“ให้พวกเขาแต่งงานกัน?”
นายหญิงซ่งมองท่าทางไม่แยแสที่ราวกับไม่ใช่เรื่องใหญ่อันใดของหลี่ซื่อ กระทั่งว่าท่าทางยังแลดูฝืนใจอยู่บ้างก็ยิ่งโมโหหนักกว่าเดิม
“พูดก็ง่ายสิ ตอนนี้เรื่องกลายเป็นเช่นนี้แล้ว เจ้ากลับพูดง่ายๆ ว่าให้แต่งงานกัน ตอนนี้ชื่อเสียงลูกสาวข้าเป็นอย่างไรไปแล้ว เจ้ายังไม่รู้อีกงั้นรึ?”
หลี่ซื่อเห็นว่าตนเองก็รับปากว่าจะให้พวกเขาแต่งงานกันแล้ว นายหญิงซ่งกลับยังไม่ยอมลดราวาศอก สีหน้ายิ่งไม่น่ามองกว่าเดิม “แล้วเจ้าจะเอายังไง? เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นแล้ว จะโทษหวยอันคนเดียวไม่ได้หรอกนะ ถ้าไม่ใช่เพราะลูกสาวเจ้าไม่รักนวลสงวนตัวเอง จะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นงั้นรึ?”
“เจ้าว่าอะไรนะ? เจ้าแน่จริงลองพูดอีกครั้งซิ” นายหญิงซ่งโมโหสุดขีด “ถ้าไม่ใช่เพราะลูกชายเจ้ามาหลอกลวงลูกสาวข้า เด็กสาวที่บริสุทธิ์ผุดผ่องคนหนึ่งแบบลูกสาวข้าจะทำเรื่องพรรค์นี้ออกมาได้อย่างไร?”
“ทำไมจะไม่ได้? ก่อนหน้านี้ก็เป็นลูกสาวเจ้าที่รบเร้าให้ลูกชายข้าเปิดร้าน พร่ำพูดว่าเปิดร้านปิ้งย่างแล้วจะทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ วันหน้านางก็จะกลายเป็นฮูหยินน้อยของร้าน”
“ตอนนี้เปิดร้านแล้ว ลูกชายข้าลงเงินไปตั้งมากมาย ทั้งยังเปิดร้านตามที่นางบอกแล้ว สุดท้ายกลับลงเอยแบบนี้!”
“เจ้าจะลองออกไปถามดูเองก็ได้ ใครบ้างไม่รู้ว่าตอนอยู่ในร้านปิ้งย่าง ซ่งปี้อวิ๋นวางท่าเป็นเถ้าแก่เนี้ยเลยกระนั้น?”
“หลายวันที่ผ่านมาลูกชายข้ารักษาตัวอยู่ในบ้าน นางส่งจดหมายมาทุกวันไม่ได้ขาด หรือยังต้องให้ข้าอ่านให้เจ้าฟังทีละคำอีกงั้นรึ?”
หลังจากที่หลี่ซื่อพร้อมพุ่งชนก็ไม่สนใจอะไรอีกแล้ว ลูกชายตนเองเดิมมีโอกาสได้แต่งงานกับองค์หญิง ถ้าไม่ใช่เพราะซ่งปี้อวิ๋นมาเป็นอุปสรรคขัดขวาง ตอนนี้จะตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้อย่างไร?
เกรงว่ากลับเรือนไปแล้วยังต้องถูกนายท่านลงโทษอีก สกุลซ่งในยามนี้ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ถ้าซ่งปี้อวิ๋นเป็นลูกสาวในจวนแม่ทัพซ่งก็คงยอดเยี่ยมนัก หากทั้งเมืองหลวงใครบ้างไม่รู้ว่าตระกูลซ่งทั้งสองตัดขาดกันไปตั้งแต่หลายปีก่อนแล้ว

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...