บทที่365 ฉันต้องการพบคุณหวัง
“ใครหลอกนาย? ฉันไม่รู้ว่านายกำลังพูดอะไรอยู่!”
ฉินหน่วนกอดไหล่ของตัวเองเอาไว้แล้วเอ่ยขึ้น
เป็นเพราะเวลานี้ ที่ศูนย์พ่อค้าจีนนี้มีคนที่มองมาทางนี้จำนวนไม่น้อย
ทำให้ฉินหน่วนยิ่งรู้สึกขายหน้ามากขึ้นไปกว่าเดิม
“แล้วตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับเธออย่างนั้นหรือ?”
หวางเสี่ยวหัวสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วเอ่ยถามออกมา
ส่วนฉินหน่วนนั้นก็หันหน้าไปอีกทางด้านหนึ่ง แล้วไม่ได้พูดอะไรออกมา
“หืม นายคือหวางเสี่ยวหัวเพื่อนสมัยเด็กที่โตมาด้วยกันกับหน่วนหน่วนคนนั้นสินะ ฉันรู้จักนาย ไม่ดูตัวเองเลยรึไง ยังจะไม่ไสหัวไปอีก!”
หลี่เสียงที่ถือกุญแจรถอาวดี้A6 ชี้ไปยังหวางเสี่ยวหัวแล้วด่าว่าเขา
“นี่ เสียงจื่อใช่ไหม? ทำไมเพิ่งมา ฉันรอนายมาสักพักแล้ว!”
และเวลานี้เอง พนักงานคนหนึ่งที่สวมชุดสูทรองเท้าหนังวิ่งเข้ามา แล้วจับมือกับหลี่เสียงอย่างสนิทสนม
“สวัสดีครับพี่หมิง ไม่เจอกันนานเลย ขอโทษทีนะครับ รอนานเลย!”
ทั้งสองคนเอ่ยทักทายกันอย่างเรียบง่ายอยู่พักหนึ่ง
“โอเค ฉันเลือกตำแหน่งที่ดีๆเอาไว้ให้นาย พวกนานมาลองเลือกดูแล้วกัน วางใจได้ ราคาพิเศษอยู่แล้ว!”
พี่หมิงกล่าว
“ดีเลยครับ พวกเราไปเลือกดูกันเถอะ!”
หลังจากนั้นหลี่เสียงก็ดึงฉินหน่วนมาอยู่ข้างๆ
และก็เห็นได้ชัดว่าฉินหน่วนเองก็ไม่ได้อยากจะพูดคุยกับหวางเสี่ยวหัวสักเท่าไรนัก จึงเดินตามไป
หวางเสี่ยวหัวจัดการกับอารมณ์ตัวเอง ความจริงแล้วหลังจากที่เฉินเกอเกลี้ยกล่อมเขาแล้วนั้น เขาเองก็สงบลงไปไม่น้อย เพียงแต่เมื่อกี้จู่ๆเขาก็อดทนไม่ได้ขึ้นมาเท่านั้น
เฉินเกอตบไหล่ของหวางเสี่ยวหัว แล้วทั้งสองคนก็ไปนั่งอยู่ข้างๆแทน
“โห พี่หมิง นี่พี่ไม่ได้เข้าใจอะไรผิดใช่ไหม? ผมเห็นโฆษณาบนอินเตอร์เน็ต ราคาพื้นที่มันไม่ได้แพงขนาดนี้นี่ครับ ตอนนี้ไม่คิดว่าราคาจะขนาดนี้แล้วหรือ?”
ไม่นาน หลี่เสียงที่อยู่ด้านข้างก็ร้องตะโกนออกมาด้วยความตกใจ
“เฮ้ น้องชาย นายยังคิดว่านี่แพงอย่างนั้นหรือ ฉันจะบอกนายให้นะ ที่ตรงนี้ราคาถูกที่สุดแล้ว อีกทั้งยังเป็นจุดที่ไม่เลวอีกด้วย!”
“หนึ่งปี เพียงค่าเช่าก็ล้านกว่าแล้ว นี่ยังจะให้เราใช้ชีวิตอยู่ต่อได้ไหมเนี่ย!”
