ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน นิยาย บท 299

บทที่299 เอาคืน

“พระเจ้า พระเจ้า เมื่อกี้พวกเราเจออะไรเนี่ย? อยู่ๆก็เดินอยู่ด้วยกันกับคุณชายเฉินแห่งจินหลิง!”

“พี่ฮุย นี่เรื่องจริงหรือโกหกคะ?”

สาวๆพูดขึ้นพร้อมกัน

“แน่นอนว่าเรื่องจริงสิ! ฉันหลอกพวกเธอได้ด้วยเหรอ ก็แค่ว่าเหล่าเฉินเป็นคนเงียบๆสมถะ พวกเราถึงได้รู้สถานะของเขาเมื่อไม่นานมานี้!”

หยางฮุยพูดขึ้นยิ้มๆ

“อย่างนั้นก็ไม่แปลกใจเลย เมื่อกี้ตอนที่เดินกับพี่เฉินเกอ ชอบรู้สึกว่าเขาดึงดูดคน ที่แท้ก็เป็นคุณชายเฉินเมืองจินหลิง!”

กลุ่มคนพูดไปหัวเราะไป

แน่นอนว่าหัวข้อต่อไปของบทสนทนาก็ต้องเปลี่ยนเป็นเรื่องของเฉินเกอ

หยางฮุยตั้งใจจะพาพวกน้องๆไปสองสามจุดในมหาวิทยาลัย ห้องสมุดและสระว่ายน้ำของมหาวิทยาลัย เสร็จแล้วไปเที่ยวที่วิทยาเขตทางวัฒนธรรม

เดินไปๆ พวกเด็กสาวๆไม่กี่คนก็เดินไม่ไหวแล้ว

ยังไงเสียมหาวิทยาลัยจินหลิงก็ใหญ่เอาการ

“ไม่ไหวแล้วค่ะ ฉันจะต้องพักก่อน หิวน้ำแทบแย่แล้ว!”

เด็กหญิงสองสามคนคร่ำครวญครั้งแล้วครั้งเล่า

“หิวน้ำแล้วเหรอ อย่างนี้ก็ง่ายๆ พี่ไปซื้อน้ำให้พวกเธอเอง!”

หยางฮุยพูด

“ฉันไปด้วยดีกว่า!”หลี่ปินมองว่าถ้าตัวเองอยู่ตรงนี้คนเดียวคงจะเขินแย่ ดังนั้นก็เลยไปกับหยางฮุย

ร้านขายของที่ใกล้ที่สุด ห่างจากที่นี่ก็จำเป็นต้องใช้เวลาประมาณเจ็ดแปดนาที

หยางฮุยซื้อชาดำมาแปดขวด

เพิ่งจะออกมาจากร้านขายของกับหลี่ปิน

กลับมองเห็นว่าตรงประตูหน้าร้านค้า ไม่รู้ว่ามีรถไมบัคคันหรูสองคันมาจอดอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่

แถมด้านหน้าประตูของรถหรู ก็มีวัยรุ่นที่สวดแว่นดำยืนอยู่เจ็ดแปดคน

กำลังจ้องมองมาที่หลี่ปินกับหยางฮุย

เห็นว่าทั้งสองคนออกมา วัยรุ่นทั้งเจ็ดแปดคนก็มาขวางทางทั้งสองคนเอาไว้

“พวกคุณมาทำอะไร?”

หยางฮุยพูด

“ช่วยมาทางนี้กับพวกเราด้วยครับ!”

วัยรุ่นคนแรกที่ไว้ผมยาวแล้วสวมแว่นสีดำราวกับผู้หญิง แต่ว่าเสน่ห์ของความเท่ห์นั้น ทำให้คนตัวสั่นด้วยความกลัว

ในตอนนี้เขาชี้ไปทางด้านหลังตรงกลางกำแพงของร้านค้า แล้วพูดขึ้นน้ำเสียงเย็นชา

“ไปทำอะไร พวกเราไม่ได้รู้จักคุณเสียหน่อย!”

