ซ่งรั่วเจินได้ยินถ้อยคำเสียดสีของเมิ่งชิ่นแล้วก็แทบกลั้นรอยยิ้มตรงมุมปากไว้ไม่อยู่
นางรู้แจ่มแจ้งว่าสิ่งที่เคอหยวนจื่อชอบก็คือความฟุ้งเฟ้อเหล่านี้เอง ของใช้ล้วนแต่เป็นสิ่งของคุณภาพดีเลิศ
ถ้าสิ่งที่ซ่งจิ่งเซินมอบให้ไม่ใช่ของชั้นดีเลิศ นางยังจะไม่พอใจเสียอีก นี่ยังเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ก่อนหน้านี้ซ่งจิ่งเซินอยากขยายกิจการไปยังเมืองอื่นๆ
เมื่อเป็นเช่นนี้ สิ่งของที่ทันสมัยและพิเศษที่สุดก็จะตกถึงมือเขาในทันที และยังสามารถเรียกรอยยิ้มของเคอหยวนจื่อได้อีกด้วย
ตอนนี้ดีนัก ให้เคอหยวนจื่อได้ลิ้มรสชาติของการทุ่มก้อนหินใส่เท้าตัวเองสักครา!
เคอหยวนจื่อมองไปทางชวีคั่วอย่างน้อยอกน้อยใจ ฝ่ายหลังสบสายตาดุจสายน้ำในฤดูใบไม้ผลิแล้วก็พลันพลุ่งพล่านใจ ชี้นิ้วตำหนิซ่งจิ่งเซินเสียงเกรี้ยว
“ซ่งจิ่งเซิน เจ้าช่างน่าไม่อายจริงๆ ก่อนหน้านี้บอกว่าชอบเคอหยวนจื่อจากใจจริง ตอนนี้กลับจะทวงสิ่งของกลับคืนไป เจ้าพูดออกมาได้อย่างไร?”
“ทำไมข้าจะพูดออกมาไม่ได้? นางบอกเองว่าไม่มีสัมพันธ์กับข้า สิ่งของเหล่านั้นเป็นภาระสำหรับนาง”
“ก่อนหน้านี้เจ้าบอกเองว่าข้าทำไม่ถูกที่ฝืนใจนาง ยามนี้ข้าไม่ฝืนใจแล้วก็ยังไม่ถูก คำพูดล้วนถูกเจ้าพูดไปหมดแล้ว จะพูดอย่างไรก็เป็นความผิดของข้าอยู่ดีสินะ?”
ซ่งจิ่งเซินหลุดหัวเราะออกมา ดวงตาสาดประกายเยาะหยัน “นอกจากนี้ ตอนข้ามาพวกเจ้าทำอะไรกันอยู่ พวกเจ้ารู้แก่ใจดี!”
ก่อนหน้านี้เขายืนอยู่ด้านหลังคนทั้งสอง เห็นว่าเคอหยวนจื่อแทบจะซุกเข้าไปในอ้อมกอดของชวีคั่วอยู่รอมร่อ
ใครเขาปลอบโยนคนอื่นแบบนี้กัน?
ตอนนั้นเขารู้สึกอึดอัดใจ ยามนี้พอรู้ว่าเมื่อก่อนตนเองชอบเคอหยวนจื่อจึงเข้าใจสาเหตุ แต่หลังจากที่รู้สาเหตุ เขาก็ยิ่งไม่เข้าใจตนเองในอดีตมากกว่าเดิม
เขาชอบลงไปได้ยังไงกันนะ?
ชวีคั่วหน้าเปลี่ยนสี “เจ้าพูดเหลวไหลอะไร?”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...