ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน นิยาย บท 359

เสียงครึกโครมในงานพิธี

ทั้งชั้นเรียนต่างอยู่ในความรู้สึกตื่นเต้นจนอธิบายไม่ถูก

เห็นได้ชัด อาจารย์ก็ได้ยินเช่นกัน ตอนนี้ ไม่มีใครพูดถึงเกียรติที่หลินเซิ่งหนานทำเพื่อห้อง พูดแต่เกียรติที่เหลียงเฟยทำ แม้แต่

อาจารย์ก็อาจมีชื่อเสียงด้วย

และบอกว่า งานพิธีบริจาคนี้จัดขึ้นตอนบ่ายโมง นักเรียนทุกคนในชั้นเรียนจะต้องไป!

ใช่สิ ในมหาลัยนี้ สามารถมีโอกาสอวดความงามของตัวเอง ก็มีแต่งานกีฬาในมหาลัยและงานพิธีอย่างนี้เท่านั้น

ยิ่งไปกว่านั้น รู้ว่างานในครั้งนี้ เป็นคนในชั้นเรียนที่จะได้รับเกียรติ ไม่ไปพึ่งบารมีได้ไง?

ไม่นาน หลังอาหารกลางวัน

นักศึกษาจากคณะวิชาต่างพากันเดินไปที่หอประชุมใหญ่

แต่เฉินเกอก็เดินตามทิศทางของชั้นเรียน

“พี่เฉิน ทำไมไม่ไป”

หวางเสี่ยวหัวถาม

“ฉันไม่ไปล่ะ!”

งานแบบนี้ เฉินเกอก็เข้าร่วมบ่อย ก็แค่นั้นแหละ อันที่จริงการบริจาคเงิน เป็นกิจกรรมทำบุญที่มาจากใจ

เฉินเกอได้ทำบุญนี้แล้ว เขาคิดว่าอย่างนี้ก็เพียงพอแล้ว

ก็ไม่อยากไปร่วมสนุกแล้ว

“ไม่นะ พี่เฉินดูเร็วๆ ดูเหมือนว่านางในฝันทั้งสองคนก็มาด้วย!"

ทันใดนั้นหวางเสี่ยวหัวก็ชี้ไปที่ทางเข้าหอประชุม

แน่นอน เฉินเกอมองเห็นฟางเจี่่ยนนัน

“ไปเถอะ บริจาคหรือไม่บริจาค พวกเราก็ไปดูด้วยกัน เพื่อนร่วมชั้น 3 ไปกันหมด เราสองคนไม่ไป คงไม่ค่อยดี!”

หวางเสี่ยวหัวพูด

“อืมอืม ตกลง!”

เฉินเกอส่ายหัวอย่างจนปัญญา

อันที่จริง มันก็ดูไม่ดีที่จะทำแตกต่างกันเกินไป เพราะยังต้องใช้เวลาอยู่กับเพื่อนร่วมชั้นที่นี่อีก

ดังนั้นเฉินเกอและหวางเสี่ยวหัวก็เข้าไปด้วยกัน

ฟางเจี่่ยนนันกับนางในฝันทั้งสองทำตัวเรียบง่าย นั่งอยู่ในแถวสุดท้าย

แต่เห็นได้ชัดว่าแถวที่พวกเธอนั่ง ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้

เพราะยืนดีกว่า ที่ต้องไปนั่งข้างๆพวกเธอ

“ไม่มีที่นั่งแล้ว!”

หวางเสี่ยวหัวเกาหัวของเขา

“ตรงนี้มี!”

เฉินเกอมองไปที่ตำแหน่งของฟางเจี่่ยนนัน และเดินไปทันที

“สาวงามทั้งสอง ข้างๆมีคนนั่งหรือยัง?”

เฉินเกอถามด้วยรอยยิ้ม

สำหรับฟางเจี่่ยนนัน และฟางหยี ทั้งคู่ไม่มีใครพูด ราวกับว่าพวกเขาไม่ได้ยินคำพูดของเฉินเกอ การแสดงออกของพวกเขาดู

