“ใช่แล้ว แม่นางคนหนึ่งอ้าปากเรียกบุรุษคนหนึ่งเข้าห้อง หน้าไม่อาย!” ซ่งจืออวี้พูดแขวะ
เคอหยวนจื่อโมโหแทบตายแล้ว ทำได้เพียงมองทางซ่งจิ่งเซินอย่างโศกเศร้า นางไม่เชื่อหรอกว่าชายคนนี้จะหักใจทำกับนางเช่นนี้ได้!
“จิ่งเซิน ข้า...”
“ไม่ต้องพูดมากแล้ว” ซ่งจิ่งเซินยกมือตัดบทสนทนาของนาง “เดิมทีพวกเราก็ไม่เกี่ยวข้องกัน พูดไม่ได้ว่ามีเยื่อใย นำของออกมาเถอะ”
ซ่งจืออวี้เท้าเอว พูดว่า “พวกเจ้าเป็นอะไรไป? พวกเรากำลังรออยู่นะ หรือจะให้พวกเรายืนเสียเวลาเช่นนี้?”
คนบ้านรองสกุลเคอพูดออกมาอย่างสุดระงับ “พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านรีบนำของออกมาเถอะ!”
“ดูท่าทางวางอำนาจบาตรใหญ่ของพวกเขา หากท่านยังไม่นำของออกมา นั่นต้องถูกตราหน้าว่าพวกเราละโมบในสิ่งของของพวกเขาแน่ ก็ไม่ดูบ้างว่าสกุลเคอของพวกเราเป็นตระกูลเยี่ยงไร ไฉนเลยจะละโมบสิ่งเหล่านี้?”
นายหญิงเคอร้อนใจ หันมองเคอหยวนจื่ออย่างโมโห “วิธีที่เจ้าพูดเล่า?”
เคอหยวนจื่อ “...” วิธีของนางต้องเข้าห้องก่อนจึงจะสามารถใช้ได้
ซ่งรั่วเจินเยาะหยันออกมา “แม่นางเคอ เจ้าคงไม่วางแผนพาพี่สี่ข้าเข้าห้อง จากนั้นใช้วาจาหว่านล้อมเหมือนที่ผ่านมา จะได้ให้เขาเป็นฝ่ายยอมแพ้หรอกกระมัง?”
คนกลุ่มนี้ของสกุลซ่งไฉนเลยจะไม่เข้าใจ หากอีกฝ่ายยินดีคืนจริง ก็คงไม่อ้ำอึ้งพูดไม่ออกเช่นนี้
ซ่งจืออวี้เห็นคนเหล่านี้ต้องการเบี้ยวหนี้ โมโหขึ้นมาระลอกหนึ่ง
“เมื่อวานพวกเจ้าพูดเองกับปากต่อหน้าคนมากเพียงนั้น ตอนนี้คิดจะเบี้ยวหนี้ พวกเจ้าสกุลเคอหน้าไม่อายเพียงนี้เชียวรึ?”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...