บทที่257 เอาตัวไปให้หมด
เมื่อเฉินเกอมาถึง เป็นไปตามที่เขาคาดไว้ไม่ผิด มีรถหลายคันจอดอยู่ที่นอกร้านขายรถมือสองของลี่เสี้ยว และมีคนกลุ่มหนึ่งกำลังเบียดล้อมหาเรื่องพวกเขาอยู่
ส่วนเรื่องพังร้านนั้น ประตูกระจกของร้านลี่เสี้ยวโดนทุบจนเละตุ้มเป๊ะไปหมด
มองจากระยะไกล เฉินเกอมองเห็นร่างที่คุ้นเคยสองร่าง
ซึ่งก็คือคู่แม่ลูกที่มานัดดูตัวกับเขานั้นเอง
เมื่อมองดูถึงตรงนี้ เฉินเกอก็รู้ทันทีแล้วว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น!
ไม่แปลกใจเลยทำไมในสายที่คุยกันอยู่ตลอดซูถิงถึงไม่ให้ตัวเองมา
รู้สึกว่าไอ้พวกนี้มันหาคนกลับมาแก้แค้นนิ
“แม่งเอ๊ย เขาคนนี้แหละ ไอ้สารเลวคนนี้แหละที่ตีคนแล้วยังอยากจะวิ่งหนีอีก!”
ในแวบแรกที่หญิงปากร้ายคนนั้นเห็นเฉินเกอ ก็รีบหันกลับไปพูดกับคนที่อยู่ด้านหลังของเธอทันที
มองคนพวกนี้แล้ว รู้สึกเหมือนกับว่าจะเป็นนักเลงกันทั้งหมดเลย
มีรอยสักมังกรและหงส์เต็มแขนไปหมด แค่มองก็รู้แล้วว่าเป็นพวกที่ไม่น่าไปยุยั่วสักเท่าไหร่
เป็นพวกวัยรุ่นที่มีอายุราว ๆประมาณยี่สิบหกถึงยี่สิบเจ็ดปี
และในมือของพวกเขาต่างก็ถือไม้หน้าสามอยู่
ส่วนลี่เสี้ยวนั้น ในมือของเขาถือมีดอีโต้อยู่สองเล่ม แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะมีคนเยอะกว่า แต่ลี่เสี้ยวไม่มีท่าทีหวาดกลัวเลยสักนิด
และพวกฝ่ายนั้น เห็นว่าลี่เสี้ยวเป็นคนที่เล่นเอาถึงชีวิต ต่างก็ไม่กล้าที่จะลงมือก่อน
อย่างไรก็ตามทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากัน ใครก็ไม่กล้าที่จะเป็นคนแรกที่เริ่มลงมือก่อน
“ไอ้สารเลวคนนี้แหละที่ตีพวกเราสองคน!ไปทุบตีมันให้ตาย !”
หญิงปากร้ายตะโกนด่า
“ฉันแม่งจะดูสิว่าใครหน้าไหนมันกล้าแตะต้องน้องชายของฉัน!”
ลี่เสี้ยวเขย่ามีดอีโต้ในมือแล้วตะโกนพูดขึ้น และคนฝ่ายนั้นก็ไม่มีใครกล้าที่จะขยับจริง ๆ
หนึ่งในกลุ่มคนพวกนั้น ที่เป็นหัวหน้า มีรูปร่างที่กำยำล่ำสัน สวมใส่แว่นกันแดด และในมือก็ถือกระเป๋าสีดำใบเล็กหนึ่งใบ และเขาก็ยกกระเป๋าที่ถืออยู่ในมือของเขาไปมาสองถึงสามที จากนั้นพี่น้องที่อยู่ด้านหลังของเขาทั้งหมดก็ถอยหลัง
“ฉันว่าลี่เสี้ยว พวกเรารู้จักกันก็ไม่ใช่แค่ปีสองปีแล้วมั้ง แล้วก็ทำธุรกิจรถมือสองเหมือนกัน และฉันก็รู้นิสัยของคุณอย่างชัดเจน เหอะๆ ถ้าเป็นคนอื่น เรื่องนี้ฉันก็ช่างมันแล้ว แต่ว่าครั้งนี้คนที่โดนตีเป็นน้องสาวลูกพี่ลูกน้อง และน้าของฉัน มันคงไม่สามารถที่จะปล่อยผ่านไปได้!ดังนั้นฉันต้องการคำอธิบาย!”
