ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน นิยาย บท 391

บทที่ 391 คุณคือคุณชายเฉิน

หวางเหวินเองก็เพิ่งนึกได้เช่นกัน เมื่อครู่ เป็นเพราะเธออึดอัดใจอย่างยิ่ง บวกกับผู้คนจำนวนมากในเวลานั้น ดังนั้นเธอจึงรีบร้อนลงมาจากรถ

ที่แท้กระเป๋าก็วางไว้อยู่ด้านหนึ่ง

เธอลืมหยิบมันมาด้วย

"ให้ตาย ทำไมเธอถึงไม่ระวังขนาดนี้ ในกระเป๋าคงมีเงินสดอยู่ไม่น้อยใช่ไหม?”

โห๋เสี่ยวเซี๋ยกล่าว

"เสี่ยวเซี๋ยเธอพูดอะไรน่ะ ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ฉันกลัวว่าเฉินเกอจะไม่ได้สังเกตเห็น แล้วลืมกระเป๋าไป มือถือของฉัน บัตรประชาชนและบัตรธนาคารของฉันก็อยู่ในนั้นหมด!”

โห๋เสี่ยวเซี๋ยกล่าวอย่างกังวล

"เฮ้ เฮ้ เฮ้ นั่นใคร นายทำไมถึงได้กลับมาอีก ที่นี่มันที่จอดรถของนายหรือไง?”

ทันใดนั้น ที่ประตูก็มีเสียงเอะอะดังขึ้น

เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายคน ที่เข้ามากันชายหนุ่มเอาไว้ด้านนอก

“เพื่อนของผมลืมเอากระเป๋าเอาไว้ ผมจะไปส่งเธอ!”

และชายหนุ่มคนนั้นก็ไม่ใช่คนแปลกหน้าที่ไหน แต่เป็นเฉินเกอ

“นายไม่ดูสักหน่อยว่านี่คือที่ไหน ใครจะเข้าไปก็ได้งั้นหรือไง? ไสหัวไป!”

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยผลักเฉินเกอออก

พอดีกันกับที่ โห๋เสี่ยวเซี๋ยและ หวางเหวินกำลังอยู่ใกล้ๆ กับประตู จึงได้เห็นฉากนี้เข้าให้

“ไอ้หยา เหวินเหวินเธอลองดูเขาสิ น่าอับอายแค่ไหน! รีบไปเอากระเป๋ามาและไล่เขาไป!”

โห๋เสี่ยวเซี๋ยเอ่ยอย่างเร่งรีบ

เนื่องจากตรงนั้นมีคนรวยหนุ่มสาวอยู่ใกล้ๆ ดังนั้นจึงมองไปที่ประตูอย่างขบขัน

ท้ายที่สุด ต่อหน้าเพื่อนๆ รุ่นเดียวกัน ใครบ้างที่จะไม่รักษาหน้าตาของตัวเอง

หากให้คนอื่นๆ รู้ว่าตนเองรู้จักกับคนประเภทนี้ เกรงว่าจะต้องเป็นที่หัวเราะเยาะแน่

หวางเหวินวิ่งไปและเอ่ย”เฉินเกอ ฉันอยู่นี่ เอากระเป๋ามาให้ฉันเถอะ!”

เฉินเกอจึงค่อยยื่นกระเป๋าไปให้หวางเหวิน

และหวางเหวินเองนั้น อันที่จริงก็มีใจอยากจะเอ่ยขอบคุณมีเฉินเกอ

แต่เธอจะพูดอย่างไรดีล่ะ

เหมือนกับตอนมัธยมที่ตนชอบเฉินเกอ แต่เพราะหน้าตา เธอจึงไม่เคยก้าวเข้าไปมากกว่านั้น

ตอนนี้ก็เช่นเดียวกันหวางเหวินเองก็ไม่ได้พูดอะไรกับเฉินเกอมากมายเช่นกัน

อย่างมากก็ทักทาย จากนั้นหวางเหวินก็เตรียมตัวจากไป

“เฉินเกอ!!!”

ทันใดนั้น เสียงแหลมสูงของผู้หญิงก็ดังขึ้นมาจากเวที

คนที่ตะโกน เป็นลูกสาวคนโตของตระกูลหลินจากจินหลิง

เฉินเกอเองได้ยินก็รู้สึกคุ้นเคยกับเสียงอย่างยิ่ง เมื่อมองย้อนกลับไปดู ก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นหลินยียี และพ่อของ หลินยียี รวมถึงหัวหน้าหลายๆ คนในบริษัทของตน

“เฉินเกอเป็นคุณจริงๆ? เมื่อกี้ตอนที่ฉันขับรถเข้ามา เห็นด้านหลังคนขับรถไฟฟ้าสามล้อก็คิดว่าดูคล้ายคุณ แต่พ่อบอกว่าเป็นไปไม่ได้ คิดไม่ถึงว่าจะเป็นคุณจริงๆ!”

หญิงสาวก็คือหลินยียี ตอนนี้เธอเอ่ยอย่างตื่นเต้น

จากนั้น คนด้านล่างเวทีก็ล้วนตกตะลึงไป

คงไม่มีใครคิดว่า คุณหนูใหญ่ของตระกูลหลินจะมีมิตรภาพที่ดีอย่างยิ่งกับคนขี่สามล้อ!

“เด็กคนนี้เป็นใคร? ดูแล้วคุณหนูหลินดีกับเขามากกว่าปกติ?”

"นั่นสิ ฉันเดา! คงไม่ใช่เพื่อนร่วมชั้นของคุณหนูหลินหรอกนะ?”

ผู้คนต่างประหลาดใจ

อีกทั้งตอนนี้ โห๋เสี่ยวเซี๋ยก็รู้สึกหายใจสั้นๆ ขึ้นมาด้วยความร้อนรน

หลินเซี๋ยวส่านรู้จักกับเฉินเกอด้วยหรือเนี่ย?

ทำไมเฉินเกอถึงได้รู้จักผู้คนมากมายขนาดนั้น?

"อืม ยียี ยังมีประธานหลิน และพวกคุณทั้งหมดอยู่ที่นี่หรือ?”

เฉินเกอเพิ่งหันไปมองดูที่หน้าเวทีดู เมื่อมองไปเขาก็รู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากได้เห็น โกวซีหลิน

จู่ๆ เฉินเกอก็นึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้ที่โกวซีหลินโทรศัพท์มาหาตน คล้ายจะบอกว่าเชิญให้ตนไปเข้าร่วมงานเลี้ยงอะไรสักอย่างแต่เนื่องจากตอนนั้นตนเองยังคงพัวพันอยู่กับโห๋เสี่ยวเซี๋ยจึงได้ปฏิเสธไป

คิดไม่ถึงว่า โห๋เสี่ยวเซี๋ยและหวางเหวินก็มาที่งานปาร์ตี้นี้เช่นกันพอดี

"เด็กคนนี้กล้าดีเกินไปแล้วมั้ง? อะไรคือการบอกว่ายังมีประธานหลิน และพวกคุณทั้งหมด พูดจาเป็นไหมเนี่ย?”

“เรียกประธานหลินและพวกคุณทั้งหมดแบบนี้ ช่างเป็นเด็กเหลือขอ ไม่รู้จักฟ้าสูงดินต่ำ!”

“นั่นสิ!”

“เสี่ยวเซี๋ยเหวินเหวิน คนๆ นี้เป็นเพื่อนร่วมชั้นของพวกเธอไม่ใช่หรือ?”

ในเวลานั้นเอง หลี่หลางเองก็ส่ายหัวและยิ้มอย่างขมขื่น

“ไม่สักหน่อย พวกเราไม่รู้จักเขา!”

โห๋เสี่ยวเซี๋ยเอ่ย

หวางเหวินเองก็ก้มหน้าลง ไม่เอ่ยคำพูดอะไรออกมา

"เฉิน.....คุณชายเฉิน! ในที่สุดคุณก็มา!”

ริมฝีปากของโกวซีหลินกำลังสั่นเทาด้วยความตื่นเต้น

เดิมทีเคยคิดว่าเฉินเกอคงจะไม่เห็นหัวคนรวยธรรมดาๆ ทั่วไปเหล่านี้ ดังนั้นจึงไม่ยอมมา ต่อให้ตัวเองประจบประแจงไปอีกแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์ แต่ในตอนนี้ คุณชายเฉินมาถึงที่งานแล้ว

“สวัสดีคุณชายเฉิน!”

นอกจากนี้ ประธานหลินและพวกอีกหลายคนเองก็ก้าวไปข้างหน้าและโค้งคำนับเล็กน้อย

เงียบกริบ!

ทันใดนั้นทั้งงานก็เงียบลงอย่างไม่มีอะไรเทียบได้

ในตอนนี้หลายคนต้องอ้าปากค้างด้วยความตะลึงประหลาดใจ

นั่นเพราะผู้อาวุโสหลายคนๆ ล้วนก้มหัวให้คนขี่สามล้อคนนี้?

ยังมีประธานโกวที่ยามเอ่ยพูดถึงกับเสียงสั่นด้วยความตื่นเต้น

สำหรับ โห๋เสี่ยวเซี๋ยแล้ว ตอนนี้เธอเริ่มหายใจกระชั้นขึ้นมา

เหมือนมีฟ้าร้องอยู่ในหูของเธอ ตอนนี้สมองของเธอว่างเปล่า

ปากของเธอแทบจะวางไข่ไก่ลงไปได้แล้ว

“อะไรนะ? พวกเขาเรียกเฉินเกอว่าคุณชายเฉิน? เป็นไปได้อย่างไร? มันเป็นไปได้อย่างไรกัน!”

ส่วนหวางเหวินก็กำลังอยู่ในอาการตื่นตระหนกเช่นกัน เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

“หรือว่าเขาก็คือคุณชายเฉินแห่งจินหลิงหรือ!?”

หลังจากผ่านความเงียบไปชั่วครู่ ฝูงชนก็เริ่มปั่นป่วนเอะอะขึ้นมา

พวกเขามองหน้ากันด้วยท่าทางตกใจ

"ประธานโกว ประธานหลิน พวกคุณเกรงใจเกินไปแล้ว คิดไม่ถึงว่าพวกคุณจะมีงานที่นี่!”

เฉินเกอรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ผู้คนทั้งสองฝั่งต่างมองมาที่ตนเองด้วยสายตาที่ซับซ้อน

ยิ่งทำให้เขารู้สึกเกรงใจอยู่บ้าง

แต่อย่างไรก็ตาม เฉินเกอก็ยังคงทำตัวใจกว้างเดินเข้าไปในโรงแรม

โห๋เสี่ยวเซี๋ยที่กำลังตะลึงก็มองเห็นเฉินเกอที่เดินผ่านตนเองไปด้านหน้า

“ใช่ คุณชายเฉิน!”

ประธานโกวยอมยกที่นั่งตรงกลางให้เฉินเกอ

ในเวลาเดียวเขาก็มองไปที่ผู้คนที่กำลังตื่นตะลึงและเอ่ยขึ้น

ทุกท่าน ท่านนี้ก็คือคุณชายเฉินจากจินหลิง มหาเศรษฐีจินหลิง อีกทั้งยังเป็นเจ้าของคฤหาสน์หยุนติ่งอีกด้วย!”

บึ้ม!

เกิดความปั่นป่วนขึ้นในทันที

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”

จู่ๆ ในเวลานี้ กลับมีเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งของผู้หญิงดังขึ้นมา

เพียงครู่เดียว ทุกคนล้วนหันมองไปที่หญิงสาว

“เสี่ยวเซี๋ยเธอหัวเราะอะไร?”

หลี่หลางเองก็ตกใจกับเสียงหัวเราะของ โห๋เสี่ยวเซี๋ยเช่นกัน

“หัวเราะอะไร? ฮ่าฮ่า ฉันหัวเราะที่เฉินเกอเก่งกาจอะไรขนาดนี้ ถึงกับสามารถตบตาทุกคนได้! อีกทั้งทุกคนยังเข้าใจไปแล้วด้วยว่าเขาคือคุณชายเฉิน! นี่ไม่น่าหัวเราะหรือยังไง?”

โห๋เสี่ยวเซี๋ยด้านหนึ่งหัวเราะอีกด้านหนึ่งก็เดินออกมา

ตอนนี้บรรดานักธุรกิจที่ร่ำรวยทั้งหลายบนเวทีล้วนขมวดคิ้ว โดยเฉพาะประธานโกวที่ตอนนี้กำลังขมวดคิ้วแน่นและมองไปที่โห๋เสี่ยวเซี๋ย

“เธอทำอะไรกัน? ใครก็ได้ มาพาเธอออกไปจากที่นี่!”

โกวซีหลินเอ่ยตะโกนด้วยความโกรธ

“ประธานโกว ท่านอย่าเพิ่งเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำให้คุณขุ่นเคืองใจ ฉันแค่หวังว่า คุณจะไม่โดนผู้ชายคนนี้หลอก พูดตามตรง ฉันเป็นเพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลายของผู้ชายคนนี้! เขาเคยทำอะไรไปบ้าง ฉันรู้ชัดดีอย่างยิ่ง! และหวางเหวินเองก็รู้เช่นกัน เขาเป็นคนอนาถาคนหนึ่ง เป็นคนอนาถาที่แม้แต่ข้าวยังไม่มีจะกินอะไรพรรคนั้น!”

“สูด...”

เมื่อคำพูดจบลง ผู้คนทั้งหมดที่อยู่ในงานก็สูดหายใจอย่างเย็นเยียบ

คุณชายเฉินคนนี้ คงไม่ใช่ตัวปลอมหรอกมั้ง?

เมื่อเห็นว่าผู้คนดูเหมือนจะเชื่อคำพูดของตน โห๋เสี่ยวเซี๋ยก็ยิ่งรู้สึกภาคภูมิใจ

แบบนี้ ตนเองก็สามารถมีหน้ามีตาต่อหน้านักธุรกิจร่ำรวยเหล่านี้ได้ หึหึ

คุณชายเฉินแห่งจินหลิง? เป็นเฉินเกอ? นี่มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วเสียด้วยซ้ำ

จากนั้น เธอก็มองไปทางเฉินเกอด้วยใบหน้าเหยียดหยาม “ฮ่าฮ่า เฉินเกอคิดไม่ถึงล่ะสิ? วันนี้ฉันอยู่ที่นี่ นายเล่นละครไม่สำเร็จหรอก อย่าได้คิดพยายามหลอกลวงประธานโกวและพวก!”

โห๋เสี่ยวเซี๋ยไม่ยอมรับความเป็นจริงนี้

เฉินเกอมองไปที่โห๋เสี่ยวเซี๋ย จากนั้นจึงส่ายหัวด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น

“เหอเหอ ดูท่า คุณหนูผู้นี้ดูเหมือนจะเข้าใจผิดกันกับคุณชายเฉิน ...”

โกวซีหลินยิ้มอย่างขมขื่น

“เขาก็คือคุณชายเฉิน! ประธานใหญ่ของบริษัทจินหลงดรีมเมอร์กรุ้ป!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน