ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน นิยาย บท 392

บทที่ 392 การแก้แค้นของ หลงเช่าหยุน

เมื่อมองไปที่ท่าทางเคร่งเครียดของประธานโกวและพวก

โห๋เสี่ยวเซี๋ยก็ยิ้มไม่ออกอีก

หรือว่านี่เป็นเรื่องจริงงั้นหรือ?

เมื่อมองย้อนกลับไปในปีนั้น เฉินเกอมีท่าทางขมขื่นขนาดนั้น ตนเองเห็นก็รู้สึกรังเกียจไปทุกครั้ง

แต่ไหนแต่ไรไม่เคยเห็นเขาอยู่ในสายตา

แต่ตอนนี้ ไม่ได้เจอมาหลายปี เฉินเกอเปลี่ยนไปมากอย่างยิ่ง

นักธุรกิจที่ร่ำรวยมากมายล้วนชื่นชมต่อหน้าเขา?

เป็นไปได้อย่างไร?

แต่เฉินเกอกลับไม่ได้สนใจโห๋เสี่ยวเซี๋ย เขาหันไปพูดคุยกับประธานโกวและพวก

จากนั้นทุกคนก็เดินเข้าโรงแรมไป

เมื่อเข้าร่วมไปได้แค่ครึ่งชั่วโมง เฉินเกอก็รีบร้อนกลับ

เขาบอกลาประธานโกวและพวก

ตอนออกมา ทุกคนล้วนออกมาส่งเขา

หลินยียีกระซิบบางอย่างกับพ่อของเธอ จากนั้นก็แลบลิ้นออกมา ราวกับกำลังคิดจะเข้าไปหาเฉินเกอ

แน่นอนว่าพ่อของเธอย่อมเห็นด้วย

ใบหน้าของ โห๋เสี่ยวเซี๋ยตึงเครียด เธอออกมาพร้อมกับหวางเหวิน

ในเวลานั้นเอง เฉินเกอก้าวขึ้นไปบนรถสามล้อไฟฟ้า

ในขณะที่หลินยียีนั่งอยู่ข้างๆ เขา

แต่น่าแปลกก็คือ ตอนนี้หวางเหวินกลับรู้สึกว่าการนั่งบนรถสามล้อไม่ใช่เรื่องน่าอับอายอีกต่อไป

นั่นเป็นเพราะคุณหนูใหญ่หลินยียีที่งดงามขนาดนั้นกำลังนั่งอยู่บนนั้นด้วยท่าทางมีความสุข

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตัวเอง!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งความจริงที่ว่าเฉินเกอก็คือคุณชายเฉิน ทำให้หวางเหวินรู้สึกตกใจหวาดกลัวไปแล้ว

มาจนกระทั่งตอนนี้เธอยังนึกว่าตนเองกำลังอยู่ในความฝัน

แต่ โห๋เสี่ยวเซี๋ยนั้นกลับรู้สึกกังวลจนแทบจะอยากร้องไห้

ยิ่งเมื่อเห็นเฉินเกอ เสื้อผ้าเหมือนเดิม หน้าตาเหมือนเดิม ท่าทางเหมือนเดิม กั

เมื่อครู่ที่เห็น ก็ยังคงเป็นคนขี้แพ้คนนั้น

แต่ทำไมตอนนี้ ถึงได้มีความรู้สึกที่ทำให้คนหวาดกลัวออกมา? ทำไมกัน?

เฉินเกอกำลังพาหลินยียีเตรียมตัวเพื่อเตรียมตัวกลับไปรับประทานอาหารค่ำที่บ้าน

ตอนนี้เฉินเกออารมณ์ดีไม่น้อย ในเมื่อท้ายที่สุดการมาครั้งนี้ไม่ได้สูญเปล่า งานของเขาลุล่วง อีกทั้งยังหามารดาที่แท้จริงของเฉียงเวยเจอ อีกทั้งตนเองยังเจอลูกพี่ลูกน้องสาวของตนแล้วด้วย

เก็บเกี่ยวได้มากมาย

เพียงแต่บางคนมีความสุขบางคนเป็นกังวล

“ปัง!”

