หลิ่วหรูเยียนแค่นเสียงเย็นชา นางรู้ว่าฉินฮูหยินตรงหน้าเป็นภรรยาที่แต่งเข้าบ้านหลังภรรยาคนเก่าสิ้นบุญ แต่ชื่อเสียงกลับไม่ได้น่าฟังเหมือนภรรยาที่มาแต่งงานใหม่ทั่วไปเลยสักนิด
ได้ยินว่าสมัยที่ฮูหยินคนเก่ายังอยู่ แม่ทัพฉินก็แอบสานสัมพันธ์กับกู้อวิ๋นเวยแล้ว ต่อมาฮูหยินผู้นั้นสิ้นบุญ กู้อวิ๋นเวยจึงแต่งเข้ามา ยามนี้มาคิดดูแล้วพฤติกรรมของฉินซวงซวงก็เหมือนผู้เป็นแม่ไม่มีผิดเพี้ยน!
ไร้ยางอายสิ้นดี!
“อวี้เอ๋อร์” หลิ่วหรูเยียนขานเรียก
ซ่งจืออวี้ยกฆ้องขึ้นตีโดยพลัน เสียงดังครึกโครมดึงดูดความสนใจของทุกคนได้ในชั่วพริบตา แม่ทัพไป๋ที่อยู่ในจวนก็ถูกเสียงดังดึงดูดความสนใจจนออกมาดูด้วยเช่นกัน
“หรูเยียน เจ้ามาได้อย่างไร?” แม่ทัพไป๋ถามอย่างประหลาดใจ
หลิ่วหรูเยียนมีสีหน้าเจ็บช้ำใจ “อาจารย์เจ้าคะ ตระกูลฉินชั่วร้ายเกินไปแล้ว สามีข้ายังไม่กลับมา พวกเขาก็คิดจะเอาชีวิตพวกข้าทุกคน...”
เมื่อซ่งรั่วเจินมาถึงก็ได้เห็นฉากที่แสนจะครึกครื้นเช่นนี้เอง กู้อวิ๋นเวยยืนอธิบายอยู่ข้าง ๆ หากแต่ไร้คนเชื่อ มารดาของนางกุมสถานการณ์ไว้ได้อยู่หมัด
ถึงแม่ทัพไป๋จะเป็นอาจารย์ของบิดา แต่ปฏิบัติต่อบิดานางเสมือนเป็นลูกชายของตนเอง เวลานี้ย่อมเชื่อถือตระกูลซ่ง เห็นเขาเดือดดาลจนหนวดเครากระเพื่อมดวงตาถมึงทึง แม่ทัพฉินเองก็พยายามอธิบายด้วยความร้อนใจเหมือนมดบนกระทะร้อน
“เห็นทีที่นี่คงไม่จำเป็นให้ข้าออกโรงแล้ว”
นางหัวเราะเบา ๆ แล้วเดินไปทางประตูหลังของจวนตระกูลฉิน
“คุณหนู ขออภัยด้วยขอรับ”
ขอทานคนหนึ่งมาชนซ่งรั่วเจินเข้าโดยไม่ตั้งใจตรงหัวเลี้ยว จึงรีบคุกเข่าลงขอโทษขอโพยอย่างลนลาน
“ไม่เป็นไร” ซ่งรั่วเจินเห็นว่าขอทานน้อยอายุราวสิบเจ็ดสิบแปดปี ผอมจนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก ชุดที่สวมก็เก่าขาดคร่ำคร่า แม้แต่รองเท้าที่สวมก็ยังขาดเป็นรูโบ๋จนเผยให้เห็นนิ้วเท้า ทันใดนั้นก็คิดแผนการหนึ่งขึ้นมาได้
ซ่งรั่วเจินแอบเข้าไปในจวนตระกูลฉินทางประตูหลัง เนื่องจากข้างหน้าวุ่นวายใหญ่โต ทุกคนแทบจะไปชมความครึกครื้นกันหมดแล้ว ย่อมไม่มีเวลามาสนใจประตูหลัง
สองมือของนางประสานเป็นท่ามุทรา พลังงานสายหนึ่งพลันปรากฏขึ้น ครั้นเลื่อนพลังงานนั้นขึ้นมาแนบกับดวงตาก็สามารถมองเห็นการไหลเวียนของโชคในจวนตระกูลฉินได้อย่างชัดเจน ในนั้นมีกระแสที่แสนคุ้นเคยอยู่สายหนึ่ง เกี่ยวข้องกับตระกูลซ่งของพวกนาง
ซ่งรั่วเจินมาถึงเรือนพำนักของกู้อวิ๋นเวย จากนั้นก็เริ่มขุดจากมุมหนึ่งที่อยู่ข้าง ๆ ไม่นานก็ขุดพบสิ่งของของครอบครัวตนเอง
นางมองค่ายกลสลับชะตาตรงหน้าพลางแค่นหัวเราะ หลายปีนี้ตระกูลฉินมีอิทธิพลในเมืองหลวงระดับธรรมดา เพราะแม่ทัพฉินมีความสามารถไม่โดดเด่น ตัดสินใจใช้กลยุทธ์ผิดพลาดในการรบครั้งก่อน ภายหลังยังไม่มีโอกาสสร้างความชอบชดเชยความผิด
หากมิใช่เพราะเห็นแก่ที่กู้อวิ๋นเวยเป็นลูกสาวของราชครูกู้ ความรุ่งเรืองคงสูญสิ้นไปนานแล้ว หันกลับมามองบิดานาง เส้นทางราชการราบรื่น มีอาจารย์อย่างแม่ทัพไป๋คอยชี้แนะ ทั้งยังรบชนะกลับมาติดต่อกัน จึงได้มีความคิดเช่นนี้ขึ้นมา
นางนำของของครอบครัวตนเองออก แล้ววางรองเท้าของขอทานผู้นั้นไปแทนที่
ในเมื่อชอบสลับชะตาถึงเพียงนี้ งั้นสลับกับขอทานไปก็แล้วกัน!

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...