ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน นิยาย บท 334

บทที่ 334 ซูเฉียงเวยเกิดเรื่องแล้ว

“อะไรนะ? นายบอกว่าบ้านหลังนั้นนายเป็นคนยืมให้ผู้หญิงคนนั้น?”

เฉินเกอได้เล่าเรื่องของหยางเสว่ให้ซูเหมิงเหมิงฟังอีกครั้ง

ส่วนในเรื่องที่หยางเสว่พูดว่าเธอท้อง เฉินเกอเองก็ไม่รู้แล้ว

แต่ว่าไม่ยากที่จะคิด ยัยหยางเสว่นี่ต้องไม่หวังดีแน่นอน บัญชีนี้ ค่อยคิดเอาทีหลัง

ตอนนี้เฉินเกอแค่ไม่อยากให้ซูมู่หานเข้าใจผิด

“เอาเถอะเอาเถอะ ดูแล้วนายก็ไม่ได้เหมือนพูดโกหก ฉันจะไปช่วยพูดกับมู่หาน ดีที่สุดนายอย่าโกหกนะ นายรู้ไหม มู่หานเกลียดคนที่โกหกเธอแกล้งเล่นเธอที่สุดแล้ว!”

พอได้พูดจากันแบบนี้แล้ว ซูเหมิงเหมิงเองก็รู้สึกได้ว่า เฉินเกอดูแล้วก็ไม่ได้เหมือนคุณชายที่ไม่มีจิตใจแบบนั้น

ความรู้สึกที่ให้ดูเป็นคนอัธยาศัยดีมาก

ถ้าหากว่าเขาไม่ได้ทำแบนนั้นจริงๆ แน่นอนว่าซูเหมิงเหมิงยอมช่วยเขาอยู่แล้ว

ฉะนั้นเฉินเกอก็เลยรอยอยู่ที่ข้างล่าง

ซูเหมิงเหมิงก็กลับไปแล้ว

แต่ในไม่ช้าเธอก็วิ่งออกมาด้วยความเร่งรีบ

“เฮ้อ เฉินเกอ ฉันช่วยนายไม่ได้แล้ว มู่หานไม่ฟังสิ่งที่ฉันพูดเลย และไม่อยากเจอนาย ครั้งนี้นายทำร้ายเธอมากไปแล้วจริงๆ นายกลับไปก่อนเถอะ....”

ซูเหมิงเหมิงพูด หลังจากพูดจบเธอก็เข้าไปแล้ว

เฮ้อ!

ในใจของเฉินเกอรู้สึกแย่มาก

ไม่ง่ายเลยกว่าจะรอซูมู่หานกลับมา รอไปรอมาปรากฏว่ามาในสถานการณ์แบบนี้

และอยู่ในเวลานี้

จู่ๆ โทรศัพท์ของเฉินเกอก็ดังขึ้น

หยิบออกมาดู คือสายของซูเฉียงเวย

“เฉียงเวย มีอะไรหรอ?”

เฉินเกอยิ้มอย่างอ่อนโยน เฉินเกอเห็นว่าซูเฉียงเวยเป็นเหมือนน้องสาวของตัวเองตั้งแต่แรกแล้ว

“คุณชายเฉิน ฉันไม่ใช่เฉียงเวย ฉันคือเพื่อนร่วมงานของเธอเว่ยหลิน ครั้งที่แล้วเราเคยเจอหน้ากัน!”

ผู้หญิงที่อยู่ในสายพูด ฟังจากน้ำเสียงของเธอแล้ว เหมือนว่าจะมีเรื่องอะไร ดูกระวนกระวายมาก

“ฉันจำได้แล้ว! มีอะไรหรอ?”

เฉินเกอรีบถาม

“คือเฉียงเวย เกิดเรื่องขึ้นกับเฉียงเวยแล้ว ตอนนี้เธอไปโรงพยาบาลแล้ว!”

เว่ยหลินพูดด้วยความเร่งรีบ

“ห๊ะ?”

เฉินเกอตกใจมาก

ขณะนั้นรีบมองขึ้นไปบนตึก ตอนแรกอยากจะตะโกนให้ซูมู่หานได้ยิน แต่ก็กลัวว่าเธอได้ยินแล้วจะกังวลใจ

ไม่ว่ายังไงแล้วตอนนี้เธอก็ยังคงเกลียดตัวเองมาก หลังจากที่มั่นใจสถานการณ์ของเฉียงเวยแล้ว ค่อยมาหาซูมู่หานละกัน

ฉะนั้นเฉินเกอก็วิ่งกลับไป แล้วถามไปด้วย

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่? เธอพูดให้ชัดเจน!”