เป็นเสียงของถ้วยน้ำชาที่ตกลงบนพื้น

“ไร้ประโยชน์ ช่างไร้ประโยชน์ เป็ดอยู่ในมือแล้วกลับบินหนีไปได้?”

ในคฤหาสน์ ซือถูหยางคำรามใส่ชายต่างชาติหลายคนอย่างโกรธเกรี้ยว

หลงเช่าหยุนยืนอยู่ด้านหนึ่ง ใบหน้าของเขาน่าเกลียดอย่างยิ่ง

นั่นเพราะคนพวกนี้ก่อนหน้านี้เขาโอ้อวดไปมากมาย แต่ผลก็คือแม้กระทั่งนักเรียนเพียงไม่กี่คนยังจับไม่ได้ ตอนนี้ดูเหมือนว่าซือถูหยางกำลังตะโกนด่าพวกเขาอยู่

แต่อันที่จริงแล้วนี่คือการด่าตนเองต่างหาก

หลงเช่าหยุนโกรธเกรี้ยวอยู่ภายในใจ

“คุณชายหยาง คุณชายหลงจริงๆ นะครับ ตอนนั้นพวกเราถูกปิดล้อมเอาไว้ เกรงว่าตอนนี้คงทำให้กองกำลังติดอาวุธในพื้นที่ตื่นตัวแล้ว!”

หัวหน้าเอ่ยขึ้น”ได้โปรดให้โอกาสพวกเราอีกสักครั้ง คุณชายหยางหากครั้งนี้ท่านให้ข้อมูลของฟางเจี่่ยนนันกับเราอีกครั้ง พวกเราจะพาเธอกลับมาได้อย่างแน่นอน!”

“สายไปแล้ว สายไป พวกแกคิดหรือว่าคนของตระกูลฟาง คิดจะลงมือก็ลงมือได้ หากไม่ใช่เพราะตอนนี้เป็นช่วงเวลาอ่อนไหว ฉันกับพ่อจำเป็นต้องรู้ทุกการเคลื่อนไหวของตระกูลฟาง ฉันเองคงจะไม่เสี่ยงที่จะไปลักพาตัว ฟางเจี่่ยนนัน ตอนนี้เป็นยังไง แหวกหญ้าให้งูตื่น ตอนนี้ได้แต่หวังว่าตระกูลฟางจะสาวมาถึงหัวของฉันก็ขอบคุณพวกแกแล้ว!”

ซือถูหยางร้อนรนจนแทบคลั่ง

เขากลัวว่าการลักพาตัวที่ล้มเหลวลงจะทำให้เกิดผลเสียตามมา

ยิ่งไปกว่านั้นหากส่งผลกระทบต่อเรื่องของตระกูลขึ้นมา แบบนั้นคงก็ไม่คุ้มกับการสูญเสียแล้ว

หลงเช่าหยุนมองไปยังลูกน้องที่มีท่าทางสิ้นหวัง เขาเอ่ยถาม “อ้อใช่ ที่เฮลิคอปเตอร์พวกนั้นไม่มีสาเหตุที่จะมาถึงเร็ว ๆ นี้ อีกทั้งยังไม่มีทางไปปลุกกองกำลังในพื้นที่ให้ตื่นตัวขึ้น บอกฉันมาโดยละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้น!”

ลูกน้องเอ่ยเกี่ยวกับสถานการณ์ในตอนนั้น

“หืม? หรือจะเป็นเขา?”

หลงเช่าหยุนได้ยินเข้าก็ขมวดคิ้ว

ซือถูหยางเอ่ยถาม “เป็นใคร?”

หลงเช่าหยุนเอ่ย”พวกแกได้แอบถ่ายรูปเอาไว้ไหม? ฉันจะดูกลุ่มคนพวกนั้นว่าเป็นใคร!”

ลูกน้องรีบเปิดรูปออกมาทันที พ

“ฉันรู้แล้ว เป็นเขาจริงๆ ด้วย! คุณชายเฉินแห่งจินหลิง เฉินเกอ!”

หลงเช่าหยุนเห็นภาพของเฉินเกอ จากนั้นเขาจึงตบโต๊ะด้วยความโกรธ

ตอนแรกในงานเลี้ยงวันเกิดของตนเอง เขาถูกเฉินเกอทำให้รู้สึกอับอายหลายครั้ง

ยิ่งไปกว่านั้น หลังกลับมายังตระกูลเขาก็ถูกกักบริเวณทันที

ทำให้ขอให้บารมีที่สั่งสมมาตลอดหลายปีของตนต้องย่อยยับลง

หลงเช่าหยุนขบฟันด้วยความเกลียดชัง

“เขาคือคุณชายเฉินของจินหลิง?”

เห็นชัดว่าซือถูหยางเองก็เคยได้ยินเรื่องนี้

จากนั้น หลงเช่าหยุนก็เล่าถึงบุญคุณความแค้นระหว่างตนกับเฉินเกอ

"ฮ่าฮ่า ไม่น่าแปลกใจ แม้ว่าฟางเจี่่ยนนันจะไม่ได้ใช้ตระกูลฟางออกหน้า แต่มักจะทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างราบรื่นเสมอ ที่แท้ก็เพราะว่ามีความช่วยเหลือจากเฉินเกอ ยิ่งไม่น่าแปลกใจที่ไม่ว่ากี่ครั้งที่คุณชายหยางจะดีต่อเธอแต่ไหน เธอก็ไม่เคยเห็นมันอยู่ในสายตา!”

หลงเช่าหยุนเอ่ย

เมื่อซือถูหยางได้ยินก็สูดหายใจเข้าลึก

"ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร ตราบใดที่กล้ามาต่อกรกับฉัน ฉันจะทำให้มันมีชีวิตอยู่แต่ไม่ได้เดินออกจากเมืองฉู่ชวนไปตลอดชีวิต!

จากนั้นซือถูหยางจึงเรียกกำลังคนเข้ามาด้วยความโกรธ

“พี่หยางอย่าเพิ่งหุนหัน!”

หลงเช่าหยุนจับไหล่ของ ซือถูหยางเอาไว้เพื่อห้าม

“ฉันเคยจัดการกับเฉินเกอมาก่อน เขามีอิทธิพลอย่างมาก มากกว่าผมและพี่จินตนาการไว้ หากลงมือผลีผลาม จะเกิดเป็นเรื่องยุ่งยากขึ้น! ในเมื่อตอนนั้นพี่สาวของเขาทำให้พวกเราตระกูลหลงต้องถูกบีบบังคับให้ออกจากจินหลิงไปผมเคยได้ยินมาก่อน!”

หลงเช่าหยุนเอ่ยหว่านล้อมอย่างเร่งรีบ

นั่นเพราะการต่อกรกับเฉินเกอโดยตรง ก็ไม่ต่างจากการทำเรื่องเล็กให้ยุ่งยากขึ้นมา

ซือถูหยางเองก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เข้าใจความจริงนี้ ที่สำคัญคือเมื่อครู่เขาคิดว่าฟางเจี่่ยนนันมีเฉินเกอ ดังนั้นจึงไม่ยอมตอบรับรักเขา อีกทั้งยังตบหน้าเขา ดังนั้นก็เลยโมโหขึ้นมา

ตอนนี้เมื่อใจเย็นลงมา จึงดีขึ้นมามาก

“อย่างนั้นเช่าหยุนนายมีวิธีอะไรดีๆ? หรือว่านายจะปล่อยให้เอาอวดอำนาจในเมืองฉู่ชวน?”

