เมื่อรถม้าจอดสนิทดีแล้ว ซ่งจืออวี้ก็รีบตรงเข้าทำความเคารพฉู่จวินถิง “ท่านอ๋อง กระหม่อมมารับน้องหญิงห้าพ่ะย่ะค่ะ”
ฉู่จวินถิงพยักหน้าพลาง มองไปยังหญิงสาวข้างกาย “เช่นนั้นเจ้ากลับไปก่อนเถิด”
“หม่อมฉันทูลลาเพคะ”
ซ่งรั่วเจินตอบรับไปคำแล้วหมุนตัวเดินออกมา
“จริงสิ เรื่องนั้นมิต้องรีบร้อนไป อย่างไรก็ระวังไว้เป็นดี” ฉู่จวินถิงกำชับไปอีกครั้งด้วยไม่อาจวางใจ
“หม่อมฉันทราบดีเพคะ ขอบพระทัยท่านอ๋อง”
ซ่งรั่วเจินพยักหน้า เห็นชายหนุ่มไม่มีสิ่งใดจะพูดแล้วจึงขึ้นรถม้าไปกับซ่งจืออวี้โดยไม่ได้เหลียวหลังอีก
คืนนี้เรื่องราวมากมายประเดประดัง หากเป็นวันปกตินางคงได้เข้านอนไปนานแล้ว
ฉู่จวินถิงมองตามแผ่นหลังคล่องแคล่วว่องไวของนางไป เขาเม้มริมฝีปากแล้วหัวเราะเบาๆ แม่นางผู้นี้จากไปรวดเร็วดีแท้!
อวิ๋นหยางสังเกตปฏิกิริยาของผู้เป็นนายตนอย่างรอบคอบ ในใจเกิดความตกตะลึง
ปกติแล้วจะมีก็แต่ภาพแม่นางมองตามหลังท่านอ๋องอยู่ไกลๆ มีหรือจะได้เห็นภาพท่านอ๋องมองตามหลังแม่นางคนใดจากไปเช่นนี้?
“ท่านอ๋อง ทรงชอบพอคุณหนูซ่งอยู่หรือพ่ะย่ะค่ะ?” อวิ๋นหยางลองเชิงถาม
ฉู่จวินถิงเพียงเหลือบมองเขาไปที ความเยียบเย็นที่แผ่ซ่านออกมาเปี่ยมด้วยอานุภาพกดดัน ทว่าอวิ๋นหยางเห็นว่าท่านอ๋องไม่ได้ห้ามปรามไม่ให้เขาพูดต่อ ก็เข้าใจได้ในทันที
“วันนี้คุณชายสวีสารภาพความในใจต่อหน้าผู้คนมากมาย ข้าน้อยเห็นว่ากระทั่งซ่งฮูหยินก็ยังดูพออกพอใจในตัวเขาอยู่ไม่น้อย”
“หลังคุณหนูซ่งช่วยสวีฮูหยินตามเจอบุตรสาวกลับคืนมาได้ สกุลสวีและสกุลซ่งก็สนิทชิดใกล้กันมากยิ่งขึ้น ยิ่งมีสองมารดาคอยเป็นสะพาน ก็นับได้ว่าสำเร็จสมประสงค์ไปครึ่งทางแล้ว”
“หากท่านอ๋องชอบพอคุณหนูซ่ง คงต้องเร่งหน่อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”
อวิ๋นหยางรู้สึกกังวลแทนท่านอ๋องของตน ตลอดหลายปีมานี้ ไม่เคยพบเคยเห็นท่านอ๋องสนใจไยดีแม่นางผู้ไหนเลยแม้แต่สักคน
บัดนี้ได้พบก็ว่าไม่ง่ายดายแล้ว จะปล่อยพลาดคลาดกันไปได้อย่างไร!


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...