เย่อหยิ่งเย็นชามาก มองไปข้างหน้า

หวางเสี่ยวหัวดึงแขนของเฉินเกอด้วยความกังวล

เพื่อบอกเฉินเกอว่าอย่านั่งที่นี่ ถ้าคุณทำให้พวกเธอขุ่นเคือง มันจะอยู่ลำบาก

แต่เฉินเกอยิ้มอย่างไม่แยแส ดึงหวางเสี่ยวหัวให้นั่งลงจากด้านข้าง

ฟางเจี่่ยนนัน ขมวดคิ้ว

และเมื่อทุกคนมาพร้อมแล้ว

การประชุมได้เริ่มขึ้น

ในช่วงแรกเป็นผู้นำมหาลัยกล่าวก่อน จากนั้นก็ตัวแทนนักศึกษาและอื่น ๆ

ในตอนท้าย ได้มีการประกาศรายชื่อผู้บริจาคดีเด่น

เฉพาะผู้ที่บริจาคมากกว่าหนึ่งร้อยเท่านั้นที่จะได้รับแจ้ง

การจัดอันดับ ไม่ได้เรียงลำดับจากจำนวนบริจาค

อ่านไปเรื่อยๆ

ในบางครั้งมีบริจาคหนึ่งพันหยวน และจะมีเสียงโห่ดังเล็กน้อย

สำหรับผู้ที่มากกว่าสามพัน เสียงโห่ก็จะดังมากขึ้น

และเฉินเกอที่อยู่ด้านล่าง ก็ได้ยินชื่อของหูฮุ่ยหมินและเฉินจุนเหวิน

สองคนบริจาคเงินคนละหกพันหยวน

มันทำให้เกิดเสียงครึกโครม

“ตามการคำนวณของเรา มีคนในคณะวิชาที่บริจาคเงินมากกว่าหกพันหยวนเรา มีทั้งหมด12คน ได้จัดทำการคำนวณแยก

ต่างหากจากนั้น เราจะเชิญนักศึกษาที่บริจาคมากกว่าหกพันหยวนขึ้นเวที มารับใบประกาศนียบัตรของเรา!”

พิธีกรอ่าน “เฉินจุนเหวินหูฮุ่ยหมินเชิญขึ้นเวทีก่อน!”

หลังจากนั้น ก็มีการปรบมือที่ดังมาก เฉินจุนเหวินกับหูฮุ่ยหมินก็เดินขึ้นไปบนเวที

“ว้าวพี่จุนเหวินหล่อมากๆ ฮ่าฮ่า !”

สวี่หยางหยางที่อยู่ด้านล่างก็ได้ปรบมือให้

เพราะเขากำลังปรบมือใกล้กับเฉินเกอ และเมื่อเห็นท่าทางของสวี่หยางหยาง เฉินเกอจึงทำตาเหลือก

“หยางหยาง เธอรู้จักจุนเหวินสุดหล่อได้ยังไง? ฉันจำได้ว่าเขาเพิ่งย้ายมาใช่ไหม?” หญิงสาวถามอย่างสงสัย

“ฮ่าฮ่า พี่เทาเขาเป็นลูกพี่ลูกน้องกับหวางเจี้ยนผู้ชายที่มีชื่อเสียงในมหาลัยเป็นลูกของน้า เฉินจุนเหวินเป็นเพื่อนที่ดีของหวางเจี้ยน

แน่นอนฉันก็ต้องรู้จักเขา!”

“ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง!”

“อืมอืม ข้างๆพี่จุนเหวินมีคนชื่อหูฮุ่ยหมิน ดูเธอสวยงาม ดูเธอจะชอบพี่จุนเหวินมาก ทั้งสองคนย้ายมาเรียนที่นี่ด้วยกัน!”

สวี่หยางหยางพูด

ในใจคิด ถึงแม้ว่าพี่จุนเหวินได้หน้าก่อน แต่ว่า สิ่งที่ควรค่าแก่การรอคอยมากที่สุด ก็คงจะเป็นพี่เฟยที่ได้เด่นที่สุด

ตอนนี้ยิ่งตั้งใจฟังมากขึ้น

หลังจากนั้น พิธีกรจะอ่านรายชื่ออีกหลายคนขึ้นบนเวที

“คณะเศรษฐศาสตร์และการจัดการชั้น3 หลินเซิ่งหนานบริจาคสามหมื่นหยวน หลินเซิ่งหนาน เชิญขึ้นมาบนเวที!”

“อ๊ะ!!!”

เป็นอย่างที่คิด ทั่วทั้งห้องประชุมมีเสียงดังกระหึ่ม

แม้แต่ครูที่นั่งแถวหน้า ก็ยังกระซิบคุยกัน

เสียงในห้องประชุม ไม่สามารถสงบลงได้เป็นเวลานาน

สวี่หยางหยางตื่นเต้นและกระโดดด้วยความดีใจ เพราะใกล้จะถึงคิวพี่เฟยแล้ว

ส่วนหลินเซิ่งหนาน ก็เดินไปที่เวทีอย่างมั่นใจ

ยืนอยู่ในตำแหน่งกลาง.

“ต่อไป คณะเศรษฐศาสตร์และการจัดการชั้น3 เหลียงเฟย บริจาคหนึ่งแสนหยวน!!! เหลียงเฟยเชิญขึ้นมาบนเวที!”

คราวนี้ แม้แต่เสียงของพิธีกรก็ตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด

ทั่วทั้งห้องประชุม……

หนึ่งแสนหยวน? ? ?

ตูม!

เป็นเสียงที่ดังกระหึ่มสุดๆ!

เสียงปรบมือและเสียงโห่ร้องดังกึกก้องแทบทำให้แก้วน้ำในหอประชุมแตก

ทำให้แก้วหูเกือบทะลุ

หนึ่งแสนหยวน แค่คิดก็รู้ได้ว่าทำให้ทุกคนช็อกมากแค่ไหน

“ใครนะ? ช่างร้ายกาจขนาดนี้?”

“จะใครซะอีก แน่นอนก็ต้องเป็นเหลียงเฟยชั้น3!”

“ไม่น่าแปลกใจ เหลียงเฟยร่ำรวยขนาดนี้ แต่เงินหนึ่งแสนหยวนนี้ รู้สึกร้ายกาจเกินไปหน่อย!”

ทุกคนร้องอุทาน

สำหรับสวี่หยางหยาง เขย่าแขนของเหลียงเฟยอย่างตื่นเต้น “พี่เฟยพี่เฟย เรียกชื่อพี่แล้ว!เรียกชื่อพี่แล้ว!”

เหลียงเฟยส่ายหัวด้วยรอยยิ้มแหย่ๆ

ก็แค่เงินหนึ่งแสนหยวน ทุกคนต่างแปลกใจมองตัวเอง ขนาดนั้นเลยเหรอ?

ฮึฮึ!

ในขณะนั้น เหลียงเฟยเอามือล้วงกระเป๋า และเดินไปที่เวที ทุกที่ที่เขาเดินผ่าน มีผู้หญิงหลายคนตะโกน

ก้าวขึ้นไปบนเวที

ถัดไปพิธีกรก็ประกาศอีกสองรายการ

นักศึกษาหญิง 2 คนในชั้น4 บริจาคเงินคนละหนึ่งแสนห้าหมื่นหยวน

บรรยากาศของสถานที่กระหึ่มขึ้นมาอีกครั้ง

สำหรับชื่อของเพื่อนร่วมชั้นหญิงทั้งสองนั้น พิธีกรไม่ได้พูด และไม่ได้เชิญเพื่อนร่วมชั้นหญิงทั้งสองคนขึ้นเวที

แต่คนทั้งคณะ ต่างมองไปที่สองสาวที่นั่งอยู่แถวสุดท้าย

ใช่แล้ว ผู้บริจาคต้องเป็นฟางเจี่่ยนนันกับฟางหยี

แต่ทั้งสองคนบริจาคเงินหนึ่งแสนห้าหมื่นหยวน แต่เสียงไม่ดังครึกโครมเหมือนตอนเหลียงเฟย

เพราะใครๆก็รู้ในมหาวิทยาลัยฉู่ชวน เธอสองคนร่ำรวยมาก ปกติก็ไม่ค่อยมีส่วนร่วมบริจาค

แต่ก็ยังมีเสียงปรบมือต้อนรับอย่างอบอุ่น

ต่อไป คนสุดท้ายในบรรดาสิบสองคน พิธีกรรู้สึกลำบากใจ

เขากล่าวว่า “คนต่อไปนี้ คือคนที่บริจาคมากที่สุดในครั้งนี้ เขาแค่บอกคณะวิชากับชั้นเรียน และไม่ได้เขียนชื่อไว้ คิดว่า

เขาไม่ต้องการบอกชื่อของเขา! แต่ฉันหวังว่า ตอนอ่านห้องเรียนนี้ ขอให้ทุกคนต่างปรบมือเสียงดังที่สุด มอบให้กับ

ห้องเรียนนี้!”

“อ๊ะ? ห้องไหนเนี่ย? บริจาคเท่าไหร่?”

ทุกคนปรึกษาหารือกัน

บนเวทีเหลียงเฟยหลินเซิ่งหนาน หูฮุ่ยหมิน และเฉินจุนเหวินต่างมองกันและกัน

มีความคาดหวังเล็กๆ……

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน