แผนที่ทั้งหมดยังคงเป็นเหมือนกระดาษคราฟท์ดังเดิม ถ้าไม่ใช่เพราะเฉินเกอเห็นด้วยตาของตัวเองมาก่อน ก็คงไม่อยากจะเชื่อว่าแผนที่นี้จะปรากฏภาพที่น่าตกใจเช่นนั้นได้
"มีอะไรใหม่บนแผนที่หรือไม่?" ซินแสกุ่ยขึ้นมา
"ไม่มี อีกทั้งยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกาะโยวหลงจะปรากฏเมื่อใด ดูเหมือนว่ามีความลึกลับมากมายที่เรายังไม่รู้บนแผนที่ไห่ซิน ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้ เฉินเกอคงไขปริศนาทั้งหมดที่ซากโบราณสถานไปแล้ว และถามผู้เฒ่าคนนั้นไป"
เฉินเกอส่ายหัวและถอนหายใจ
ก่อนหน้านี้ออกมาจากซากโบราณสถานเร็วเกินไป. อีกทั้งยังไม่คาดคิดว่าภาพไห่ซินจะมีความลับอยู่ด้วย ถ้าเขารู้ว่าเป็นแบบนี้เฉินเกอคงไขความลับทั้งหมดของภาพไห่ซินทั้งหมดในซากโบราณสถานก่อน ไม่ว่าจะต้องใช้เวลาหนึ่งวัน สิบวันหรือว่ากี่สิบวันก็ตาม ล้วนแต่รอได้
"กลับไปที่ซากโบราณสถานอีกครั้ง?" ซินแสกุ่ยถาม
"ช่างมันเถอะ ต่อให้ไขความลับในภาพไห่ซินได้แล้วยังไงกัน ก็แค่เห็นเกาะโยวหลงเท่านั้น หากไม่รู้วิธีหาเกาะโยวหลงและขึ้นเกาะโยวหลงจากเผ่าไห่ต้อง รู้แล้วจะทำอะไรได้" เฉินเกอส่ายหัวและเอ่ยขึ้น
"ไม่ต้องรีบร้อน ตอนนี้พวกเรามีความก้าวหน้าไปมากแล้ว ตอนนี้เรามีภาพไห่ซินอยู่ในมือ อีกทั้งยังรู้ถึงการอยู่อาศัยของบริวารตระกูลย่อยของตระกูลเฉินบนเกาะ ขอแค่เราสามารถหาคนของเผ่าไห่ต้องเจอ เราก็สามารถช่วยพ่อแม่ของนายได้อย่างรวดเร็ว"
เมื่อเห็นว่าเฉินเกอมีอารมณ์ตกต่ำอยู่บ้าง ซินแสกุ่ยก็ตบไหล่ปลอบโยนเขา
"ฉันรู" เฉินเกอสูดหายใจลึกและยิ้ม
ไม่นานนัก ไป๋เสี่ยวเฟยก็กลับมาพร้อมกับอาหารที่เตรียมโดยกองบัญชาการทหารโวกั๋ว
เมื่อพูดถึงอาหาร อาหารที่นี่แตกต่างจากอาหารปกติในหัวเซี่ย มันเป็นข้าวคลุกและข้าวกล่องแบบดั้งเดิม รวมถึงที่ซุปมิโซะถังใหญ่
ทั้งสามคนรวมตัวกันที่โต๊ะกินข้าว ก่อนที่จะทานอาหารเสร็จ ข้างนอกก็มีเสียงดังขึ้น
"ที่นี่คือไป๋เสี่ยวเฟยจากหัวเซี่ยหรือไม่?" ประตูห้องไม้อัดถูกคนใช้แรงตบอยู่หลายครั้ง จากนั้นก็ตามขึ้นมาด้วยเสียงเรียกดังขึ้น
"มีคนมาหานาย" เฉินเกอเอ่ยเรียบๆหลังจากดื่มซุปมิโซะไปชามใหญ่
"ใครกัน?" ไป๋เสี่ยวเฟยวางจานและตะเกียบลง เขาผลักประตูออกไป และเห็นกองกำลังพิเศษหลายคนยืนอยู่ข้างนอกในชุดต่อสู้ ดูเหมือนว่าพวกเขาควรจะเป็นชาวเอเชีย
"นายก็คือไป๋เสี่ยวเฟย?" ผู้มาเยือนมองอย่างประเมิน และเอ่ยด้วยสีหน้าบูดบึ้ง "ขอแนะนำตัวเองหน่อย ฉันชื่อเฉินอาผิงฉันเป็นทหารพิเศษของหน่วยรบหนานเยว่ ได้ยินมาว่านายเคยปรากฏตัวในหน่วยรบของเรา และเพื่อนที่อยู่ข้างนายก็ก่อเรื่องพลิกฟ้าสะเทือนแผ่นดินที่หน่วยรบของเรา?"
"นายจำคนผิดแล้ว" ไป๋เสี่ยวเฟยไม่ได้คิดจะสนใจคนลุ่มนี้
"ช้าก่อน ฉันเห็นว่าข้างในนั้นยังมีคนอีกสองคนนั่งอยู่ คงไม่ใช่เฉินเกอใช่มั้ย?" ไป๋เสี่ยวเฟยเพียงแค่วางมือบนที่จับ ส่วนเฉินอาผิงดึงประตูบ้านไว้และมองเข้าไปข้างใน
"ไอ้หนู ที่นี่คือโวกั๋ว ไม่ใช่ในหนานเยว่ของนาย มีเรื่องอะไรก็ไปหาตัวแทนผู้นำลู่เฉิงคุนของพวกนายดู อย่ามากวนฉันที่นี่!" ไป๋เสี่ยวเฟยขมวดคิ้ว ในเวลานี้ บุคคลตรงหน้านี้ไม่เพียงแต่ยั่วยุตัวเอง แต่ยังยั่วยุหัวเซี่ยอีกด้วย
เสียงที่เกิดขึ้นที่นี่ยังดึงดูดกองกำลังพิเศษจากประเทศอื่น ๆ มีคนไม่น้อยมารวมตัวกันและชี้มาเพื่อดูเรื่องสนุก บางคนถึงกับมีท่าทีตื่นเต้น พวกเขาส่งเสียงเชียร์อย่างหนักและให้ไป๋เสี่ยวเฟยและเฉินอาผิงลองประลองกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...