เว่ยหลิงพูด “วันนี้ตอนกลางวันยังดีๆ อยู่เลย ปรากฏว่าตอนบ่ายที่สอนหนังสือ จู่ๆ เฉียงเวยก็พูดว่าเธอรู้สึกไม่สบาย ตอนแรกฉันไปเติมน้ำอุ่นให้เธอ คิดว่าเธอเป็นหวัดแล้ว คิดไม่ถึงว่าพอผ่านไปสักพัก เธอกลับสลบไป! ฉันไปโรงพยาบาลกับเธอแล้ว! แต่ว่าตอนนี้เฉียงเวยฟื้นแล้ว แต่ว่าร่างกายอ่อนแอมาก”

“ทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ!”

เฉินเกอเองก็มีความกระวนกระวาย

ต่อรถไปหนึ่งคัน หลังจากถามชัดเจนแล้ว ก็พุ่งตรงไปทางโรงพยาบาล

“เหมิงเหมิง ยัยผู้ชายเจ้าชู้นั้นพูดยังไงบ้างหรอ?”

พอขึ้นมา พวกผู้หญิงก็เริ่มถาม

“เขาไม่ได้พูดอะไร แต่ว่าดูท่าทีแล้ว เขาเหมือนจะรอจนกว่ามู่หานไปเจอเขาแล้ว!”

“ไอ้ย้ะ เขาสามารถหลงใหลขนาดนี้เลยหรอ? ฉันไม่เชื่อหรอก!”

หวูเหวินเหวินพูดพร้อมรอยยิ้มที่เย็นชา

หลังจากพูดจบแล้ว ก็เดินไปทางหน้าต่าง ดึงผ้าม่านออกมองลงไปทางข้างล่าง

ปรากฏว่าเห็นภาพที่เฉินเกอต่อรถไปพอดี

“เฮอะ ฉันว่าแล้ว

ทำไม่ได้แน่นอน นี่พึ่งผ่านไปนานเท่าไหร่เนี่ย เขาก็ต่อรถไปแล้ว มู่หานเธอดูสิ!”

หวูเหวินเหวินชี้ไปทางข้างนอก

ซูมู่หานเหลือบไปมองทางนอกหน้าต่างหนึ่งที

หลังจากที่เห็นว่าเฉินเกอไปแล้วจริงๆ ซูมู่หานก็จับผ้าปูที่นอนแน่น

ใช่แล้ว ตัวเองโมโหมากจริงๆ ถึงแม้จะพูดว่าไม่อยากฟังเขาอธิบาย

แต่ว่าซูมู่หานจะไม่อยากฟังคำอธิบายจริงๆ หรอ!

ถึงแม้ว่าจะไม่อธิบายก็ได้ นายต้องรออยู่ที่ใต้ตึกสักพัก ก็สามารถยืนยันได้ว่าหัวใจที่นายมีต่อตัวฉันไม่ได้เปลี่ยนไป

แต่ว่าตอนนี้ล่ะ?

ทันใดนั้นซูมู่หานก็รู้สึกแย่ในใจมาก.....

ขณะนี้ เฉินเกอมาถึงโรงพยาบาลแล้ว

ในห้องผู้ป่วย หลังจากที่เห็นเฉียงเวยที่อ่อนแอมาก และสีหน้าซีดขาวราวกับกระดาษ

แต่ยังดีที่เฉียงเวยฟื้นขึ้นมาแล้ว

“เป็นยังไงบ้าง?”

เฉินเกอเดินมาพูดตรงหน้าเตียงผู้ป่วย

“ฉันก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ๆก็รู้สึกว่าเหมือนเลือดของตัวเองถูกสูบไปเลย มือไปทั้งสองข้างแล้วก็สลบไปเลย....”

เฉียงเวยพูดด้วยเสียงเบา

“แล้วคุณหมอว่ายังไงบ้าง?”

“เป็นห่วงก็เป็นห่วงตรงนี้แหละ มีหมอหลายคนพูดคุยกันหลายรอบแล้ว แม้กระทั่งสาเหตุของการป่วยก็ยังไม่แน่ใจ ฉะนั้นตอนนี้ ยังไม่กล้าดำเนินการรักษาขั้นต่อไปเลย!”

คนที่พูดคือเว่ยหลิน

ดวงตาของซูเฉียงเวยแดงอยู่ ไม่ว่ายังไงเธอเองก็มีความกลัวเล็กน้อยแล้ว

ถึงแม้ว่าปกติจะเข้มแข็งขนาดไหน พอเจอสถานการณ์แบบนี้ เธอเองก็ยากที่จะเผชิญด้วย

“ฉันรู้แล้ว!”

เฉินเกอพยักหน้า แล้วมองเฉียงเวยด้วยความน่าสงสาร

หลังจากนั้น ก็เดินออกไปโทรหาบอดี้การด์เทียนหลงตี้หู ให้เขาส่งผู้ชำนาญการทางด้านการรักษาของพื้นที่มา!

