“ต่างหูหยกไป๋อวี้หลานหนึ่งคู่!”
“สร้อยข้อมือไข่มุกหนึ่งเส้น!”
ผู้ดูแลบ้านตะโกนเสียงดัง ยกของหนึ่งชิ้นนับหนึ่งรายการต่อหน้าทุกคน
ทุกคนยิ่งฟังยิ่งตกตะลึง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นของเล่น แต่ทุกชิ้นราคาไม่ธรรมดา
เพียงกล่องเดียวก็มีราคาชวนตกตะลึงแล้ว ยังไม่ต้องพูดถึงรายงานสิ่งของยาวเหยียดคนมองแล้วก็สายตาพร่ามัว ช่างน่าตกใจเหลือเกิน!
“พี่สี่ ท่านพูดซิ แม่นางเคอล้วนไม่ยินดีรับไว้ ท่านยังยัดเยียดสิ่งของมากมายเพียงนี้ สร้างความวุ่นวายให้นางมากเพียงใด!” ซ่งรั่วเจินขมวดคิ้ว
ซ่งจิ่งเซินถูจมูก “ข้าผิดไปแล้ว”
จากนั้น ถ้อยคำนี้ตกอยู่ในหูของทุกคน ใครบ้างไม่รู้อย่างกระจ่างชัด?
หากไม่ยินดีรับไว้ สิบชิ้นรับไว้เพียงชิ้นเดียวก็พอ แต่ของมากเพียงนี้...นี่ไม่อยากรับไว้ที่ใดกัน?
นี่รับมาจนมั่งคั่งร่ำรวยไปแล้ว!
จนกระทั่งตรวจนับทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ทุกคนพบว่ามียังมีไม่ถึงครึ่ง สายตาตกลงบนตัวนายหญิงเคอและเคอหยวนจื่อ
“ที่เหลืออยู่ที่ใด?” ซ่งจิ่งเซินเอ่ยถาม
นายหญิงเคอเก้อกระดาก ฝืนยิ้มออกมา “จิ่งเซินเอ๋ย เหล่านี้มีผ้าไหมผ้าแพรล้วนนำมาตัดเย็บเป็นเสื้อผ้าแล้ว นี่จึงไม่มี”
“มากเพียงนี้กลับไม่เหลือแล้ว?” ซ่งจืออวี้ตกตะลึงพรึงเพริด “เสื้อผ้าสวมไปแล้วก็ช่างเถอะ ยังมีเครื่องประดับหายากบางส่วน หรือว่าถูกพวกท่านกินไปแล้ว?”
นายหญิงเคอเกิดโทสะภายในใจ รู้ว่าซ่งจืออวี้พูดออกมาโดยไม่ยั้งคิด ทำให้นางพูดไม่ออก ทำได้เพียงหันมองเคอหยวนจื่อ
“ไม่ได้กิน เอ่อ... เอ่อ...”
เคอหยวนจื่อกำลังครุ่นคิด ซ่งจืออวี้กลับเข้าใจ “เอาไปแปลงเป็นเงินใช้แล้วกระมัง?”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...