“เจ้าหัวเราะอะไร? เจ้าคือพี่ชายของจิ่งเซิน อย่างน้อยเขาก็เคยชอบสตรีมาบ้าง แต่หลายปีที่ผ่านมา เจ้ากลับไม่มีแม้แต่สตรีที่ชอบเลยสักคน ข้าชักสงสัยแล้วว่าเจ้ามีสติปัญญาหรือไม่!” ซ่งหลินกล่าวด้วยความหงุดหงิด
ซ่งจืออวี้ “??? ข้ากับเขาเกิดวันเดียวกัน”
“เกิดออกจากท้องแม่เร็วกว่านี้ก็ยังดี ใครใช้ให้เจ้าอยู่อันดับที่สามล่ะ?”
ซ่งจืออวี้ “...” ข้ายอมแล้ว ใครใช้ให้ท่านเป็นพ่อข้าล่ะ?
ซ่งอี้อันยืนอยู่ข้าง ๆ เงียบ ๆ หวังเพียงว่าไฟนี้จะไม่ลามมาถึงหัวของตน
แต่แล้วสายตาของซ่งหลินก็หันไปมองที่เขา และกล่าวว่า “เจ้าแม้จะสอบติดจอหงวน แต่ก็ถึงวัยที่ควรแต่งงานนานแล้ว เจ้ายังคิดจะรอถึงเมื่อใด?”
“ตอนนี้ผู้ที่อยากจะให้เจ้าสู่ขอในเมืองหลวงมีไม่น้อย แต่เจ้ากลับไม่ยอมพบปะใครเลย เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ทุกคนพูดกันว่าอย่างไร?”
“พูดว่าอย่างไร?” ซ่งอี้อันถามด้วยความสงสัย
ซ่งหลินมีสีหน้าเอือมระอา “บอกว่าพี่รองอย่างเจ้ายังคิดถึงจ้าวซูหว่านคนก่อน ได้รับความเจ็บปวดจากความรัก ถ้าเป็นสตรีดี ๆ ก็ยังพอรับได้ นี่...เจ้าลองไปฟัง จะฟังต่อได้หรือไม่?”
เขาก็ออกไปทำศึกหลายปี ใครจะคิดว่าสายตาของลูกชายเขาแต่ละคนจะใช้ไม่ได้ขนาดนี้
ทั้ง ๆ ที่สายตาของเขาก็ดีเพียงนี้ เลือกฮูหยินที่ดีมาได้ แต่ก็ไม่รู้ว่าสายตาของเจ้าเด็กพวกนี้เหมือนใครกัน?
ซ่งอี้อัน “...ฟังไม่ค่อยรื่นหูเท่าใดจริง ๆ”
ขณะกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ข้างนอกก็มีเสียงอึกทึกดังลอยมา ซ่งหลินจึงละความสนใจจากลูกชายของตนทันทั ก่อนจะรีบก้าวไปข้างนอก
“เจินเอ๋อร์กลับมาแล้ว!”
“คุณหนูและท่านอ๋องกลับมาแล้ว!” เสียงที่ทั้งอึกทึกและเบิกบานใจดังมาจากข้างนอก

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...