แน่นอนว่าบอดี้การด์เทียนหลงตี้หูไม่กล้ารอช้า ผ่านไม่นาน

ทีมชำนาญการก็มาถึงแล้ว

คนในทีมทุกคนต่างก็มีชื่อเสียงโด่งดัง

แน่นอนว่าทางโรงพยาบาลก็ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่

ตรวจสอบไปสองชั่วโมงกว่าๆ

คนพวกนี้จึงจะมาถึงข้างหน้าของเฉินเกอ

ใบหน้าที่โศกเศร้า

“คุณชายเฉิน อาการนี้ของคุณผู้หญิงซูเฉียงเวย ยากที่จะพบเจอจริงๆ อย่างน้อยผมก็ไม่เคยเจอ ถึงแม้ว่าจะใช้วิธีการของฝั่งตะวันตก หรือว่าแพทย์แผนจีน ก็ไม่สามารถหาสาเหตุอาการป่วยของคุณผู้หญิงเฉียงเวยได้!”

คนกลุ่มนี้ส่ายหน้าไปมา

“อะไรนะ? แม้แต่พวกนายก็ไม่มีวิธีแล้ว?”

เฉินเกอฟังแล้ว ก็รู้สึกผิดหวังมาก

“ขอโทษครับคุณผู้ชาย แต่ว่าถ้าหากว่าเป็นไปได้ คุณสามารถเปลี่ยนไปใช้ทีมแพทย์ที่อยู่ในวงศ์ตระกูลได้ ทักษะการแพทย์ของสมาชิกในนั้น สูงกว่าพวกเราเยอะเลย!”

มีคุณหมอชราแพทย์แผนจีนคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยความเสียใจ

“พอแล้ว ฉันรู้แล้ว! พวกนายกลับไปก่อนเถอะ!”

เฉินเกอพยักหน้า

ตัวเองและเฉียงเวยเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันอยู่แล้ว อีกอย่างตอนนี้ ตัวเองยังไม่สามารถแน่ใจความสัมพันธ์ที่มีต่อเฉียงเวย ไม่ว่ายังไงก็เห็นเธอเป็นเหมือนน้องสาว

เธอเกิดเรื่อง เฉินเกอจะปล่อยมือไม่สนใจได้ยังไงล่ะ!

เว่ยหลิน รบกวนเธอช่วยดูแลเฉียงเวยให้หน่อยนะ ฉันลองไปคิดวิธีอื่นดู “!”

เฉินเกอพูด

“ฉันรู้แล้วค่ะคุณชายเฉิน!”

หลังจากนั้นเฉินเกอก็เตรียมตัวกลับโรงแรมไปวางแผนกับลี่เจิ้นกั๋ว

ให้ลี่เจิ้นกั๋วรับผิดชอบไปหาคุณหมอที่มีชื่อเสียงในวงศ์ตระกูล

ส่วนตัวเองก็โทรหาคุณพ่อแล้วพูดเรื่องนี้

ปรากฏว่าพอมาถึงหน้าประตู ก็เห็นมีคนนั่งอยู่ตรงหน้าประตู

ยังกอดถุงกระสอบไว้ด้วย ดูแล้วข้างในน่าจะเป็นกระเป๋าเดินทาง

ไม่ใช่ใครที่ไหน ท่านลุงฉินอีฝานนั่นเอง

“ไอ่หลานโต นายไปไหนมาเนี่ย? บอกว่าวันนี้จะกลับบ้านไม่ใช่หรอ?”

ท่านลุงฉินมองเฉินเกอแล้ว ก็หัวเราะใหญ่ ยังกอดกระสอบแล้วเดินมาด้วย

เฉินเกอเหลือบไปมอง เขาคนนี้นำเอาประวัติของโรงแรมมาหมดแล้ว

“ท่านลุงฉิน ตอนนี้ฉันไม่มีเวลาไปส่งนายกลับบ้าน ฉันมีเรื่องเป็นกองเลย เอาอย่างนี้ละกัน หากนายอยากกลับไปจริงๆ ฉันจะสั่งคนขับรถส่งนายกลับเมืองฉู่ชวน”

เฉินเกอพูดด้วยความรำคาญ

ตอนนี้เฉินเกอรู้สึกยุ่งเหยิงสับสนวุ่นวายไปหมด

ถ้าหากว่าซูเฉียงเวยเกิดเรื่องขึ้นมาจริงๆ ถึงแม้ว่าไปหาผู้หญิงคนนั้น ในใจก็รู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี

“ไม่ได้ นายบอกเองว่าจะพาฉันกลับไปด้วยตัวเอง!”

ท่านฉินส่ายหน้า

“เอาเถอะ งั้นรออีกไม่กี่วันแล้วกัน เกิดเรื่องขึ้นกับเพื่อนของฉันแล้ว ฉันไม่มีกะจิตกะใจจะไป!”

เฉินเกอพูด

กำลังจะเตรียมตัวไป ป้าปดังขึ้น

จู่ๆ ไหล่ของเฉินเกอก็ถูกท่านฉินล็อกไว้

“หืม? ไม่ถูกนิ หลายชายโต วันนี้นายไปเจอใครมาเนี่ย??”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน