“เช่ออ๋องเข้าวังไปในยามนี้ก็มิอาจเปลี่ยนแปลงสิ่งใดได้ แต่คราวก่อนในเทศกาลโคมไฟ ข้าเห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างเช่ออ๋องกับเหลียงอ๋องดูจะดีไม่น้อย บัดนี้เรื่องกลายมาเป็นเช่นนี้ คาดว่าระหว่างพวกเขาคงจะเกิดความหมางเมินแล้วกระมัง?”
ซ่งรั่วเจินจำถ้อยคำบรรยายในตำราเดิม เหลียงอ๋องแทบไม่ปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนเลยในยามปกติ ดูเหมือนอ่อนแอ ไม่แก่งแย่งชิงชัง แต่แท้จริงแล้วภายในกลับเย็นชา อำมหิต และจดจำทุกสิ่งทุกอย่างไว้ในใจ
ตวนเฟยคือมารดาผู้ให้กำเนิดของเขาอย่างแท้จริง บัดนี้เพราะเรื่องวุ่นวายถึงเพียงนี้ ย่อมไม่พอใจอย่างแน่นอน
ฉู่จวินถิงมองฮูหยินของตนที่มีท่าทีใคร่รู้ไม่น้อย จึงเอ่ยว่า “เหลียงอ๋องมิใช่ผู้ที่ควรคบหาด้วย ต่อไปพยายามหลีกเลี่ยงการข้องเกี่ยวกับเขาให้น้อยที่สุด”
ซ่งรั่วเจินอดรู้สึกแปลกใจมิได้ นางจำได้ว่าในตำราเดิม ยามนี้แม้แต่ฉู่จวินถิงเองก็มิได้ระแวงเหลียงอ๋อง
อย่างไรเสีย ไม่มีใครจะใส่ใจองค์ชายที่เจ็บออดแอดอยู่แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยว่า ปกติแล้ว องค์ชายผู้นี้ปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนน้อยมาก จึงถูกผู้คนลืมเลือนไปโดยไม่รู้ตัว
หากแต่ในยามนี้จวินถิงกลับเตือนนางโดยเฉพาะ หรือว่าเขาล่วงรู้สิ่งใดเข้าแล้ว?
“หม่อมฉันเข้าใจแล้ว ท่านอ๋องวางใจเถิด ต่อแต่นี้ไม่ว่ามีสิ่งใดเกิดขึ้น หม่อมฉันจะบอกท่านอ๋องทุกประการ”
ซ่งรั่วเจินยิ้มเบา ๆ บัดนี้นางคือพระชายาฉู่อ๋องแล้ว สถานะแตกต่างจากเดิม และในขณะเดียวกันนางเองก็จะกลายเป็นจุดอ่อนของจวินถิงเช่นกัน
ในฐานะสามีภรรยา ระหว่างเขาทั้งสองมิควรมีสิ่งใดปิดบังต่อกัน หากเกิดอะไรขึ้นจริง นางก็จะบอกกล่าวแก่อีกฝ่ายในทันที เช่นนี้จึงจะสามารถทำให้เขาตัดสินใจได้อย่างดีที่สุด
ได้ยินดังนั้น ฉู่จวินถิงก็เผยรอยยิ้มออกมา เขาจูงมือเล็ก ๆ ของซ่งรั่วเจินมุ่งตรงไปยังคลังของจวนอ๋อง
“พรุ่งนี้ก็ต้องกลับไปเยี่ยมบิดามารดาแล้ว เจ้าจงเลือกดูเถิด ว่าอยากนำสิ่งใดเป็นของกำนัลกลับไปด้วย”
“เจ้าค่ะ!”
......

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...