หลี่เสียงรู้สึกตกราวกับโดนฟ้าผ่า
โหดร้ายมากจริงๆ
ครอบครัวของเขามีเงินก็จริง แต่ก็มีทรัพย์สินอยู่ไม่เยอะ ลงทุนไปล้านกว่าๆ เป็นเพียงการลงทุนค่าเช่าเบื้องต้นเท่านั้น นี่นับว่าเป็นเรื่องคอขาดบาดตายจริงๆ
ส่วนฉินหน่วนเองก็ดูตกใจอย่างเห็นได้ชัดเช่นกัน
เนื่องจากว่าราคาบนอินเตอร์เน็ตนั้น เริ่มต้นที่สามแสนห้า
โดยรวมคำนวณดูแล้ว จากความนิยมของอาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ และอยู่บริเวณมหาวิทยาลัย ราคานี้ก็ถือว่าใช้ได้อยู่
แต่คิดๆดูแล้วก็ไม่ได้มีเรื่องดีๆแบบนี้
เดิมทีราคาเริ่มต้นที่สามแสนห้า ตอนนี้หลายๆพื้นที่ ล้วนแต่ถึงระดับหลักล้านกันไปแล้ว
และในที่สุดก็ทำให้ฉินหน่วนรู้แล้วว่าในโลกนี้ไม่มีอาหารที่ได้มาฟรีๆ! จะง่ายขนาดนั้นเสียที่ไหน
หนึ่งล้านกว่า ฝันไปแล้วล่ะ!
“นี่ไม่ได้แล้วล่ะพี่หมิง ผมรับผิดชอบภาระนี้ไม่ไหวหรอกครับ!”
หลี่เสียงรู้สึกตกใจ
หันกลับมาเอ่ยพูดกับฉินหน่วน “หน่วนหน่วน ถ้าไม่อย่างนั้นพวกเราไปเลือกดูที่อื่นกันดีกว่า โหดเกินไปจริงๆ!”
ส่วนฉินหน่วนนั้น ใบหน้านั้นกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกเสียดาย
เด็กผู้หญิง ใครจะไม่หลงใหลในรูปร่างหน้าตากันบ้าง
อาคารพาณิชย์เจิ้นต๋า ศูนย์กลางที่ได้รับความนิยมที่มีชื่อเสียงทั้งประเทศ
ง่ายก็คือเป็น13มาตรฐานที่สูงเกินไป!
อีกทั้งยังอยู่ข้างๆบริเวณสถานศึกษาของเมืองแห่งมหาวิทยาลัย เปิดสถาบันที่นี่ จะว่าไปแล้วไม่ว่าจะเป็นทางด้านหน้าตา หรือทางด้านประสิทธิภาพของการประชาสัมพันธ์ล้วนแต่เป็นเรื่องที่ดีทั้งนั้น
ฉินหน่วนชอบที่นี่มากจริงๆ
แต่.....อา!
“ก็ได้ค่ะ!” ฉินหน่วนพยักหน้าอย่างหงอยๆ
หลังจากนั้นพี่หมิงก็เห็นได้ถึงสีหน้าท่าทางที่เปลี่ยนไปของพวกเขา
หลังจากที่พูดคุยกันอีกนิดหน่อยแล้วนั้น ก็ถือข้อมูลของตัวเองกลับออกไป
“ฉินหน่วน พวกเราเองก็ไปกันเถอะ สายแล้ว ไปดูที่อื่นกัน ค่าเช่าปีละเจ็ดแปดหมื่นก็ยังมี!” หลี่เสียงเอ่ยพูดขึ้น
“ฉันรู้แล้ว แต่ฉันก็ยังอยากจะลองดูแถวๆนี้ก่อน!”
ในใจของฉินหน่วนคิด เช่าไม่ได้แล้ว ในเมื่อเกินกำลังก็อยากจะขอเดินดูที่ศูนย์การลงทุนก็ได้
หลังจากนั้นผู้หญิงที่มาด้วยก็มองไปรอบๆ
“ผู้จัดการจ้าวสวัสดีค่ะ”
และเวลานี้ ภายในห้องโถงนั้นจู่ๆก็มีเสียงแห่งความวุ่นวายดังขึ้นมา
ได้รับความสนใจจากผู้คนไปแล้ว
“เขาเป็นผู้จัดการทั่วไปของศูนย์การลงทุนผู้จัดการจ้าวเหอ เป็นคนที่เก่งมากเลยล่ะ!”
เวลานี้ หลี่เสียงเอ่ยพูดขึ้นกับฉินหน่วนและผู้หญิงที่มาด้วยกันทั้งสามคนนั้น
ในใจของฉินหน่วนแอบพูดขึ้นมา นายรู้จักเขาแล้วมีประโยชน์อะไรหัน เขาไม่ได้รู้จักนายเสียหน่อย!
เวลานี้เองคนจำนวนไม่น้อยที่คิดอยากจะเข้าไปทักทายผู้จัดการจ้าว
แต่ผู้จัดการจ้าวเพียงแค่โบกมือกลับไปเท่านั้น ดูท่าทางของเขากำลังรีบร้อน หลังจากนั้นจึงค่อยๆวิ่งไปแล้วมองไปรอบๆ จนในที่สุดเขาก็เห็นแล้ว
เป็นกลุ่มคนวัยรุ่นไม่กี่คน
เขาวิ่งเข้าไปด้วยความดีใจ
ส่วนฉินหน่วนและหลี่เสียงนั้นก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาในทันที
เนื่องจากว่าทิศทางที่ผู้จัดการจ้าววิ่งเข้ามานั้น คือตรงมายังพวกเขานั่นเอง
“คุณหวัง? คุณเฉินไม่ได้มากับคุณด้วยหรือครับ?”
ผู้จัดการจ้าวมาอยู่ตรงหน้าของหลี่เสียงอย่างที่คิดไว้จริงๆ เวลานี้ เขายิ้มพลางเอ่ยออกมาอย่างนอบน้อม
ส่วนทุกคนนั้นต่างก็พากันเงียบไป แล้วมองมาทางด้านนี้
“คุณหวัง? จ้าวจิงหลี่ คุณจำคนผิดแล้วล่ะครับ ผมแซ่หลี่ ผมชื่อหลี่เสียงครับ!”
หลี่เสียงหน้าแดงด้วยความตื่นเต้น แล้วยิ้มออกมา
ส่วนฉินหน่วนเองก็กัดริมฝีปากเล็กน้อย รู้สึกตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด
อา?
“ขอโทษนะครับ ผมจำผิดคน!”
ขณะนั้นผู้จัดการจ้าวมีสีหน้าที่ทำตัวไม่ถูก
เนื่องจากว่าเขาได้ทราบข่าวของคุณหวางเสี่ยวหัวทางโทรศัพท์ ว่าเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยฉู่ชวน หัวหน้าของสำนักงานใหญ่เป็นคนโทรมาหาเขาเองสั่งเอาไว้ถึงเรื่องเพื่อนของคุณเฉิน
ดังนั้นผู้จัดการจ้าวจึงดูให้ความเคารพต่อคุณหวางเสี่ยวหัว
“ผมเห็นพวกคุณเหมือนเป็นนักศึกษา ก็เลยคิดว่าเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยฉู่ชวน เหอๆ ลูกค้าคนสำคัญของผมคนนี้ก็เป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยฉู่ชวนเหมือนกันน่ะครับ ไม่ทันระวังเลยจำผิดคน!”
จ้าวเหอยิ้มเจื่อนๆ
“อา? บังเอิญจังเลยครับ ถ้าอย่างนั้นผู้จัดการจ้าวลองพูดชื่อมาก็ได้ครับ ไม่แน่ว่าผมจะสามารถช่วยคุณหาได้!”
หลี่เสียงนึกไม่ถึงว่าจะได้พูดคุยกันโดยตรงเช่นนี้กับผู้จัดการจ้าวของศูนย์การลงทุน จึงรีบเอ่ยพูดขึ้น
ฉินหน่วนเองก็รีบพยักหน้าเช่นกัน ถึงอย่างไรเธอเองอยู่ที่มหาวิทยาลัยก็มีเส้นสายในระดับหนึ่ง
“อ่อ ถ้าอย่างนั้นก็ขอบคุณมากครับ ผมต้องการพบคุณหวางเสี่ยวหัว ไม่ทราบว่าพวกคุณเคยเห็นเขาไหม?”
จ้าวเหอกล่าว
“คุณ....คุณบอกว่าคุณต้องการหาใครนะคะ?”
ได้ยินแล้วนั้น ฉินหน่วนก็รู้สึกว่าเหมือนมีคนมาวางระเบิดตรงข้างหูเธอ เสียงดังตูม ในสมองของเธอนั้นว่างเปล่าไปหมด
แม้กระทั่งฉินหน่วนคิดว่าตัวเองนั้นหูฝาดไปเสียด้วยซ้ำ
คุณหวางเสี่ยวหัว? ไม่คิดว่าผู้จัดการจ้าวจะหาหวางเสี่ยวหัว? ไม่หรอกมั้ง? จะเป็นไปได้อย่างไร? ผู้จัดการจ้าวมีฐานะเป็นถึงอะไร? จะหาเขาทำไมกัน?
“คุณหวางเสี่ยวหัว พวกคุณมีใครรู้จักเขาไหม?”
จ้าวเหอเองก็พอรู้ มองดูท่าทางของพวกเขาแล้วคงจะไม่รู้จักสินะ
ตัวเองก็ตะลึงงงเพราะความตื่นเต้นเช่นกัน ถ้าอย่างนั้นก็โทรหาหวางเสี่ยวหัวเลยแล้วกัน
เมื่อกี้ถูกเด็กคนนี้นำมา ก็คิดว่าเขาจะเคยเห็นเสียอีก
ผู้จัดการจ้าวจึงควักโทรศัพท์มือถือออกมา
“ผู้จัดการจ้าว ไม่ต้องโทรแล้วครับ! ผมอยู่ทางนี้!”
และเวลานี้เองที่หวางเสี่ยวหัวยืนขึ้นมา แล้วเอ่ยพูดกับผู้จัดการจ้าว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...