“ประเทศหนานเยว่จำเป็นต้องล้างไพ่ใหม่แล้วจริงๆ มีหลี่กั๋วจุนเป็นผู้นำที่นั่งบัญชาการด้วยตัวเอง เกรงว่าสถานการณ์ในอนาคตของพวกคุณยิ่งอยู่จะยิ่งเลวร้าย นี่ก็เป็นสิ่งที่ผมช่วยพวกคุณ”
เฉินเกอกล่าวอย่างยิ้มๆ
“น้องชายนายไม่จำเป็นต้องพูดเรื่องพวกนี้กับฉัน ตระกูลหลิวของเราทุกยุคทุกสมัยก็มีหน้าที่ปกป้องซากโบราณสถานแห่งนี้ ไม่มีความสนใจสำหรับเรื่องอื่นๆเลย” ชายชราโบกมือขัดจังหวะพูดของเฉินเกอ
เฉินเกอพยักหน้า ก็ไม่ได้พูดต่อ
เดินวนดูอยู่ตรงนี้ไปสองรอบ เฉินเกอได้หยิบม้วนไผ่สองม้วนมาจากชั้นวางเก็บใส่ในกระเป๋า สำหรับสิ่งของอย่างอื่นเขาไม่ได้สนใจ และเขาก็ไม่ได้ใช้มัน
แม้ว่าชายชราจะพูดว่าของที่อยู่ในนี้ทั้งหมดเฉินเกอสามารถนำไปใช้ได้เต็มที่ แต่เพิ่งจะมาถึงที่นี่ก็จะนำของไปทั้งหมดมันก็ไม่ค่อยจะดี ยิ่งไปกว่านั้นเฉินเกอไม่มีปัญญาที่เอาของพวกนี้ไปทั้งหมด
“มีคำพูดอยู่ประโยคหนึ่งไม่รู้ว่าควรจะพูดหรือไม่” ชายชราที่จ้องเฉินเกอมาสักพักแล้ว
“ท่านผู้เฒ่าพูดมาเลย” เฉินเกอกล่าวด้วยเสียงต่ำ
“ไม่ทราบว่าพลังเทพจิตเก้าภพของน้องชายได้มาจากไหน บรรพบุรุษของฉันปกป้องที่นี่ แต่ตั้งแต่ฉันจำความได้ ก็ไม่เคยเจอคนที่มีพลังเทพจิตเก้าภพ แม้กระทั่งคุณพ่อกับคุณปู่ ก็ไม่เคยเห็นมาก่อน”
“ดังนั้นฉันจึงอยากจะรู้ น้องชายนั้นมาจากไหน ตั้งแต่บรรพบุรุษก็มีพลังเทพจิตเก้าภพแล้วเหรอ?” ชายชราจ้องเฉินเกอแล้วถาม นี่คือความสงสัยในทั้งชีวิตของเขา
“มันเป็นเรื่องบังเอิญน่ะ” เฉินเกอไม่ได้ลังเล และพูดไปอย่างนั้น
สำหรับเรื่องพลังเทพจิตเก้าภพ เฉินเกอไม่มีทางที่จะบอกคนอื่นตามความประสงค์
“เอาล่ะ ในเมื่อน้องชายไม่ยินดีที่จะพูด ถ้าอย่างนั้นฉันก็ไม่บังคับแล้ว ฉันยังคงยืนยันคำเดิม ต่อไปซากโบราณสถานยินดีต้อนรับนายเสมอ ของทุกอย่างในนี้เชิญนายใช้มันได้อย่างเต็มที่” ชายชราสามารถเข้าใจความหมายของเฉินเกอ ก็ไม่ได้ถามต่อ
“ถ้าอย่างนั้นผมไปก่อนล่ะ รอให้ผมใช้ภาพไห่ซินช่วยคนในครอบครัวได้แล้ว แล้วจะกลับมาเยี่ยมคุณ” เฉินเกอเก็บภาพไห่ซิน ทำมือโค้งคารวะให้เขา
อย่างไรก็ตาม ต้องขอบคุณชายชราผู้นี้ ทำให้เขาสามารถหาภาพไห่ซินได้อย่างง่ายดาย
“ได้” ชายชราพยักหน้าเล็กน้อย
เขาเหยียบลูกธนูสีดำเหล่านั้นเพื่อออกไป เฉินเกอเดินไปตามทางเดินที่ไปยังด้านนอกของภูเขา ตั้งแต่เข้ามาจนกระทั่งออกไป ใช้เวลาไปทั้งหมดไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
ด้านนอกป่า คนขับยังคงรออยู่ที่นี่
“นายไปได้แล้ว” เฉินเกอเดินไปตรงหน้ารถ กล่าวอย่างเรียบเฉย
“อะไรนะ?” คนขับยังตอบสนองไม่ทัน
“ฉันบอกว่านายไปได้แล้ว ฉันให้โอกาสนายมีชีวิตอยู่ต่อ” เฉินเกอเปิดประตูรถ ดึงตัวเขาลงมาจากบนรถออฟโรด
“ขอบคุณครับคุณเฉิน ขอบคุณครับคุณเฉิน” คนขับยืนอึ้งอยู่กับที่ไปครู่หนึ่ง ถึงได้เข้าใจว่าเฉินเกอพูดอะไร เขารีบโค้งคำนับขอบคุณ แล้วหายเข้าไปในป่าภายในพริบตา
เขากังวลว่าเฉินเกอจะพูดเพราะอารมณ์ชั่ววูบ หากเขาไม่ฉวยโอกาสในการจากไปล่ะก็ เกรงว่าคงต้องเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่
เมื่อเฉินเกอนั่งบนรถแล้ว ก็โทรศัพท์ติดต่อหาไป๋เสี่ยวเฟย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...