ถ้าข่าวนี้แพร่ออกไปจะดูเหมือนอะไร? พวกเขายังจะมีหน้าอยู่ไหม?
“พี่สาม ท่านย่าของพวกเรารักและเอ็นดูพวกเราเสมอ บางทีท่านอาจไม่รู้ว่าจะซื้ออะไรดี เลยตัดสินใจให้เงินแทนเพื่อให้พี่รองซื้อสิ่งที่จำเป็น” ซ่งรั่วเจินกล่าว
ซ่งจืออวี้ตบศีรษะตนเอง พลางทำหน้าตกตะลึง “อ้อ ที่แท้เป็นเช่นนี้เอง ข้าผิดเอง ปากไวไปหน่อย”
“ใช่แล้ว ข้าเพิ่งรู้ว่าอี้อันหายป่วยแล้ว จึงรีบมาโดยไม่ได้เตรียมอะไรไว้ เลยนำเงินติดตัวมาให้แทน”
นายหญิงหลิ่วหยิบตั๋วเงินออกมาจากอ้อมอก ยัดใส่มือหลิ่วหรูเยียน แม้ในใจจะปวดร้าว แต่ใบหน้ายังคงยิ้มแย้มอ่อนโยน “หรูเยียน จงดูแลลูกให้ดี ให้เขาได้บำรุงร่างกายเถิด”
“พี่หญิง นี่คือความตั้งใจจริงของข้า”
หลิ่วเฟยเยี่ยนมองตั๋วเงินในมือด้วยใจที่เจ็บปวด เดิมทีคิดว่าจะได้อะไรจากจวนตระกูลซ่งบ้าง ที่ไหนได้ต้องเอาเงินตัวเองออกไปก่อนเสียอีก
“อี้อันรู้เข้าต้องดีใจมากแน่ ๆ อีกประเดี๋ยวข้าจะให้คนไปซื้อของบำรุงร่างกายกลับมา”
หลิ่วหรูเยียนรับตั๋วเงินด้วยรอยยิ้ม ไม่ได้มีท่าทีปฏิเสธแม้แต่น้อย ในใจกลับรู้สึกประหลาดใจยิ่งขึ้น
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แทบไม่เคยได้เงินจากพวกเขาเลย มีแต่พวกเขาเท่านั้นที่เอาไป พอมองใบหน้าของทั้งสองคนที่เจ็บปวดราวถูกตัดเนื้อทิ้ง นางกลับรู้สึกสะใจไม่น้อย
“พวกเราก็คนในครอบครัวเดียวกัน อี้อันได้ดี พวกเราดีใจยิ่งกว่าใคร”
หลิ่วเฟยเยี่ยนยิ้มจนเกือบน้ำตาไหลออกมา ฝืนใจกลบความเจ็บปวดพลางกล่าวว่า “พี่หญิง ท่านต้องช่วยข้านะ ทางฝั่งเซียงอ๋องไม่ยอมยกโทษให้ฮั่นเฟย ตอนนี้เขายังถูกขังอยู่ในคุกอยู่เลย”
“ข้าไปเยี่ยมเขาเมื่อวานนี้ ผอมลงไปมาก เจอหน้าข้าก็ร้องไห้ไม่หยุด ขอร้องให้ข้าช่วยพาเขาออกมา ข้าเป็นแม่มองแล้วช้ำใจยิ่งนัก!”
“ท่านน้า ท่านอาเขยไม่ใช่คนที่มีฝีมือมาตลอดหรือ? หรือว่าในสายตาของเซียงอ๋อง เขายังเทียบท่านแม่ข้าไม่ได้เชียวหรือขอรับ?” ซ่งจืออวี้กล่าวด้วยสีหน้าประหลาดใจ
หลิ่วเฟยเยี่ยนหน้าดำคล้ำขึ้นมาทันที ซ่งจืออวี้ช่างโง่เง่าเสียจริง พูดอะไรไม่คิดผ่านสมองโดยแท้!


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...