุ้นเคยเขา ดังนั้นหลินเสี่ยวเฟิงจึงพูดออกมาอย่างไม่ลังเล

“ว้าว!นี่มันลูกเขยในอุดมคติเลย!”

ทุกคนกล่าวอย่างอิจฉา

“คุณ……คุณพูดไร้สาระ เฉินเกอเขามีความสามารถขนาดนี้ได้อย่างไร?คุณกำลังพูดเรื่องไร้สาระ!”

ถังหรานตะโกนพูด

คำพูดเหล่านี้ ราวกับว่าเป็นหนามแหลมทิ่มแทงใจของเธอทีละนิดๆ

“ฮ่าฮ่า ถือว่าฉันพูดไร้สาระ ได้ได้ได้ ฉันพูดไร้สาระพอใจหรือยัง!”

หลินเสี่ยวเฟิงยิ้มอย่างมีความสุข

ส่วนถังหราน นั่นรู้สึกมีจุกเสียดแน่นอยู่ในใจของเธอเยอะมาก

อายุเธอก็ราว ๆสี่สิบแล้ว เมื่อเห็นว่าชื่อเสียงถูกคู่แข่งแย่งไปหมด อีกทั้งยังเป็นเฉินเกอที่ตัวเองมองว่าเป็นเหมือนหมาข้างถนนที่ไม่มีเจ้าของเป็นคนให้เธอ

ความสำนึกผิดกับความเสียใจและความอิจฉารวมกัน จนทำให้เธอนั้นร้องไห้ออกมา!

พูดถึงเฉินเกอ

ในขณะนี้เฉินเกอได้อยู่ที่โรงแรมแล้ว และเขาก็ได้รับสายโทรศัพท์สายหนึ่ง

ซึ่งหลี่เจิ้นกั๋วเป็นคนโทรเข้ามา

“คุณชายเฉิน ฉันมีเรื่องอยู่สองเรื่องจะบอกกับคุณ!”

หลี่เจิ้นกั๋วกล่าว

“ประธานหลี่ เชิญพูด!”

“เรื่องที่หนึ่ง ก็คือเรื่องความคืบหน้าของหยกของคุณ ฉวู่เหล่าคนนั้นได้ค้นคว้าข้อมูลอะไรบางอย่างออกมาแล้ว และฉันก็ช่วยหาปรามาจารย์หลายท่านจากหลายๆที่มาช่วยเขายืนยันขั้นสุดท้ายแล้ว และเชื่อว่าผลจะออกมาในอีกสองถึงสามวันนี้ สำหรับผลที่คาดเดาในปัจจุบันคือ แหล่งที่มาของวัสดุหยกนั้นมาจากทางตะวันตกเฉียงใต้!”

หลี่เจิ้นกั๋วกล่าว

“ทางตะวันตกเฉียงใต้หรอ……ได้ ถ้าอย่างนั้นก็รอผลสุดท้ายเถอะ แล้วเรื่องที่สองล่ะ?”

เมื่อเฉินเกอได้ยินว่าเรื่องมีความคืบหน้า เขาก็ค่อนข้างรู้สึกว่ามีความสุข

“เรื่องที่สอง คืออยากจะถามคุณว่าคืนนี้คุณว่างหรือเปล่า เหอะๆ การลงทุนในอำเภอผิงอันของพวกเราครั้งนี้ รวมไปถึงการพัฒนาขนาดใหญ่ในเมืองจินหลิง ผู้นำทุกคนต่างให้ความสำคัญมาก และจะมาตรวจสอบในตอนบ่ายของวันนี้ คืนนี้ฉันเลยจัดงานเลี้ยงต้อนรับ และถ้าคุณสามารถมาได้ ก็แสดงให้เห็นชัดว่าพวกเรามีความเคารพต่อผู้นำด้วย!”

“อ่อๆ บุคคลที่มานั้นมีใครบ้าง?ฉันมีเวลาว่างอยู่!”

เฉินเกอถาม

“หัวหน้าตำรวจหวงเหวยหมิน,รองหัวหน้า*แห่งเมืองจินหลิง,และหัวหน้า**ในอำเภอผิงอัน,ต่างมากันทั้งหมด!”

“มีอธิบดีหวงเหวยหมิน รวมไปถึงหัวหน้า*และรอง* และก็มีผู้**ระดับใหญ่ของอำเภอผิงอัน มากันทั้งหมด!”

“ได้ เดี๋ยวคืนนี้ฉันไปเช้าหน่อย!”

เฉินเกอกล่าว

เขามองไปที่นาฬิกาตอนนี้ก็เกือบสี่โมงเย็นแล้ว

จากนั้นเขาก็ไปเตรียมตัวเพื่อที่จะไปให้ถึงล่วงหน้าก่อน

และในขณะนี้เอง เฉินเกอก็นึกขึ้นได้ว่า คืนนี้นัดทานอาหารเย็นกับลี่เสี้ยวไว้

ไปไม่ได้แล้ว ต้องโทรศัพท์บอกกับเขาสักคำ

แต่ทำไมโทรศัพท์ไปหาลี่เสี้ยวแล้วแต่ก็ไม่ใครรับสายสักคน

เกิดเรื่องอะไรขึ้นรึเปล่า?

จากนั้นเฉินเกอก็โทรศัพท์ไปหาซูถิง

ครั้งนี้หลังจากติดต่อไปสองสาย ซูถิงก็รับโทรศัพท์

แต่หลังจากที่เขารับสายโทรศัพท์แล้ว เฉินเกอก็รู้สึกมีอะไรบางอย่างผิดปกติ

เพราะว่าทางด้านของลี่เสี้ยวนั้นวุ่นวัยและเสียงดังมาก ราวกับว่ามีคนกำลังตะโกนด่าอยู่

และก็ยังมีเสียงตะโกนด่าของลี่เสี้ยวผ่านเข้ามาเป็นครั้งคราวอีกด้วย

ส่วนซูถิงที่กำลังพูดอยู่นั้น เธอก็มีความกังวลอยู่เล็กน้อย

“เฉินเกอ!”

“ซูถิง เป็นอะไร?ทางนั้นมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”

ซูถิงหยุดชั่วคราวแล้วพูดว่า:“คือลี่เสี้ยวเอง พอดีมีคนมาพังร้านของเรา และลี่เสี้ยวกำลังจะต่อสู้กับพวกเขา ตอนนี้คนพวกนี้ยังอยู่ที่ร้านอยู่เลย!”

“ห๊ะ?”เฉินเกอกระโดดขึ้นมาจากโซฟา

“รอก่อน ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน