“พี่หญิง หรือตอนที่ท่านไปก็ให้เราไปพร้อมกับท่านดีหรือไม่?”
หลิ่วเฟยเยี่ยนเอ่ยขึ้นด้วยความไม่ไว้วางใจ หากเป็นเมื่อก่อนนางคงไม่กังวลอะไรนัก แต่ระยะนี้นางเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าซ่งรั่วเจินเด็กคนนี้ช่างมีเล่ห์เหลี่ยมนัก
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพวกนักต้มตุ๋น หรือครั้งก่อนที่มาจวน นางล้วนไม่ได้ผลประโยชน์เลยสักนิด
พวกนักต้มตุ๋นยังหลอกเอาเงินจากหลิ่วหรูเยียนไปถึงหนึ่งแสนตำลึง ส่วนตัวนางเองก็ได้มาห้าหมื่นตำลึง ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายไม่รู้จะเพลิดเพลินขนาดไหน ของประดับที่เคยเล็งไว้ก็ซื้อมาได้หมด
ใครจะไปคิดว่าหลังจากที่ซ่งรั่วเจินเปิดโปงแผนการ อย่าว่าแต่นักต้มตุ๋นเหล่านั้นถูกจับเข้าคุก พวกเขายังถูกบีบให้คืนเงินทั้งหมดอีกด้วย
นางตกใจกลัวจนต้องรีบขายเครื่องประดับออกไป ซ้ำยังต้องเพิ่มเงินของตัวเองเข้าไปอีก ทำให้ระยะนี้นางอยู่ในสภาพค่อนข้างลำบาก
ตั๋วเงินเมื่อครู่นั้นก็หยิบมาเพื่อช่วยฮั่นเฟยเท่านั้น เดิมทีคิดไว้ว่ามารดาก็มาด้วย ถ้าร้องไห้บีบน้ำตาเรียกคะแนนสงสารสักหน่อย คงพอจะรีดเงินจากหลิ่วหรูเยียนมาได้บ้าง
ใครจะไปคิด...ว่าจะถูกซ่งจืออวี้และซ่งรั่วเจินสองพี่น้องบีบบังคับจนต้องเอาตั๋วเงินออกมา นับว่าขาดทุนหนักจริงๆ!
“เรื่องนี้คงจะไม่เหมาะ เพราะคนที่มาส่งเทียบเชิญบอกไว้แล้วว่า มีเพียงผู้ที่ได้รับเชิญเท่านั้นจึงจะไปได้”
หลิ่วหรูเยียนกล่าวด้วยท่าทางจนใจ แต่ปฏิเสธอย่างเด็ดขาด
“การไปครั้งนี้ก็เพื่อช่วยพูดให้พวกท่าน หากข้าพาพวกท่านไปด้วยโดยไม่บอกกล่าว อาจทำให้จวนเซียงอ๋องไม่พอใจได้ อย่าว่าแต่เรื่องขอให้หานเฟยพ้นโทษเลย เกรงว่าเราคงจะพาลทำให้เซียงอ๋องไม่พอใจไปด้วย”
หลิ่วเฟยเยี่ยนรู้สึกไม่ยอม “แต่ข้า...”
“เฟยเยี่ยน พี่หญิงของเจ้าพูดถูกแล้ว งานเลี้ยงที่จวนเซียงอ๋อง เจ้าไม่ต้องไปเข้าร่วมหรอก”

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...