“นายจะไปรู้อะไร แค่เฉินเกอคนเดียว ก็ทำลายล้างตระกูลใหญ่สามตระกูลของประเทศหนานเยว่ได้ อีกอย่างได้ยินท่านผู้นำพูดว่า จุดประสงค์ที่เขามาที่นี่นั้นใหญ่มาก หากควบคุมเขาไม่ได้ ประเทศหนานเยว่ก็จะประสบกับหายนะ”
“เรื่องนี้ฉันทำไม่ถูกจริงๆ คนของเฉินเกออยู่ในกำมือของเรา เขาก็จะเป็นฝ่ายถูกกระทำ ตอนนี้เขาได้ช่วยคนออกไปแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไรอีก ประเทศหนานเยว่ของเราคงจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แล้ว!”
ผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมง ลู่เฉิงคุนก็สร่างเมาแล้ว เขาที่สูบบุหรี่ถอนหายใจไม่หยุด หากให้เฉินเกอทำอะไรแบบนั้นจริง งั้นเขาก็จะเป็นคนบาปของประเทศหนานเยว่
ไม่เพียงแต่ตัวเขา อนาคตข้างหน้าเกรงว่าคนในครอบครัวก็จะถูกคนประมาณ
“เฉินเกอคนนั้น ยังมีโอกาสที่จะจับตัวกลับมามั้ย?” ลูกน้องคนสนิทถามอย่างระมัดระวัง คำพูดของลู่เฉิงคุน ก็ทำให้เขากระวนกระวายขึ้นมาแล้ว
“ไม่รู้นะ หวังแต่ว่าทหารของประเทศหนานเยว่จะมีประโยชน์” ลู่เฉิงคุนส่ายหัว เขาเองยังไม่รู้เลยว่าทำไมเขาต้องดื่มเหล้าด้วย ก่อนหน้านั้นเขาเคยเห็นรูปถ่ายของเฉินเกอ หากเขาไม่ดื่มเหล้า ต้องจำเฉินเกอได้ในแวบแรกอย่างแน่นอน มันก็จะไม่เกิดเรื่องที่ตามมา
“พูดเรื่องพวกนี้กับนายก็ไม่มีประโยชน์ นายไปยุ่งเถอะ!”
ลู่เฉิงคุนถอนหายใจ เดินออกไปจากห้องทำงานของหลี่กั๋วจุน
ในประเทศหนานเยว่ทางหน่วยรบขับเคลื่อนเครื่องบินรบและสั่งให้ใช้กล้องวงจรตรวจสอบทุกเส้นทางอย่างเข้มงวด เฉินเกอได้พาพวกเขากลับมาถึงที่วิลล่าแล้ว
ระหว่างทางที่กลับมา เฉินเกอให้ไป๋เสี่ยวเฟยไปซื้ออาหารค่ำแล้ว การที่ออกมาจากคุกใต้ดิน ท่านซินแสกุ่ยและคนอื่นๆระยะเวลานี้คงไม่ได้กินอาหารดีๆ
พาพวกเขาเข้ามาในวิลล่า เฉินเกอก็ให้พ่อบ้านเปิดประตูทันที
“พวกเขาเป็นใคร?” เมื่อได้ยินเสียงที่วุ่นวายดังมาจากข้างนอกในทันที เหลียงลู่เดินออกมาถามอย่างไม่ค่อยจะพอใจ เธอไม่ชอบที่เฉินเกอพาคนแปลกหน้าเข้ามา อย่างไรเสียก็ยังไม่รู้ตัวตนของคนพวกนี้ อีกอย่างเธอไม่อยากให้วิลล่าวุ่นวาย
“เพื่อนของฉัน”
“พวกนายเข้ามากันเถอะ เดี๋ยวไป๋เสี่ยวเฟยก็ซื้อของกลับมาแล้ว คืนนี้ก็ทานกันง่ายๆหน่อย พรุ่งนี้เราก็ไปจากที่นี่” เฉินเกอไม่ได้สนใจเหลียงลู่ ได้พาท่านซินแสกุ่ยและคนอื่นๆเข้ามาในห้องรับแขกโดยตรง
“เฉินเกอ นายมากับฉันหน่อย” เหลียงลู่โกรธเล็กน้อย เธอไม่รู้ว่าเฉินเกอหมายความว่าอย่างไร อยู่ๆก็พาคนมากมายขนาดนี้กลับมาที่วิลล่า และก็ไม่ได้บอกกับเธอล่วงหน้าด้วย
“เรื่องอะไร?” เฉินเกอขมวดคิ้ว เดินตามเธอเข้าไปในห้อง
เหลียงลู่ปิดประตู มือเท้าสะเอว แล้วถาม “คนเหล่านี้เป็นคนอะไร แม้ว่าวิลล่านี้นายจะเป็นคนเช่า แต่ว่าฉันที่เป็นผู้หญิงคนเดียวก็ยังอยู่ตรงนี้ นายควรจะบอกฉันล่วงหน้าถึงจะถูก ตั้งสิบกว่าคน มันไม่ค่อยจะสะดวกเลย!”
“มันไม่ได้เกี่ยวกับคุณ สิ่งที่ไม่ควรถามก็อยากถามเยอะ รู้เยอะมันก็ไม่ดีต่อคุณ” เฉินเกอยังนึกว่าเรื่องอะไรเสียอีก หลังจากที่ได้ยินเธอพูดเช่นนี้ ก็หันหน้าเดินออกมาเลย
“เฉินเกอ นายจะเกินไปแล้วนะ” เหลียงลู่ยื่นมือไปกระชากเสื้อของเฉินเกอ
การกระชากนี้ เกือบจะทำให้เสื้อตัวนอกของเฉินเกอเปิดออก
“ผมของเตือนคุณ หากคุณยังไร้เหตุผลแบบนี้ ตอนนี้ผมจะนำตัวคุณออกไปด้านนอกวิลล่า ความปลอดภัยของคุณก็จะไม่เกี่ยวกับเราอีก”
“อีกอย่าง อย่าคิดว่าไป๋เสี่ยวเฟยเป็นบอดี้การ์ดของคุณ อันดับแรกเขาเป็นเพื่อนรักของผม ฟังคำสั่งผม จากนั้นถึงจะทำหน้าที่คุ้มครองคุณ จุดนี้คุณน่าจะเข้าใจดีใช่มั้ย?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...