ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน นิยาย บท 345

บทที่345 วีไอพีชมวิว

“อืม ฉันคือเฉินเสี่ยว เขาเคยพูดถึงฉันให้เธอฟังสินะ?”

เฉินเสี่ยวยิ้มเล็กน้อยและพูด

ซูมู่หานนั้นตกใจมาก

เธอเคยได้ยินเฉินเกอพูดถึงจริง ๆ พี่สาวของเขาเฉินเสี่ยวดีกับเธอมาก อีกทั้งเธอยังเป็นคนสร้างบริษัทการค้าจินหลิงกรุ๊ปมากับมือ

เธอจึงรู้ได้ด้วยตัวเองว่าเฉินเสี่ยวฉันรวยมาก

แต่คิดไม่ถึงว่าเธอจะมีทั้งเงินและอิทธิพล

อีกทั้งยังสามารถปิดท้องฟ้าด้วยฝ่ามือเดียว

ดังนั้นซูมู่หานในตอนนี้จึงได้ประหม่า

เดิมทีเวลาเธออยู่กับเฉินเกอก็ไม่รู้สึกอะไร เพราะซูมู่หานไม่เคยใส่ใจเรื่องเงินของเฉินเกอ

เฉินเกอจะมีหรือไม่มีเงินก็ไม่เกี่ยวอะไรกับตัวเธอเลย

บวกกับความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ดีมาโดยตลอด

ดังนั้นต่อให้ซูมู่หานรู้ว่าเฉินเกอคือ คุณชายเฉิน แต่ก็ไม่เคยรู้สึกถึงความแตกต่างมากมาย

แต่ว่าตอนนี้ เมื่อเห็นพี่เฉินเสี่ยวแล้ว ซูมู่หานจึงรู้สึกได้ถึงแรงกดดันด้านความต่างที่เกิดขึ้น

“เคยเล่าค่ะ เขาบอกว่าคุณไปเป่ยเฟย!”

“อืม ๆ กลับมาเมื่อหลายวันก่อนล่ะ!”

เฉินเสี่ยวยิ้มเล็กน้อย

จากนั้น เมื่อหันกลับมาเธอตบหัวของหวงหยงหาว

“พี่สะใภ้ผมผิดไปแล้ว ผิดไปแล้วครับ!”

หวงหยงหาวกลัวจนหน้าซีดขาว

เฉินเสี่ยวนั้นหันไปมองรอยนิ้วมือบนใบหน้าของซูมู่หานอีกครั้ง

แล้วพูดขึ้นอย่างเยือกเย็น: “ใช่แล้ว ใครตบหน้าเธอเหรอ? ในเมื่อเธอเป็นแฟนของน้องชายฉัน ภายใต้สายตาของฉัน ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอต้องขาดทุน!”

“อ๊ะ? ฉะ...ฉันผิดไปแล้วค่ะ!”

หยางหัวลี่ ตกใจกลัวไม่น้อย

เดิมทีเข้าใจว่าพื้นเพของซูมู่หาน เป็นครอบครัวที่ทำธุรกิจเล็ก ๆ อยู่ที่จินหลง

ดังนั้น หยางหัวลี่ จึงกล้ากำเริบเสิบสานรังแกเธออยู่ฝ่ายเดียวเช่นนี้

แต่คิดไม่ถึงว่าเธอจะเป็นน้องสะใภ้ของเฉินเสี่ยว อีกทั้งยังมี คุณชายเฉินแห่งจินหลิง ท่านนั้น เขาเป็นแฟนของซูมู่หานจริง ๆ

ถ้าหากบอกว่าไม่กลัวก็เรียกได้ว่าโกหกแล้วล่ะ

“เธอ?”

เฉินเสียวพูดอย่างเย็นชา “มู่หาน หล่อนตอบเธอทำไม ตบเธอกลับสิ!”

ซูมู่หานกัดริมฝีปาก เธอไม่ใช่คนก้าวร้าวแบบนั้น

แต่ก็แล้วแต่คนด้วย หยางหัวลี่ มีเรื่องกับเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าและรุนแรงขึ้นทุกครั้ง

เธอไม่เคยใจดีกับตัวเอง ดังนั้นเธอจึงไม่จำเป็นต้องแสดงความกรุณาต่อเธอ

เพียะ

ซูมู่หานง้างมือตบหน้าของ หยางหัวลี่ จน หยางหัวลี่ ต้องใช้มือกุมหน้าและร้องไห้ออกมาทันที

ส่วนเฉินเสี่ยวนั้น อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ซูมู่หานเล็กน้อย

จากนั้นปรายตามอง หยางหัวลี่ แล้วพูด “เธอไม่มีตามาหาเรื่องแฟนของน้องชายฉัน ไม่สั่งสอนเธอคงไม่ได้ แบบนี้แล้วกัน เธอดื่มเหล้าขอโทษก็แล้วกัน!”

“อ๊ะ? ขอบคุณค่ะ!”

หยางหัวลี่ พยักหน้าอย่างไม่รอช้า

“ไม่ต้องขอบคุณฉันหรอก เธอฟังฉันพูดให้จบก่อน วิสกี้สิบขวดนี้ ฉันจะให้เธอกินรวดเดียวให้หมด!”

รอยยิ้มที่เยือกเย็น

ลูกน้องจับตัวของ หยางหัวลี่ เอาไว้

ซูมู่หานกะพริบตาเล็กน้อย

เรื่องนี้ถ้าจัดการไม่ดีล่ะก็ หมายถึงชีวิตคนเลยทีเดียว

ถึงแม้จะอยากสั่งสอน หยางหัวลี่ แต่ซูมู่หานยังไม่โหดร้ายได้ถึงจุดนั้น

แต่จะให้เกลี้ยกล่อม เฉินเสี่ยวทำให้คนอื่นรู้สึกว่าไม่มีข้อสงสัยใด ๆ อีก

ซูมู่หานยังค้นพบอีกว่า พี่เฉินเสี่ยวกับเฉินเกอนั้นมีบุคลิกที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

พี่เฉินเสี่ยวเย่อหยิ่ง มีอำนาจ เด็ดขาดมาก ส่วนเฉินเกอเหรอ สุภาพเรียบร้อยมารยาทดี เงียบขรึมและถ่อมตัว

ดูเหมือนว่านี่คือสิ่งที่ควรจะเป็น

“มู่หาน หลังจากงานเลิก เธอกลับไปกับพี่ พี่มีเรื่องอยากคุยกับเธอ อีกอย่าง ไม่ต้องบอกเฉินเกอนะ พวกเราไปกันสองคน!”

เฉินเสี่ยวเริ่มเคี้ยวหมากฝรั่งอีกครั้งแล้วพูดอย่างเรียบเฉย

“ทราบแล้วค่ะพี่!”

ซูมู่หานพูด ไม่รู้ด้วยเหตุใด ในใจของเธอถึงเกิดรู้สึกกระวนกระวาย...

พูดถึงเฉินเกอนั้น

เช้าวันนี้เฉินเกอมาพร้อมกับ จูหมิง เพื่อมาหาอาจารย์ที่เขาพูดถึง ที่บ้านในเขตภูเขา

รอจนสุดท้ายก็ยังต้องรออีกครู่หนึ่ง

ดังนั้น จูหมิง และเฉียงเวยจึงรออยู่บนภูเขา

แต่เฉินเกอออกมาโทรคุยกับพี่สาวของเขา

เมื่อคืนเฉินเกอเพิ่งได้ข่าวว่าพี่สาวของเธอกลับมาแล้ว

เขาคิดว่ารอให้พี่ของเขากลับมาครั้งนี้แล้วคงจะได้พบเจอกันบ้าง

ช่วงนี้ผ่านไปค่อนข้างนานแล้วที่ไม่ได้เจอ เฉินเกอคิดถึงเธอมากจริง ๆ

แต่พี่สาวบอกว่าเธอมีงานใหญ่ เดิมทีคิดว่าจะได้เจอเฉินเกอที่งานนั้น

แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้เฉินเกอยังต้องทำธุระให้พ่อเขาอยู่

ดังนั้นเฉินเสี่ยวจึงไม่ได้ว่าอะไรมาก

หลังจากวางสายแล้ว เฉินเกอกำลังจะกลับไป

เขาเดินไปและมองทิวทัศน์โดยรอบไปด้วย

“เฉินเกอ?”

ทันใดนั้น ก็มีคนตะโกนเรียกชื่อเฉินเกอ

เมื่อหันกลับไปเฉินเกอก็ต้องตกตะลึง

เขาเห็นกลุ่มหนุ่มสาวอยู่ข้างจุดชมวิวกำลังยิ้มแย้มสนุกสนานเห็นได้ชัดเจนว่าพวกเขามาเที่ยวเล่น

และคนเหล่านี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน

แต่เป็น หูฮุ่ยหมิน และ เฉินจุนเหวิน รวมทั้งเพื่อนของ เฉินจุนเหวิน หวางเจี้ยนและยังมีเพื่อนจากจากกลุ่มแข่งขันระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หวางเหวิน และ เหลียงเมิ่ง รวมแล้วห้าคน

“หึ ๆ ใช่เขาจริงด้วย ทำไมถึงได้บังเอิญขนาดนี้นะ ไปไหนก็เจอแต่เขา”

หูฮุ่ยหมินยิ้มแหย ๆ อย่างช่วยไม่ได้

เพราะตามที่ หวางเจี้ยน บอก จุดชมวิวที่นี่นั้นมีชื่อเสียงมาและค่าใช้จ่ายนั้นถือว่าแพงมากถ้าวัดตามมาตรฐาน

อีกทั้งบนเขายังสถานที่ชื่อ วิลล่าพักร้อน

ในย่านนั้นมีแหล่งบันเทิงระดับไฮเอนด์เต็มไปหมด

พูดอย่างนี้ก็แล้วกันว่าถ้าหากว่าไม่ใช่มีระดับก็ไม่สามารถเข้าไปได้

และถ้าพูดตามความเป็นจริง สำหรับทิวทัศน์ด้านล่างภูเขากับบนนั้นต่างกันลิบลับ

หวางเจี้ยน ยังได้ยินทุกคนบอกว่าอยากจะขึ้นไปเที่ยวข้างบนนั้น และเพื่อพิสูจน์ความแข็งแกร่งของตัวเอง มันไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะขอพ่อเขาพาเพื่อนทั้งสี่คนขึ้นไปเที่ยว

พวกเขากำลังจะขึ้นเขาและเห็นเฉินเกอที่กำลังสำรวจบริเวณโดยรอบอยู่

“เฮ้ ๆ เฉินเกอ ตอนแรกฉันว่าจะชวนนายมาเที่ยวด้วยกัน แต่ไม่รู้ว่านายมีธุระอะไรที่ฉู่ตู!”

ความสัมพันธ์ของ หวางเหวิน กับเฉินเกอนั้นไม่เลว อย่างน้อยก็ยังมีมิตรภาพที่ดีสมัยเป็นเพื่อนนักเรียน เขาดีกับเฉินเกอ

“ขอบคุณนะ หวางเหวิน ฉันไม่มีอะไรหรอกก็แค่มาเดินดูรอบ ๆ!”

เฉินเกอปฏิบัติกับ หวางเหวิน ด้วยความเกรงใจโดยธรรมชาติ

“หึ ๆ งั้นนายก็เก่งนะ รู้ว่าจุดชมวิวที่นี่มีชื่อเสียงที่สุด แต่ว่านะ นายคงจะมาชมวิวที่ด้านล่างสินะ!”

หูฮุ่ยหมิน ยิ้มและพูด

เธอเป็นคนพูดตรงไปตรงมาแบบตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว

เพราะจากที่เธอคาดการณ์เรื่องฐานะของเฉินเกอ หากเขาจะมาเที่ยวก็คงจะไปแต่ที่ที่มันไม่เสียเงินอย่างนั้น

หากไปสถานที่ที่ไฮเอนด์ ต้องใช้เงินหรือว่าจะให้เหมือนกับคนอย่างพวกเธอล่ะ?

เฉินเกอได้ยินอย่างนั้นก็ได้แต่เพียงส่ายหน้าและยิ้มแหย ๆ

ตอนนี้มีที่ไหนบ้างที่เขาจะไปไม่ได้?

ถึงแม้จะโดน หูฮุ่ยหมิน ดูถูกเข้าแล้ว แต่เฉินเกอก็ไม่อยากจะพูดอะไรมาก ปกติคงไม่ได้เจอเธออยู่แล้ว

และนอกจาก หวางเหวิน ที่หยุดพูดคุยกับเฉินเกอเล็กน้อยแล้ว ก็แทบไม่มีใครคุยกับเฉินเกอเลย

สุดท้าย เหลียงเมิ่ง ก็ลากตัว หวางเหวิน ไปไม่ให้เธอคุยกับเฉินเกออีก

ไม่นาน ทุกคนก็มาถึงบริเวณที่เรียกได้ว่าเป็นสถานบันเทิงที่มีทิวทัศน์สวยงาม

“คุณลูกค้าสวัสดีครับ รบกวนแสดงบัตรVIPด้วย!”

ที่หน้าสถานบันเทิงจะต้องมีพนักงานต้อนรับที่หน้าประตู

“อะ! อันนี้ พวกเรามาด้วยกัน!”

หวางเจี้ยน หยิบบัตรออกมาให้เขาดู

“ได้ครับ ท่านลูกค้าเชิญด้านใน!”

พนักงานต้อนรับพูดอย่างสุภาพ

สถานบันเทิงนี้มีลูกหลักคือบรรดานักธุรกิจและบุคคลที่มีชื่อเสียง อีกทั้งนอกจากนี้ยังมีการออกแบบเชิญชวนให้ลูกค้าที่เดินทางและเที่ยวชมสถานที่ จึงไม่ได้กำหนดให้ต้องมีบัตรVIPทุกคน

หูฮุ่ยหมิน นั้นเมื่อเข้ามาก็ต้องตกตะลึงกับทิวทัศน์ที่ต่างจากข้างนอกโดยสิ้นเชิง

“ว้าว สวยจัง!”

หูฮุ่ยหมิน พูดด้วยความตื่นเต้นอย่างช่วยไม่ได้ แต่สีหน้าของเธอก็อึ้งไปอย่างรวดเร็ว: “เฮ้ย เขาเข้ามากับพวกเราด้วย!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน