ทากูยะเอาไปบนโต๊ะอย่างระมัดระวัง แล้วค่อยๆแกะเปิดออกอย่างระวัง กลัวว่าตัวสั่น ก็จะทำกระดาษหนังสือพิมพ์แผ่นนี้พัง
แม้ว่าจะระวังเช่นนี้ ตอนที่แกะกระดาษออก ก็ทำเสียหายไปส่วนเล็กๆส่วนหนึ่งแล้ว
"นี่น่าจะเป็นกระดาษหนังสือพิมพ์ที่บันทึกเผ่าไห่ต้องแล้ว เป็นเพียงแค่กระดาษส่วนเล็กๆ ไม่แน่ก็อาจจะมีคำตอบที่คุณอยากรู้ก็ได้" ทากูยะนำกระดาษมาปูบนโต๊ะ พร้อมทั้งถอนหายใจอย่างระมัดระวัง ลมหายใจนี้พ่นลงไป กระดาษแผ่นนี้ก็อาจจะถูกเป่าจนกระจัดกระจาย
"ค่อนข้างเบลอ" เฉินเกอขมวดคิ้วเล็กน้อย ยืนมองดูพร้อมสองมือค้ำไว้บนโต๊ะ
บนกระดาษมีการบันทึกไว้จริงๆ แต่เนื่องจากอายุที่ยาวนานบวกกับลายมือที่เขียนไม่ชัดเจน เฉินเกอมองไม่ออกเลยว่าด้านบนนั้นบันทึกไว้ว่าอะไร และตัวอักษรที่อยู่ด้านบน ทั้งไม่เหมือนกับตัวอักษรหัวเซี่ย และก็ไม่เหมือนกับภาษาอังกฤษที่ใช้สื่อสารทางฝั่งตะวันตก
"คุณรู้จักไหม?" เฉินเกอมองดูแวบหนึ่ง กลับว่ามองไม่ออกว่าเป็นอะไร ทำได้เพียงเงยหน้าไปเอ่ยถามทากูยะ
"นี่น่าจะเป็นตัวอักษรพิเศษของเผ่าไห่ต้องนะ บรรพบุรุษไม่ได้มีการสืบทอดต่อกันมา ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน" ตอนที่เฉินเกอมอง ทากูยะก็กำลังมองดูเช่นกัน เขาส่ายหน้าแล้ว พูดจาค่อนข้างจนใจ
"นี่ก็วุ่นวายแล้ว" เฉินเกอลูบไล้หนวดที่เพิ่งงอกขึ้นมาใหม่
"เพื่อนของคุณคนนั้นไม่ใช่ว่ารู้เรื่องเยอะเหรอ แม้แต่เผ่าไห่ต้องก็รู้ ไปเรียกเขามาดูหน่อย ไม่แน่เขาก็อาจจะเข้าใจ"
ดูอีกครู่หนึ่งแล้ว จู่ๆดวงตาของทากูยะก็เปล่งประกายทันที
"ท่านซินแสกุ่ย?" เมื่อทากูยะเอ่ยถึงเช่นนี้ เฉินเกอก็นึกขึ้นมาได้แล้ว
เวลาไม่เคยคอยท่า เฉินเกอหันหลังเดินออกไป ไปหาท่านซินแสกุ่ย
ไม่ถึงสิบนาที เฉินเกอดึงแขนของท่านซินแสกุ่ยเข้ามาในห้องลับแล้ว
"ฉันถามคุณว่าทำอะไร คุณก็ไม่พูด ลากฉันมาตั้งแต่เช้าตรู่ ฉันง่วงจะตายอยู่แล้ว" ท่านซินแสกุ่ยยอมปล่อยให้เฉินเกอลากตัวมาเช่นนี้ ทั้งพูดทั้งหาวไปด้วย
"จัดการเรื่องนี้เสร็จเรียบร้อยแล้วคุณอยากจะนอนเท่าไหร่ก็ตามสบายเลย" เฉินเกอกดตัวเขาที่หน้าโต๊ะ
"เรื่องอะไรเหรอ?" ท่านซินแสกุ่ยขยี้ตาแล้ว เขาได้ยินความสำคัญของเรื่องนี้จากคำพูดของเฉินเกอได้
"คุณช่วยดูหน่อย อ่านอักษรในกระดาษแผ่นนี้ออกไหม?" เฉินเกอชี้ไปที่กระดาษที่เรียงต่อกันอยู่บนโต๊ะ พูดถาม
"ให้ฉันดูหน่อย" ท่านซินแสกุ่ยเบิกตามองกว้าง ฟุบลงบนกระดาษ
เมื่อมองดู ก็มองดูเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว
เฉินเกอและทากูยะยืนอยู่ตรงที่เดิม ไม่มีใครเอ่ยปากพูดทั้งนั้น และก็ไม่ขยับมั่วซั่ว กลัวว่าจะไปรบกวนความคิดของท่านซินแสกุ่ย
"นี่เป็นอักษรของเผ่าไห่ต้องสินะ?" หลังจากผ่านไปอยู่นาน ท่านซินแสกุ่ยถึงจะเอ่ยปากพูดกล่าว
"ถูกต้อง น่าจะเป็นสิ่งที่บรรพบุรุษหลงเหลือไว้ให้" ทากูยะพยักหน้า
"ฉันอ่านออก เพียงแต่......" ท่านซินแสกุ่ยเผยสีหน้าท่าทางที่เก้ๆกังๆออกมา
"เพียงแต่อะไร มีอะไรก็พูดออกมาตรงๆเลย" เฉินเกอ เป่าปากโล่งอกแล้ว รีบพูดเร่ง อย่างที่รู้บนกระดาษแผ่นี้อาจจะมีความเป็นไปได้สูงที่จะบันทึกวิธีการตามหาเกาะโยวหลง
"บนกระดาษแผ่นนี้ พูดเกี่ยวกับการบันทึกทั้งหมดของเผ่าไห่ต้อง ทั้งหมดล้วนแต่วางอยู่ในสถานที่เดียวกัน หลงเหลือไว้ให้ตระกูลฟุตาบะ เป็นเพียงแค่วรรณกรรมพวกตระกูลที่ธรรมดามากๆเท่านั้นเอง" ท่านซินแสกุ่ยมองดูกระดาษอีกแวบหนึ่งแล้ว ถึงได้พูดออกมา
"ด้านบนไม่ได้เขียนไว้ว่าเก็บไว้ที่ไหน?" เฉินเกอขมวดคิ้วแน่นทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...