“ท่านอ๋อง…”
“ข้าพึงใจเจ้า”
ทั้งสองเอ่ยขึ้นเกือบจะพร้อมๆ กัน เดิมทีซ่งรั่วเจินคิดจะเป็นฝ่ายเอ่ยปากพูดเพื่อทำลายบรรยากาศน่ากระอักกระอ่วนนี้ ทว่ากลับได้ยินถ้อยคำของฉู่จวินถิงเข้าพอดิบพอดี
“วะ...ว่าอย่างไรนะเพคะ?”
“ข้าพึงใจในตัวเจ้า”
ฉู่จวินถิงกล่าวซ้ำย้ำอีกครั้ง นับแต่วินาทีที่ได้กล่าวออกไป ในใจเขาก็รู้สึกโปร่งโล่งขึ้นไม่น้อย
ซ่งรั่วเจินชะงักไป ไม่พูดถึงไม่ได้เลยว่าถ้อยคำลึกซึ้งตรึงใจคนเช่นนี้ เมื่อออกมาจากปากของฉู่จวินถิงแล้วอานุภาพช่างรุนแรงสะท้านสะเทือนยิ่งนัก
สีหน้ายามกล่าวถ้อยร้อยคำจริงใจเป็นยิ่ง ราวกับถ้อยคำสาบาน ดวงตาลึกล้ำและหนักแน่นคู่นั้นจดจ้องอยู่ที่นาง ภายในอัดแน่นด้วยความลึกซึ้งจริงใจไม่สร่างซา
“ครั้งแรกที่ข้าได้พบกับเจ้านั้น เป็นยามที่เจ้ากล้าถอนหมั้นต่อหน้าผู้คนมากมาย เมื่อนั้นข้าก็รู้ทันทีว่าเจ้าไม่เหมือนผู้ใด เจ้ากล้าหาญชาญฉลาด เด็ดเดี่ยวไม่โอนอ่อนโลเล”
“จากนั้นทุกคราที่ได้พบกัน ก็ล้วนถูกเจ้าทำให้ประหลาดใจอยู่เสมอ ถูกสะกดตรึงเอาไว้เช่นนั้นโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว จึงได้คิดอยากทำทุกวิถีทางไปปรากฏอยู่ข้างกายเจ้า”
“ตลอดหลายปีมานี้ข้ามิเคยถูกตาต้องใจในผู้ใด จึงมิเคยรู้เช่นกันว่าการชอบพอผู้ใดนั้นจะเกิดเป็นความรู้สึกเช่นไร ความรู้สึกจึงได้ช้าเฉื่อยไปสักหน่อย”
“จนถึงก่อนหน้านี้ไม่นาน ยามค่ำข้าปิดตาลงหลับก็มักจะนึกคะนึงหาแต่เจ้า ยามรุ่งได้ข่าวคราวว่าที่ใดมีของอร่อยก็ล้วนคิดอยากให้เจ้าได้ลิ้มลอง เห็นเหล่าคุณหนูนิยมชมชอบของสิ่งใดก็มักจะนึกถึงเจ้าขึ้นมา”
“จนกระทั่งถูกคนทักท้วง ว่าการนึกคิดถึงใครสักคนอยู่บ่อยครั้งเช่นนี้เรียกว่าความชอบ ข้าจึงเพิ่งรู้ตัว”
“เรื่องเมื่อคืนวานล้วนเป็นความผิดของข้า ในวันนี้ข้าได้อธิบายกับเสด็จแม่ไปหมดสิ้นแล้วว่าข้ามิได้มีใจต้องการจะหมั้นหมายกับสกุลถัง”
“ในเมื่อคนที่ข้าพึงใจมีแต่เจ้าเพียงผู้เดียว”
ใบหน้าของซ่งรั่วเจินร้อนผะผ่าว ทั้งที่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่นางถูกสารภาพรัก ทว่าไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าเมื่อชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลามากเสน่ห์เช่นนี้มากล่าวถ้อยคำหวานแบบนี้อยู่ต่อหน้าแล้ว ช่างยากจะทานทนได้จริงๆ!
เพียงแต่เมื่อนึกถึงเรื่องราวก่อนนี้ยามที่นางได้พบกับฮองเฮา ในใจก็พลันสงบนิ่งลง


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...