หลงเช่าหยุนยิ้มเย็น”ไม่แน่นอน ตรงกันข้าม ผมจะปล่อยให้เขาต้องอยู่ในเมืองฉู่ชวนตลอดไป เพื่อแก้แค้นที่เขาดูถูกผม เรื่องนี้ผมเป็นคนจัดการเอง อ้อใช่คุณชายหยาง หวังว่าคุณคงจะให้ผมยืมคนสักหน่อย ผมยังต้องตรวจสอบอีกหน่อยว่าเฉินเกอนำใครมาด้วยในครั้งนี้?”

"ไม่มีปัญหา!”

ทั้งสองคุยกันจนดึกดื่นจึงค่อยไปพักผ่อน

สามวันต่อมา

“พี่ ผมกับน้าฟางจะออกไปซื้อของ พี่อยากกินอะไร พวกเราจะได้ซื้อกลับมาให้!”

“อะไรก็ได้! ของที่นายกับน้าฟางทำ ฉันล้วนชอบกิน!”

เฉินเกอมองไปที่ซูเฉียงเวยและน้าฟาง จากนั้นจึงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ในสามวัน เฉียงเวยก็เปลี่ยนเป็นสนิทสนมกับน้าฟางขึ้นมามาก

เหมือนที่เฉินเกอกล่าวไว้ เฉียงเวยไม่ได้รังเกียจแผลเป็นบนใบหน้าของน้าฟาง

อีกทั้งฟางเมิ่งซินเองก็มองดูลูกสาวที่ว่าง่ายรู้ความของตน ทุกวันอยู่กับตนเอง เธอรู้สึกทั้งมีความสุขและได้รับการเติมเต็มอย่างยิ่ง

สำหรับ ซูเฉียงเวย เธอรู้สึกว่าเมื่ออยู่กับน้าฟาง เธอมีความรู้สึกปลอดภัยอย่างยิ่ง อีกทั้งยังรู้สึกสนิทสนม ราวกับว่าน้าฟางเป็นญาติของเธอเอง

ทั้งสองคนจูงมือกันมาที่ห้างสรรพสินค้า

เมื่อน้าฟางมองไปที่ด้านข้างของห้างสรรพสินค้า ตรงนั้นก็มีร้านขายปิงถังหูลู่(ผลไม้เคลือบน้ำตาล)เล็กๆ ตั้งอยู่

ส่วนเฉียงเวยเองก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองอย่างไม่หยุด

จากนั้นจึงเดินนำหน้าไป

ในใจของน้าฟางรู้สึกฟาดขมขึ้นมา จากที่เฉียงเวยเคยพูดมา หากไม่ใช่เพราะได้เจอกับเฉินเกอ เกรงว่าเธอคงจะมีชีวิตที่น่าสงสารแน่

ตั้งแต่เล็กจนโต เกรงว่าแม้กระทั่งการกินปิงถังหูลู่(ผลไม้เคลือบน้ำตาล)ก็ถือเป็นเรื่องหรูหราอย่างหนึ่ง

“เฉียงเวย รอป้าที่นี่สักครู่ เดี๋ยวป้า!”

เมื่อน้าฟางพูดจบ เธอก็เดินไปยังด้านหนึ่ง

เฉียงเวยคิดอยู่ในใจว่าน้าฟางทำตัวลึกลับทำไมกัน?

จากนั้นเธอก็ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม

ทันใดนั้นเอง

จู่ๆ ซูเฉียงเวยก็ได้ยินเสียงรถยนต์ดังขึ้นอย่างรวดเร็ว

เมื่อหันกลับไปดู รถตู้คันหนึ่งก็กำลังเร่งเครื่องเข้าฝั่งของตนเอง

“อ๊า!”

ผู้คนที่สัญจรไปมาก็ส่งเสียงกรีดร้อง......

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน