ซูซานหลางวางจอบลงแล้วพูดว่า “เจ้าฉง เจ้าหัว วันนี้ทำงานเสร็จแล้ว เรากลับเรือนไปทำอาหารกินกันเถอะ”
ซูฉงและซูหัวสายตาเป็นประกาย มองไปยังเรือนที่อยู่ด้านล่าง จากนั้นก็วิ่งลงไปทันที
กลิ่นหอมของไก่ตุ๋น พวกเขาได้กลิ่นมานานแล้ว หอมเหลือเกินเชียว
มองดูลูกชายที่ไร้เดียงสาและร่าเริง ซูซานหลางยิ้มออกมา ความเหนื่อยล้าทั้งหมดดูเหมือนจะถูกปัดเป่าไป เขาก็แบกจอบกลับเรือน
มีซูซานเม่ยมาช่วยก่อไฟทำอาหาร ซูซานหลางจึงไม่รู้สึกเหนื่อยเลย
เขาไปดูกระต่าย กระต่ายตัวที่น่าจะใกล้ออกลูกยังไม่มีความเคลื่อนไหว แต่มันได้ถอนขนของตนเองมาปูรองรังไว้แล้วหลายเส้น
กระต่ายตัวอื่น ๆ กินหญ้าเขียวกันอย่างกระปรี้กระเปร่า เลี้ยงอีกสักสามถึงห้าวันคงไม่มีปัญหาแน่นอน
ซูซานหลางเตรียมที่จะขุดดินให้เสร็จก่อน แล้วค่อยเข้าเมืองเพื่อขายกระต่ายเหล่านี้ พร้อมทั้งซื้อเมล็ดผักกลับมาหว่านลงในแปลงดิน
ข้าวสุกแล้ว เด็กทั้งสามคนรอกันแทบไม่ไหว
ซูซานหลางแบ่งข้าวให้ทีละคน แต่ละคนได้ไก่สามชิ้น แล้วทั้งสามก็ถือชามของตนกินอย่างช้า ๆ ส่วนที่เหลือในหม้อ เด็กทั้งสามไม่ได้แม้แต่จะมอง
นิสัยดีเช่นนี้ ซูซานหลางรู้สึกปลื้มใจและเจ็บปวดใจ เขาตักซุปไก่และเนื้อไก่หนึ่งชามให้จ้าวซื่อ แล้วพูดว่า “แม่ ลองชิมดูสิ ลูก ๆ กินกันเอร็ดอร่อยเลย”
เนื้อไก่ในชามของจ้าวซื่อเป็นชิ้นใหญ่ มองดูก็รู้ทันทีว่าเป็นเนื้อน่องไก่
จ้าวซื่อถามด้วยความห่วงใยว่า “พ่อ เจ้าได้ลองชิมหรือยัง?”
ซูซานหลางเสียดายที่จะกิน กำลังจะพูดเพื่อหลอกจ้าวซื่อ แต่จ้าวซื่อไม่ปล่อยให้เขาพูด นางยื่นเนื้อไก่ชิ้นหนึ่งป้อนให้พร้อมกับพูดอย่างอ่อนโยนว่า “ข้าคิดว่าเจ้าคงยังไม่ได้กิน อ้าปากสิ เจ้ากินก่อน แล้วข้าค่อยกิน”
จ้าวซื่อรู้ดีว่าซูซานหลางเป็นคนอย่างไร ดังนั้นเนื้อไก่ชิ้นนี้นางต้องป้อนให้ซูซานหลาง
ซูซานหลางปฏิเสธไม่ได้ จึงต้องอ้าปากกัด
หอมอร่อยจริง ๆ ซูซานหลางถึงกับไม่ยอมคายกระดูกออก เมื่อเห็นจ้าวซื่อกินแล้ว เขาจึงยิ้มและออกไปกินข้าวต่อ
เนื้อไก่หอม ซุปไก่บำรุงร่างกาย เมื่อจ้าวซื่อกินแล้วร่างกายก็จะแข็งแรงขึ้น แบบนี้เขาก็สบายใจ
วันที่ยี่สิบเดือนแปด พอเช้าตรู่ ซูซานหลางก็ไปดูกระต่าย ยังไม่มีความเคลื่อนไหว เขาจึงปิดกรงแล้วออกไปดูที่กับดัก
ไม่นานเขาก็กลับมา คราวนี้เขาถือไก่ป่าที่จับได้สองตัวและกระต่ายป่าอีกหนึ่งตัวที่ยังมีชีวิต
เขายิ้มจนกลั้นไว้ไม่อยู่ มัดขาไก่ป่าแล้วผูกไว้ จากนั้นก็เข้าไปในเรือนเพื่อบอกข่าวดีกับจ้าวซื่อว่า “แม่โชคของเราดีเสียจริง วันนี้จับไก่ป่าได้อีกสองตัว กับดักเมื่อวานยังไม่มีอะไรติด แต่มีบางอันถูกทำลายไปแล้ว”
ขณะพูด ซูซานหลางก็อดประหลาดใจไม่ได้ ครั้งนี้เขาจับได้ทุกครั้งไม่พลาดเลย
จ้าวซื่อก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน “ช่างดีเหลือเกิน”
แม้ว่าจะดีใจมาก แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมถึงจับได้ทุกครั้ง ขณะที่คิด จ้าวซื่อก็รู้สึกหวั่น ๆ เล็กน้อย
จ้าวซื่อเอ่ยถามด้วยความสงสัยว่า “พ่อ เหตุใดถึงจับได้ทุกครั้งเลย มีสาเหตุใดหรือไม่?”
ซูซานหลางเกาหัวด้วยความไม่เข้าใจ “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะโชคดี”
โชคดีหรือ ช่างดีเกินไปนัก ดีจนผู้คนอดที่จะประหลาดใจมิได้
เมื่อก่อนที่เรือนนั้น ในหนึ่งปีจะจับได้สักหนึ่งหรือสองครั้งเท่านั้น ก็นับว่าโชคดีแล้ว
แต่ตอนนี้ เขาวางกับดักไม่กี่ครั้งก็จับได้ทุกครั้ง เรียกว่าทุกครั้งไม่เคยพลาด โชคนี้ไม่อาจเรียกว่าดีธรรมดาได้ ต้องบอกว่าโชคดีแบบฟ้าประทานเลยทีเดียว
คิดไปคิดมา ซูซานหลางก็รู้สึกกลัดกลุ้มอยู่บ้าง เพราะแมลงที่ใช้วางกับดักนั้นทุกครั้งซูซานเม่ยเป็นคนจับ แต่ครั้งแรกที่เขาจับเองกลับไม่ได้อะไรเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นสาวน้อยนำโชคของครอบครัวชาวนา