หลี่ปินพูดขึ้น

พูดจบหยางฮุนก็ต้องใจจะจากไป

วัยรุ่นผมยาวคนนั้นคว้าหัวไหล่ของหลี่ปินเอาไว้

ส่วนคนด้านหลังก็ล้อมกันเข้ามา ล้อมตัวหลี่ปินกับหยางฮุย ล้อมจนไปถึงกำแพงด้านหลัง

แน่นอนว่าคนที่ร้านค้ามีจำนวนมาก

มาเจอสถานการณ์ตรงหน้าก็ได้แต่ยืนมองอย่างตกตะลึง

ยังไงตรงหน้าที่ฟังอยู่ก็คือไมบัคนะ ส่วนคนพวกนี้ดูแล้วก็ไม่เหมือนกับคนธรรมดาทั่วไปในสังคม

ดังนั้นใครก็ไม่กล้าหาเรื่องด้วย แม้แต่ถ่ายรูปก็ไม่มี

สิบนาทีถัดไป

คนกลุ่มนี้ถึงได้เดินหมุนข้อ สะบัดข้อมือออกมาจากทางด้านหลังกำแพงล้อม

ผู้ชายคนแรกที่สวมแว่นตาดำผมยาว ทำยิ่งไปกว่านั้นคือใช้กระดาษทิชชูเช็ดเลือดออกจากบนมือ จากนั้นก็โยนกระดาษทิชชูลงไปข้างๆ

คนกลุ่มใหญ่ทั้งหมด เดินมาทางด้านร้านค้า

ด้านหน้าผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังแลบลิ้นเลียไอศกรีมและหัวเราะเอิ้กอ๊าก

“คุณหนูรอง เรียบร้อยแล้วครับ!”

ฉางเหมาพูดขึ้นเบาๆ

ราวกับคุยกับใครเสียงของเขาก็จะเย็นชา

“ฮิๆ พี่ฉางเหมา เหนื่อยหน่อยนะ แต่ว่าน่าเสียดาย ฉันจับตาพวกเขาอยู่ฝั่งโน้นและกลับมารายงานตัวก่อนเวลา ทำให้พวกนายขวางเฉินเกอไว้ไม่ได้ แม่งเอ๊ย โมโหจริงเลย!”

ผู้หญิงตรงหน้า ถ้าไม่ใช่หยางลู่แล้วจะเป็นใครได้อีก

อย่ามองว่าหยางลู่เพิ่งจะถึงมหาวิทยาลัยได้วันแรก

แต่ว่าข้างๆตัวเธอก็มีเพื่อนจำนวนไม่น้อยแล้ว

อีกอย่างในมหาวิทยาลัยก็ทำตัวเกเร ใครก็ไม่กล้าขัดใจ

แค่เพราะว่าตอนเพิ่งจะเริ่มเปิดเทอม หยางลู่ก็เอากลุ่มรถเข้ามาช่างดูสูงส่งมากมาย

ล้วนกลัวเธอ

“ไม่เหนื่อยเลยครับ ทำงานให้กับคุณหนูใหญ่คุณหนูรองเป็นเกียรติของผมครับ!”

ฉางเหมาบอก

“โอเค พวกนายกลับไปก่อนแล้วกัน แล้วก็รอฟังโทรศัพท์จากฉันตลอดเวลาด้วย!”

หยางลู่โบกมือ เสร็จแล้วก็เลียไอศกรีมแล้วก็จากไป

อีกด้านหนึ่ง

“โอ้ย ทำไมถึงนานแบบนี้นะ พี่หยางฮุยกับพี่หลี่ปินยังไม่กลับมาอีกเหรอ?”

พวกเด็กสาวพูดขึ้นอย่างแปลกใจ

“ใครจะไปรู้ล่ะ ผ่านไปตั้งยี่สิบนาทีแล้วนะ ไม่อย่างนั้นพวกเราออกตามดีไหม?”

“โอเค!”

ในตอนนี้

ผู้หญิงคนหนึ่งก็วิ่งมาทางด้านหยางเสี่ยวหรู

แค่มอง ที่แท้ก็เป็นเพื่อนร่วมห้องเดียวกัน เป็นเพื่อนร่วมหอห้องข้างๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน