เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ซ่งเยี่ยนโจวน่าไว้วางใจกว่าเหยาจิ่นเฉิงมากนัก
“ข้าเข้าใจ แต่สวี่ซืออี้ไม่ใช่คนที่จะยอมเลิกราโดยง่าย เมื่อวานแค่เกิดเรื่องเล็กน้อย นางก็มาโวยวายเสียแล้ว”
“หากรู้เรื่องนี้เกรงว่าคงจะนำไปขยายความสร้างปัญหาให้อย่างไม่อาจเลี่ยง ข้าต้องบอกพวกเขาให้ชัดเจน จะได้ไม่กระทบต่อชื่อเสียงของชิงอิน”
ในฐานะที่เป็นแม่คน เยี่ยนชิงอวี้ย่อมใคร่ครวญเพื่อลั่วชิงอินอย่างรอบด้าน ก่อนหน้านี้สองบ้านแค่ดูตัวกันเท่านั้น ตอนนี้จะยกเลิกเรื่องมงคลย่อมไม่เป็นไร แต่ไม่อาจปล่อยให้คนพวกนั้นใช้เรื่องนี้มาทำร้ายชิงอิน
พวกซ่งรั่วเจินได้ยินการตัดสินใจของคนตระกูลลั่วก็ทราบว่าพฤติกรรมเมื่อครู่ของคนตระกูลเหยาทำให้พวกเขาไม่คิดจะเป็นดองกับทางนั้นอีกแล้ว เนื่องจากการสนับสนุนของพวกตน ซ่งเยี่ยนโจวจึงได้รับการยอมรับจากตระกูลลั่วอีกครั้ง
“ข้าขอจับชีพจรให้พี่หญิงลั่วได้ไหมเจ้าคะ?” ซ่งรั่วเจินถาม
ดวงตาเยี่ยนชิงอวี้ฉายแววประหลาดใจ “รั่วเจินไปเรียนวิชาแพทย์มาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
“สองปีนี้พอได้เรียนรู้มาบ้างเจ้าค่ะ”
ซ่งรั่วเจินยิ้มบางตอบอย่างรวบรัด ก่อนหน้านี้ตระกูลลั่วสนิทสนมกับครอบครัวนาง ย่อมทราบว่าไม่กี่ปีก่อนนางไม่เคยเรียนวิชาแพทย์
แต่สองปีนี้ไม่ได้ติดต่อกันจึงสามารถกลบเกลื่อนได้โดยไม่ยาก
“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ คิดไม่ถึงว่ารั่วเจินเก่งกาจเช่นนี้”
ลั่วหยวนหงไม่นึกสงสัย ก่อนหน้านี้เขาเคยได้ยินเรื่องที่ซ่งรั่วเจินช่วยดูแลฮูหยินผู้เฒ่าหลินมาบ้าง กล่าวกันว่าป่วยนานจนกลายเป็นหมอ นางดูแลฮูหยินผู้เฒ่าหลินได้ดีขนาดนั้น เห็นได้ชัดว่าตัวนางเองย่อมมีความสามารถอยู่บ้าง
ฉู่จวินถิงเห็นซ่งรั่วเจินเสนอตัวจับชีพจรก็อดประหลาดใจไม่ได้ ก่อนหน้านี้ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่านางรู้วิชาแพทย์ด้วย!
หลังจากซ่งรั่วเจินจับชีพจรให้ลั่วชิงอินเสร็จแล้วก็พบว่าร่างกายของอีกฝ่ายย่ำแย่สาหัสจริงๆ
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...