ขณะที่ซ่งปี้อวิ๋นเป็นฝ่ายน้อยอกน้อยใจอยู่เป็นทุนเดิม ทันทีที่คนทั้งสองบังเกิดความขุ่นข้องหมองใจกันก็จะกลายเป็นศัตรูคู่แค้น
ซ่งจิ่งเซินว่าแล้วก็หยิบจดหมายฉบับหนึ่งส่งมาให้ “นี่คือจดหมายที่ซ่งปี้อวิ๋นเขียนให้เสิ่นหวยอัน ท่านอ่านดูสิ”
ฉู่มู่เหยาเปิดจดหมายออกด้วยความสงสัย แล้วก็พบว่าบนนั้นเขียนไว้ว่าซ่งปี้อวิ๋นยินดีทุ่มเทเพื่อเสิ่นหวยอัน ขอแค่เขามีความสุข นางยินดีทำทุกอย่าง
บนนั้นถึงขั้นเขียนไว้ว่าซ่งปี้อวิ๋นยินดีขอให้นางออกมาด้วยตัวเอง จากนั้นก็ให้เสิ่นหวยอันใช้โอกาสนี้ลงมือทำให้ข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกโดยเร็ว แผนการของพวกเขาจึงจะสามารถดำเนินต่อไปได้
“ซ่งปี้อวิ๋นเป็นคนคิดวิธีนี้ขึ้นมาหรือนี่?” ฉู่มู่เหยารู้สึกเหลือเชื่อ
“พวกเขาเดิมก็เป็นคนประเภทเดียวกัน ท่านก็ใช้โอกาสนี้ตัดขาดกันให้เด็ดขาดซะ อีกประเดี๋ยวก็สงบใจรอดูเรื่องสนุก”
“นี่...ท่านไม่กลัวว่าจะถูกจับได้บ้างหรือ?” ฉู่มู่เหยาพบว่าคนตรงหน้าช่างขวัญกล้าเทียมฟ้าโดยแท้ ถ้าถูกเปิดโปงเสียแล้ว เขาไม่กังวลสักนิดเลยหรือ?
“กระหม่อมช่วยจัดการเรื่องราวให้องค์หญิง ถ้าเกิดปัญหาอันใดขึ้นมา องค์หญิงคงสามารถปกป้องไม่ให้เกิดเรื่องกับกระหม่อมได้ใช่หรือไม่?” ซ่งจิ่งเซินถาม
ฉู่มู่เหยา “???”
นางครุ่นคิดโดยละเอียด อย่างไรเสียนี่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อันใด ต่อให้เสด็จแม่ทราบเรื่อง อย่างมากก็ถูกตำหนิยกเดียวเท่านั้น หรือจะไปขอความช่วยเหลือจากเสด็จพี่สามและเสด็จพี่ห้าก็ได้ จะต้องสามารถปิดบังเรื่องราวได้อย่างแน่นอน
“เจ้าวางใจเถอะ ถ้าถูกจับได้จริงๆ องค์หญิงเช่นข้าจะปกป้องเจ้าเอง” ฉู่มู่เหยาตบอกกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง
ซ่งจิ่งเซินหลุดหัวเราะพรืด แม่นางผู้นี้ช่างน่าสนใจจริงๆ
ในไม่ช้า เจ้าหน้าที่ก็รุดมาถึงโรงเตี๊ยมเยว่ไหล ถามว่าผู้จัดการพบเห็นเสิ่นหวยอันหรือไม่

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...