บทที่ 302 การเจอกับเพื่อนมัธยมปลายอีกครั้ง
“ฉัน……ฉันเองก็ไม่รู้ว่าพี่สาวฉันไปอยู่ที่ไหน ตั้งแต่เธอกลับมา ก็มาหาฉันที่โรงเรียนแค่ครั้งเดียวเท่านั้นเอง ฉันกับเธอก็ไม่เคยติดต่อกันทางโทรศัพท์เลย”
หยางลู่พูดขึ้นด้วยอาการร้องไห้
“งั้นก็โทรหาเธอ”
เฉินเกอพูด
ต้องเจอกับหยางเสว่ให้ได้แล้ว เพราะตัวเองก็ไม่อยากที่จะทนต่อการที่เธอทำให้ทรมานอยู่อย่างนี้
หากว่าฉันทำผิดกับเธอในสิ่งใด ก็ให้แก้แค้นที่ฉันคนเดียว
อย่าทำอะไรคนที่อยู่ข้าง ๆ ฉัน
เพราะการทำแบบนี้ เฉินเกอเองก็รับไม่ได้
หยางลู่ถึงแม้ว่าจะส่งสัญญาณให้ลูกน้องตัวเองจัดการกับเฉินเกอ
แต่ลูกน้องเหล่านี้ ไม่มีใครกล้าจะทำอะไรเลยสักคน เพราะฝีมือของสองคนนี้ ทุกคนต่างเห็นชัดเจนแล้ว จึงไม่กล้าที่จะปะทะด้วย
คงมีแค่คนที่โหด ๆ อย่างกับพิษแมงป่องเท่านั้น ที่จะกล้าปะทะกับสองคนนี้
ดังนั้น บอดี้การ์ดที่เหลือ เลยไม่กล้าที่จะทำอะไร
หยางลู่จึงทำได้แค่หยิบโทรศัพท์ออกมาให้แก่เฉินเกอ
เมื่อเฉินเกอเห็นเบอร์ของหยางเสว่แล้ว ก็ได้กดโทรไปทันที แต่โทรศัพท์เธอนั้นได้ปิดเครื่องไว้
“ทำไมถึงปิดเครื่องไปแล้วล่ะ”
“ฉันก็ไม่รู้”
หยางลู่พูด
“ดูเหมือนว่าหากไม่สั่งสอนเธอสักหน่อย เธอคงไม่ยอมพูดความจริงแน่ ตี้หูลงมือ”
“ครับ คุณชายเฉิน”
จากนั้น ก็หยิบเข็มเงินหนึ่งเล่มออกมา แล้วจะแทงเข้าไปที่คอของหยางลู่
“ฮ่ะ!ฮือ ๆ ๆ……”
หยางลู่ทันใดก็ร้องไห้ออกมา “ที่ฉันพูดนั้นเป็นความจริง นี่คือเบอร์ของพี่สาวของฉันแล้วนะ”
หยางลู่พูดทั้งน้ำตา
ถึงแม้ตี้หูจะแกล้ง ๆ ทำให้เธอตกใจ เธอก็ยังคงพูดอยู่แบบนี้
ตี้หูมองที่เฉินเกอ
เฉินเกอขมวดคิ้วขึ้น จากนั้นก็โบกมือลดลง เพื่อให้ตี้หูปล่อยเธอ
เมื่อครู่เฉินเกอแค่จะขู่หยางลู่เท่านั้น แต่ดูจากอาการของเธอแล้ว หยางลู่ก็ดูกลัวเข้าจริง ๆ ที่เธอบอกมามันก็น่าจะเป็นความจริง
เพราะเฉินเกอเองก็ไม่สามารถที่จะลงมือกับหยางลู่ได้อยู่แล้ว
จะตีจนเธอพิการหรอ
หรือว่าจะทำอะไรก็เถอะ
และสำหรับที่เมื่อครู่นั้น เธอตบที่หน้าเขาไปหนึ่งครั้ง ก็เลยถือเสียว่ามันเป็นการชดเชยในสิ่งที่ตัวเองได้ติดค้างกับหยางเสว่เอาไว้
หากจะพูดเป็นพันเป็นหมื่นครั้ง เรื่องที่หยางเสว่นั้นได้หยุดการเรียน ต่างก็เกี่ยวข้องกับตัวเอง
เฉินเกอขมวดคิ้ว แล้วเดินออกจากห้องนั้น
“คุณชายเฉิน คนเหล่านี้จะทำอย่างไรดี ” เทียนหลงชี้ไปยังลูกน้องของหยางลู่
เฉินเกอพยักหน้า แล้วก็เดินออกไป
หลังจากนั้น ก็ได้ยินเสียงร้องอย่างทรมานเหมือนกับเสียงหมูถูกฆ่าดังออกมาจากห้องนั้น
บอดี้การ์ดเหล่านั้น ตัวเองไม่มีเหตุผลที่จะปล่อยพวกเขาไปง่าย ๆ
เมื่อเฉินเกอเดินออกมา ก็ตรงไปยังเคาน์เตอร์ สั่งเบียร์แก้วหนึ่ง และกำลังคิดว่าอยู่เรื่องของหยางเสว่นั้นจะจัดการยังไงดี
ส่วนข้าง ๆ เฉินเกอในตอนนี้ มีผู้หญิงหนึ่งคนนั่งอยู่
ในเวลานั้น เธอกำลังดื่มเหล้าแชมเปญอยู่
เมื่อเฉินเกอไปยังเธอ ทันใดก็ถึงกลับตะลึง
แทบจะไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น
และก็หยุดไม่ได้ที่จะมองเธออีกหลาย ๆ ครั้ง
และผู้หญิงคนนั้น ก็สังเกตได้ถึงแววตาของเฉินเกอเช่นกัน จึงอดที่จะมีอาการที่ดูรังเกียจเขาไม่ได้
จากนั้นก็เบือนหน้ามองเฉินเกอ
“ฮืม?”
“ฮืม?”
ทั้งสองคนต่างก็ตะลึงไปพร้อม ๆ กัน
“เฉินเกอหรอ”
“หูฮุ่ยหมินหรอ”
ทั้งสองคนพูดขึ้นพร้อมกัน
“นายมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”
หูฮุ่ยหมินมองที่เฉินเกอพร้อมถามขึ้น
“ฉันมาดื่มนิดหน่อย ไม่คิดเลยว่าจะบังเอิญขนาดนี้”
เฉินเกอพูดด้วยอาการแปลกใจ
หูฮุ่ยหมิน เป็นเพื่อนสมัยช่วงมัธยมปลายของเฉินเกอ แต่ว่า ทั้งสองคนก็ไม่ใช่เพื่อนร่วมห้องกันแต่อย่างใด แล้วรู้จักกันได้อย่างไร
สมัยช่วงมัธยมปลายนั้น เฉินเกอมีผลการเรียนที่ดีมาก
และเป็นตัวแทนของโรงเรียนเข้าร่วมกิจกรรมแข่งขันทางวิชาการอยู่บ่อยครั้ง
ส่วนหูฮุ่ยหมินนั้น ก็เป็นหนึ่งคนในนั้นที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมเหมือนกัน และก็เป็นหัวหน้ากลุ่มของตัวแทนการแข่งขันกิจกรรมทางวิชาการด้วย
ในสมัยนั้นการแข่งขันในการแข่งขันในมณฑล เป็นช่วงเวลาที่เฉินนั้นมีความสุขที่สุด
เพราะว่าอะไรน่ะหรือ อันดับแรกคือความภูมิใจและเกียรติยศ อันดับรองคือได้พักที่ดี ๆ กินอาหารที่ ดี ๆ
หนึ่งกลุ่มมีทั้งหมดยี่สิบสี่คน แบ่งเป็นชายสิบสองคน และหญิงสิบสองคน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...