ชายคนนั้นพูดขึ้นด้วยท่าทีที่เอียงคอเอียงตาและยกคิ้ว
“หยางกั๋วเฉวียน หญิงโสเภณีคนนี้เธอเป็นน้องสาวลูกพี่ลูกน้องห่าอะไรของคุณ ทำไมฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าคุณมีน้า!”
ลี่เสี้ยวหัวเราะอย่างเย็นชา
เฉินเกอที่อยู่ด้านข้างก็มองออก ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นผู้หญิงประเภทที่มั่วไปหมด ไม่รู้ว่าเคยมีผู้ชายมาเยอะเท่าไหร่แล้ว!
“เหอะๆ เรื่องนี้คุณไม่ต้องกังวล เอาเถอะลี่เสี้ยว ถึงแม้ว่าเมื่อก่อน คุณและฉันจะเคยมีเรื่องกันในด้านธุรกิจ แต่มีพี่ใหญ่หลายคนช่วยคุณเจรจา ฉันก็ไม่สามารถพูดอะไรได้ แต่วันนี้ เรื่องนี้ คุณและฉันหยางกั๋วเฉวียนถือว่าได้สร้างความบาดหมางกันไว้แล้ว พวกเราคอยดูกันต่อไปละกัน!พี่น้อง กลับ!”
หยางกั๋วเฉวียนโบกมือ และจากไปพร้อมกับพากลุ่มคนของเขากลับไปด้วย
“พี่กั๋วเฉวียน ปล่อยพวกเขาไปแบบนี้เลยหรอ!?”
หญิงสาวพูดด้วยความไม่พอใจ
“ไปเถอะ ฉันมีวิธีของฉันเอง!”
หยางกั๋วเฉวียนหัวเราะอย่างเย็นชา
คนกลุ่มนี้ก็แยกย้ายกันไป
เฉินเกอมองไปที่ประตูกระจกของลี่เสี้ยวที่โดนทุบจนแตกหมด ในใจของเขาก็รู้สึกผิดและโทษตัวเอง
ว่าไปแล้ว เรื่องนี้ตัวเองเป็นคนก่อแท้ๆ
แต่ผลสุดท้ายกลับต้องให้พี่ชายตัวเองเป็นคนจ่ายบิล
“ลี่เสี้ยว ซูถิง ขอโทษนะ!”
เฉินเกอกล่าว
“คุณพูดคำนี้กับฉันทำไม ไม่โทษคุณ!ฉันกับหยางกั๋วเฉวียนคนนี้ ต่อสู้กันมาไม่ใช่แค่วันสองวันแล้ว ถึงวันนี้จะไม่หาข้ออ้างเรื่องนี้ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็หาข้ออ้างอย่างอื่น!”
ลี่เสี้ยวโยนมีดอีโต้ทิ้ง
แล้วหยิบบุหรี่ที่อยู่ด้านข้างมาพร้อมกับจุดไฟ
ส่วนซูถิง ก็ไปเก็บกวาดทำความสะอาดเศษกระจกพวกนั้น
เมื่อฟังคำพูดของลี่เสี้ยว เฉินเกอก็เข้าใจสาเหตุของเรื่องราวทั้งหมด
เดิมที ลี่เสี้ยวไปเดินซูเปอร์มาร์เก็ตกับซูถิงกลับมา ได้ซื้อเนื้อกับผักกลับมาหนึ่งถุงเพื่อทำอาหารตอนกลางคืน
แต่ทันทีที่พวกเขากลับมาถึง ก็เห็นพวกของหยางกั๋วเฉวียนและคู่แม่ลูกคู่นั้นอยู่ที่ประตู
เห็นได้ชัดว่าแม่ลูกคู่นั้นหาคนมาแก้แค้นเฉินเกอ แต่ว่าไม่พบเฉินเกอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...