“ข้าไม่ให้ท่านทำเปล่า ๆ แน่นอน บ้านข้าอยู่ในเมืองหลวงนี่เอง ท่านไปสักรอบก็ไม่ไกลหรอก คนในครอบครัวข้าจะต้องตามหาข้าอยู่เป็นแน่ ขอเพียงท่านบอกเบาะแสของข้าต่อพวกเขา พวกเขาจะต้องตกรางวัลขอบคุณท่านแน่นอน”
“หืม?” ซ่งรั่วเจินเลิกคิ้ว คิดไม่ถึงว่าแม้เจ้าผีน้อยจะอายุไม่มาก แต่กลับเข้าใจอะไรไม่น้อย “ไหนลองพูดมาซิ”
ภายใต้คำบอกเล่าของผีน้อย ซ่งรั่วเจินถึงรู้ว่าที่แท้เจ้าผีน้อยตนนี้ก็มีนามว่าต่งเป๋ยอวี่ เป็นหลานชายต่งหลินชิงรองเจ้ากรมพิธีการ
หลายเดือนก่อน เขารังเกียจว่าอยู่บ้านน่าเบื่อเกินไป จึงติดตามท่านย่ากับอาสะใภ้กลับไปเยี่ยมญาติที่บ้านเดิม คิดไม่ถึงว่ากลับถูกอาสะใภ้ทำร้ายจนถึงแก่ชีวิต สุดท้ายศพยังถูกโยนทิ้งลงในบ่อน้ำที่แห้งขอด
“เหตุใดอาสะใภ้ของเจ้าต้องทำร้ายเจ้าด้วย?” ซ่งรั่วเจินขมวดคิ้วแน่น เจ้าผีน้อยตรงหน้าดูแล้วก็อายุแค่หกเจ็ดขวบ ไยต้องลงมือโหดร้ายถึงเพียงนี้?
ต่งเป๋ยอวี่ส่ายศีรษะน้อย ๆ “ข้า...ข้าก็ไม่รู้”
“งั้นเจ้าเล่าเรื่องครอบครัวเจ้าให้ข้าฟังโดยละเอียดแทนก็แล้วกัน” ซ่งรั่วเจินไม่รีบร้อน ถึงจะตัดสินใจแล้วว่าจะช่วย แต่ก็ต้องรู้สาเหตุเสียก่อน
ตำแหน่งรองเจ้ากรมพิธีการนั้นไม่ต่ำต้อย หลายปีมานี้เจ้าของร่างเดิมดูแลกิจการของตระกูลซ่งก็ได้ติดต่อฮูหยินจำนวนไม่น้อย บังเอิญว่านางเคยได้ยินเกี่ยวกับอาสะใภ้ในคำบอกเล่าของต่งเป๋ยอวี่มาอยู่บ้าง อีกฝ่ายมีชื่อเสียงดีงามในเมืองหลวง แต่นางก็เคยได้ยินความลับเรื่องหนึ่งมาด้วยเช่นกัน
รองเจ้ากรมพิธีการมีบุตรชายสองคน บุตรชายคนโตชื่อต่งหานโจว บุตรชายคนเล็กชื่อต่งจู๋ซู
บุตรชายคนโตมีบุตรชายสองหญิงหนึ่ง มีต่งเป๋ยอวี่เป็นบุตรชายที่อายุน้อยที่สุด แต่ต่งจู๋ซูกลับมีบุตรสาวเพียงคนเดียว สวี่ซื่อผู้เป็นภรรยาก็ไม่ได้ให้กำเนิดบุตรคนอื่นอีก
“ก่อนหน้านี้อาสะใภ้ดีกับข้ามาโดยตลอด ทุกครั้งที่เจอกันก็มักยิ้มแย้มแจ่มใส ต่อให้ท่านแม่ตำหนิข้า อาสะใภ้ก็จะช่วยพูดให้ข้า การกลับไปเยี่ยมญาติครั้งนี้ก็เป็นเพราะท่านแม่ไปเชิญอาจารย์มาสอนหนังสือข้า ข้าไม่อยากเรียน อาสะใภ้จึงเสนอว่าจะพาข้าไปผ่อนคลายอารมณ์...”
ผีน้อยพูดอยู่ดี ๆ ก็ก้มหน้า ความแค้นเคืองในดวงตากลับเข้มข้นมากขึ้นทุกที “ข้าไม่เข้าใจเลย เหตุใดอาสะใภ้ต้องทำร้ายข้าด้วย”
ซ่งรั่วเจินฟังแล้วกลับเข้าใจได้ในทันที สวี่ซื่อผู้นี้เป็นเสือหน้ายิ้มที่สังหารคนด้วยวิธีชมจนเหลิง
กู้อวิ๋นเวยไม่คิดว่าหลิ่วหรูเยียนจะมาทวงคำอธิบายถึงที่ ก็รู้สึกตระหนกอย่างไม่อาจเลี่ยง “ซ่งฮูหยิน ท่านมาทำอะไรหรือ?”
“ข้ามาทำอะไร เจ้าไม่รู้จริง ๆ งั้นรึ? ระหว่างเจ้ากับข้าไม่มีความแค้นต่อกัน แต่เจ้ากลับยุยงให้ลูกสาวเจ้าใช้วิธีชั้นต่ำเช่นนี้ ช่างต่ำทรามนัก”
หลิ่วหรูเยียนสีหน้าเย็นชา เดิมนั้นนางไม่มีทางมา แต่นึกขึ้นได้ว่าวันนี้แม่ทัพไป๋อาจารย์ของสามีนางมาเป็นแขกที่จวนตระกูลฉินพอดี ทั้งได้ยินว่าก่อนหน้านี้ตระกูลฉินมีใจอยากเกี่ยวดองกับตระกูลไป๋ จึงรู้สึกว่าไม่มาไม่ได้แล้ว
ก่อนหน้านี้สองบ้านไม่มีความแค้นต่อกัน นางไม่มีทางสอดมือ แต่ตอนนี้ฝ่ายตรงข้ามวางแผนทำร้ายพวกตนทุกย่างก้าว จะปล่อยให้พวกนั้นเกี่ยวดองกับตระกูลไป๋สำเร็จได้อย่างไร? วันหน้าไม่รู้ว่าจะต้องเจอเรื่องยุ่งยากมากมายเท่าไร!
“ข้าไม่รู้ว่าท่านพูดถึงอะไร” กู้อวิ๋นเวยไม่ยอมรับ ในใจรู้สึกตระหนกเหลือแสน ทั้งที่ทำอย่างเป็นความลับมากแล้วแท้ ๆ ตระกูลซ่งรู้เรื่องได้อย่างไรกัน?
“หยุดเสแสร้งได้แล้ว ลูกสาวเจ้าถูกจับกุมไปที่ศาลาว่าการซุ่นเทียนแล้ว แทนที่จะมาแก้ตัวอยู่ตรงนี้ มิสู้เอาเวลาไปคิดว่าจะพาตัวลูกสาวออกมาจากศาลาว่าการอย่างไรจะดีกว่า ผู้ใหญ่เลวร้ายฉันใด ผู้เยาว์ก็เลวร้ายฉันนั้น!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...